เผลอใจให้ 4088 โค้ง หลังจากพิชิต 4088 โค้งมาได้ เราก็มาจอดกันที่ สะพานประวัติศาสตร์ปายเพื่อแวะถ่ายรูปและเป็นสถานีพักจากการเวียนหัวจากโค้งที่เราเพิ่งผ่านมา555 จากนั้นเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางของ ก็คือ "ปางอุ๋ง" นั่นเอง จะบอกว่าหายเหนื่อยและคุ้มค่าจริงๆสำหรับการเดินทางมาที่นี้ สมกับคำที่บอกกันว่าเป็นสวิสแลนด์เมืองไทย ใครอยากมาสัมผัสความหนาว ถ้าคุณมาปางอุ๋งรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ปางอุ๋งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเราไม่ต้องกลัวอดตาย เพราะมีร้านอาหารตามสั่งและร้านของชำเปิดอยู่ มาพูดถึงที่พักกันบ้าง ความจริงมีที่พักหลายแบบให้เลือกพักจะมีทั้งที่เป็นของเอกชน และ เป็นของที่พักของอุทยาน เราเลือกที่พักแบบกางเต็นท์เราจำราคาไม่ได้ชัด แต่ราคาไม่เกิน 1000 บาทมีอุปกรณ์เครื่องนอนพร้อมอย่างดี ในส่วนอาหารช่วงกลางดึก สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเรามาเที่ยวในอากาศหนาวๆ ก็คือ หมูกะทะนั่นเอง จ่ายค่าเสียหายไป 300 บาท เช้าวันถัดมาเราเตรียมตัวเพื่อเดินทางกลับ ช่วงเช้าเราเดินออกมาเที่ยวในหมู่บ้าน และ ทำให้เราได้ค้นพบกับเมนูที่เราคิดว่ามันอร่อยที่สุดในชีวิตและเราที่อยากกลับไปกินอีก นั่นก็คือ ถั่วเหลืองทอด รสชาดคล้ายๆมันฝรั่งทอดแต่มันมีความแน่นและอร่อยกว่ามากๆ ถ้าจะมีเหตุผลให้เรากลับไปเที่ยวปางอุ๋งอีกครั้ง ก็คงเป็นเพราะเราอยากกลับไปกิน ถั่วเหลืองทอดนั่นแหละ หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับ สรุปคือเราใช้เวลาในการไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน เป็นระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เราอยากแนะนำให้อยู่เที่ยวปางอุ๋งสักหนึ่งวันเต็ม เพราะเราจะได้ชมบรรยากาศที่แตกต่างกัน เพราะในช่วงเช้าเราจะเห็นหมอกจางๆ พร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังมีหงส์ลอยบนเหนือน้ำ นั่งมองธรรมชาติไปเรื่อยๆ ส่วนในช่วงกลางคืน เราจะได้นอนมองดาวชัดๆ ที่สำคัญคืออากาศหนาวมาก และ นี่คือเหตุผลที่เราเผลอใจให้ปางอุ๋ง......