ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2561 ค่ะ ตอนนี้ก็ใกล้สิ้นปีแล้ว เลยอยากมาแนะนำสถานที่รับลมหนาวแบบชิล ๆ ประหยัดเงินกันดีกว่า สำหรับกิจกรรมที่ได้ทำใน 2 วัน 1 คืน มีดังนี้ค่ะ 1."ชมวิวริมทาง" นั่งรถชมบรรยากาศทางขึ้นโครงการหลวงขุนแปะ มีทั้งต้นไม้ ท้องนา ดอกไม้สวยงามให้เราได้ถ่ายภาพข้างทาง 2."พักผ่อนที่กระท่อม" เมื่อถึงที่พักที่กระท่อมไร่วินน์ ก็ได้เดินชมบรรยากาศรอบ ๆ ที่มีทั้งไร่กะหล่ำ ดอกไม้นานาพันธุ์ มีดอกคริสต์มาสด้วยนะคะ จริง ๆ แล้วจะได้ไปที่เขา 360 องศาด้วยค่ะ แต่สภาพอากาศวันนั้นไม่อำนวย 3."ทานอาหารจากกระบอกไม้ไผ่" เราสามารถเลือกได้เลยค่ะว่าจะทานอาหารโดยใช้ภาชนะแบบใด ถ้าจะทานโดยใช้ภาชนะไม้ไผ่ ต้องบอกพี่เขาล่วงหน้าค่ะ รับรองว่าจะได้ทานอาหารอร่อย มีประโยชน์จากผักที่ทางโฮมสเตย์ปลูกเองค่ะ 4."ชมไร่ไฮเดรนเยีย" อย่างที่รู้กันดีนะคะว่าขุนแปะขึ้นชื่อเรื่องดอกไฮเดรนเยีย หากมาที่นี่จะได้พบกับสวนไฮเดรนเยียหลายสวนเลยค่ะ เขาจะมีบริการให้เข้าชม มีตะกร้าเป็นพร็อบสำหรับถ่ายภาพให้ด้วยค่ะ ค่าเข้าชมอยู่ที่ 30 บาทเท่านั้นค่ะ หากใครอยากได้ดอกไม้กลับไป ก็สามารถซื้อได้ในราคาแสนถูก อยู่ได้นาน 3-4 วันเลยค่ะ 5."ซื้อผลิตผลทางการเกษตรที่โครงการหลวงขุนแปะ" ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมผักผลไม้ต่าง ๆ จากเกษตรกรชาวขุนแปะ นักท่องเที่ยวสามารถไปซื้อผัก ผลไม้ ชาต่าง ๆ ผลไม้แปรรูปได้ที่นี่เลยค่ะ รับรองว่ามีคุณภาพและปลอดสารพิษแน่นอน มาต่อกันที่การเดินทางและภาพประกอบการเดินทางกันดีกว่าค่ะ - การเดินทาง เดินทางมาจากสถานีขนส่งช้างเผือก ขึ้นรถเชียงใหม่ - ฮอดค่ะ ค่าใช้จ่ายเที่ยวละ 50 บาทโดยประมาณ มาลงที่บริเวณด้านหน้าโครงการหลวงขุนแปะนะคะ จะมีป้ายเป็นชื่อวัดถ้ำตอง มีปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ ค่ะ หลังจากมาถึงแล้ว ก็รอพี่จากโฮมสเตย์ไร่วินน์มารับค่ะ บรรยากาศด้านบนในตอนเย็น คือฝนปรอย ๆ หนาวนิดหน่อยแต่สวยมาก ๆ บริเวณที่พักใกล้น้ำตกเล็ก ๆ ด้วยค่ะ ทำให้รู้สึกว่าได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ค่ารถเหมาขึ้นไป 500 บาท แต่หาร 4 คน เลยตกคนละร้อยนิด ๆ ค่ะ ส่วนค่าที่พักบ้าน 1 หลัง รวมอาหาร 2 มื้อ ประมาณ 800 บาทค่ะ (พี่เขาลดให้) ที่พักเป็นกระท่อมไม้ไผ่เล็ก ๆ ส่วนห้องน้ำเป็นปูน มีชักโครก มีฝักบัวค่ะ ดีงาม แต่...ไฟฟ้าไม่มีนะคะ พี่เขามีไฟแบบชาร์จแบตมาให้ 2 ดวง ใครที่พกโทรศัพท์ไปก็อาจจะต้องพกแบตสำรองไปค่ะ อาหารเป็นแบบพื้นบ้านนะคะ สามารถเลือกได้ว่าจะให้พี่เขาใส่จานหรือใส่ในกระบอกไม้ไผ่ค่ะ วัตถุดิบในการประกอบอาหารอย่างกะหล่ำปลี ก็นำมาจากในไร่ รสชาติเด็ดอย่าบอกใครเชียวค่ะ รุ่งขึ้นพวกเราได้มาเที่ยวที่สวนไฮเดรนเยียค่ะ สวยมาก ๆ มีดอกไฮเดรนเยียหลากสี ทั้งสีขาว ฟ้า ม่วง ละลานตามาก ๆ ฟิลเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยค่ะ รับรองต้องได้ภาพสวย ๆ กลับบ้านแน่นอน ขากลับพวกเราได้มาแวะโครงการหลวงขุนแปะเพื่อซื้อของฝากทางการเกษตรเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าผลิตผลทางการเกษตรมีทั้งผัก ผลไม้ ผลไม้แปรรูปและชา สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับการไปขุนแปะ 2 วัน 1 คืน หมดไปพันนิด ๆ ค่ะ หวังว่าทริปขุนแปะจะเป็นตัวเลือกอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับใครที่มีแพลนเที่ยวปลายปีนี้นะคะ