เจอกันใหม่แยกหน้า

เรื่องราวลึกลับบนท้องถนนช่างมีมากมายเหลือเกิน   ถนนที่ผู้คนใช้สัญจรไม่ว่าจะในเมืองใหญ่หรือถนนรอบนอกตรอกซอกซอยก็เคยมีคนตายมาก่อนทั้งนั้น

แสงไฟในเมืองใหญ่  ถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านและยานยนต์สัญจรไปมากมาย ใครจะไปนึกว่าจะเจอเรื่องราวน่าสยองขวัญได้ขนาดนี้

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมืองประมาณ 5 ปีก่อน  ตอนนั้นฉันพักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่  ทุกวันฉันจะห้องดึกมากเพราะมักมีการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงอยู่เสมอและตอนนั้นกฎหมายเมาแล้วขับก็ไม่ค่อยหนักเหมือนทุกวันนี้.............

ขอบรรยายสภาพคอนโดก่อน  คอนโดที่ฉันอยู่ค่อนข้างเก่าแล้วอยู่ในซอยหลังโรงแรมร้างเเห่งหนึ่ง  เป็นอาคารคอนโดเรียงกันไป ตั้งแต่ เอ-อี บรรยากาศค่อนข้างเงียบ  ถัดจากตึกอีจะมีสระว่ายน้ำที่ไม่ได้ใช้งานและอยู่  บริเวณของคอนโดมีต้นสนสูงเท่าตึกคอนโด ปลูกเป็นแนวอยู่ แต่ละตึกจะสูงประมาณ 5-6 ชั้น ชั้นบนมีดาดฟ้า  อาคารที่ฉันพักคือ ตึกดี

และในที่สุดก็เป็นวันที่เราเจอดีเข้า แต่ดูจะหนักกว่าใครๆ วันนั้นเราพาเพื่อนไปทานข้าวเที่ยงที่ห้องและบอกเพื่อนว่าเย็นๆจะออกไปส่ง  แต่ก็เผลอหลับไปตื่นเอาก็จะสามทุ่มแล้ว  เราและเพื่อนจึงออกมากัน  ตอนที่ลงมาถึงด้านล่างของตึกเรามองไปทางตึกอี  เห็นร่างผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่บริเวณที่เคยเห็นป้าคนหนึ่งมาจุดเทียนไว้   เรามองและหลบสายตาทันทีเพราะคิดว่าใช่แน่ๆ แต่แล้วเพื่อนเจ้ากรรมดันทัก "นั่นผู้ชายใช่ป่ะแก" เราจึงตอบว่า "อืม รีบขึ้นรถเหอะ จะได้รีบไป ละก็ไม่ต้องพูดมาก" เพื่อนเรายังยกมือโบกลาร่างนั้นอีกด้วย  เราต้องขับรถไปส่งเพื่อนที่อีกด้านหนึ่งของเมือง  คือต้องผ่านไฟแดงหลายจุดนั้นเอง  ไฟแดงที่ 1 เราติดไฟแดงมองไปด้านซ้ายของแยกเป็นทางค่อนข้างมืด และแล้วเราก็เห็นร่างของใครคนหนึ่งอยู่ในความมืดนั้น ร่างนั้นสูงพอกับร่างชายที่เราเห็นที่ตึกอี  เราได้แต่นั่งเงียบๆ รอเวลาที่เมื่อไรไฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสักที  เพื่อนเราก็จ้อไม่หยุดว่า"น่าจะให้ไปทักทายหนุ่มคนนั้นหน่อยดูน่าตาดีออก"  เราจึงบอกเพื่อว่า "เงียบๆก่อนได้ป่ะ"   ผ่านแยกที่หนึ่งไปประมาณห้านาที  แยกที่ 2  คราวนี้เราก็ติดไฟแดงเป็นคันแรกๆเหมือนเดิมแต่แยกนี้มีเกาะกลางถนน  ตาเจ้ากรรมก็ดันไปเห็นชายคนเดิมยืนตรงเกาะกลางคราวนี้เริ่มเห็นตัวเค้าชัดขึ้นเริ่มเห็นหน้าตาแต่ใบหน้าของเค้ามีแผลและหัวของเค้าก็ยุบไปข้างหนึ่งและที่สำคัญไม่ได้มาคนเดียวที่นี้มียายแก่ๆคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย  เราเริ่มสวดมนต์ในใจ  และ "ขอให้อย่าตามเรามาอีกเลย  เรากลัวแล้ว  แล้วเดียวเราจะไปทำบุญให้" เราเริ่มขับรถเร็วขึ้นจนเพื่อนต้องถามว่ามีอะไร  "ฉันเห็นแกมองกระจกหลังและก็เร่งเครื่องทุกครั้ง" เราจึงตอบว่า"เออน่าเดียวคืนนี้ฉันนอนห้องแกนะ เดี๋ยวไปถึงที่ห้องแก่แล้วฉันจะเล่าให้ฟัง" เราขับรถมาเรื่อยๆตาก็คอยมองกระจกเพราะตั้งแต่แยกเมื่อกี้เราเห็นสองคนนั้นตามมา  แต่แล้วก็ไม่เห็นอะไรที่หลังรถและก็ไม่เห็นทั้งสองคนนั้นอีก  จนสี่แยกสุดท้ายก่อนถึงห้องของเพื่อนฉัน   สี่แยกนี้ค่อนข้างจะใหญ่มาและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย  และที่ข้างเสาสัญญาณไฟนั่น  มาอีกแล้วชายคนเดิมเพิ่มเติมคือหัวเละ คุณยายหน้าซีดและมีเลือดเต็มตัว และยังมีเด็กถือพวงมาลัยหัวบี้  ยังมีสาวนักศึกษาครึ่งท่อน "ตายกูตายแน่ๆ" เราคิดในใจเพราะในชีวิตนี้ก็ไม่เคยเห็นผีมารวมตัวกันเยอะขนาดนี้มาก่อน  พอสัญญาณไฟเป็นสีเขียวเรารีบออกรถ ไปให้ถึงห้องพักของเพื่อนเลย  ดีที่ห้องพักของเพื่อนมีศาลพระภูมิและด้านล่างก็ยังมีรูปของเสด็จพ่อร.5  อยู่มันเริ่มทำให้เราใจชื่นขึ้นมา  พอถึงห้องเพื่อเราก็เริ่มเล่าทุกอย่างที่เราเจอมาตั้งแต่ออกจากคอนโดและแต่ละแยกที่ผ่านมา  เพื่อนเราออกจะตกใจเล็กๆเพราะมันไม่ค่อยกลัวผีสักเท่าไร  มันจึงบอกว่า " เออใช่เมื่อวันก่อนมีนักศึกษาขี่มอไซด์ผ่าไฟแดง โดนรถทับตายคาที่อยู่กลางเเยกนั่นเลย งั้นพรุ่งนี้เช้าเราไปทำบุญกันนะ" ฉันตอบตกลงโดยไม่ลังเล  คืนนั้นฉันไม่สามารถหลับลงได้  คอยแต่ให้เวลาผ่านไปเเละรีบๆเช้าสักที  พอถึงตอนเช้าก็รีบไปทำบุญกรวดน้ำให้แก่ดวงวิญญานที่ฉันเห็นเมื่อคืนนี้ทุกดวงและได้แต่หวังว่าคงจะไม่ได้พบดวงวิญญาณเหล่านี้อีกในแยกถัดไป......แล้วเจอกันใหม่...ขอบคุณ