เชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย มีศิลปกรรมที่สวยงามละเมียดละไมมากมาย คนส่วนใหญ่จะมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในช่วงฤดูหนาวเพราะเป็นช่วงที่สามารถลางานได้หลายวัน บรรยากาศในพื้นที่ก็ถือว่าเหมาะมากสำหรับมาผ่อนคลายสมองเพื่อรีสตาร์ทตัวเอง ให้กลับไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่่ดี และยิ่งช่วงนี้ก็เริ่มมีลมหนาวพัดมากระทบกายเราในช่วงยามเช้าบ้างแล้วนะ ใครที่ยังไม่เคยมาเชียงรายสักครั้ง หรือใครอยากจัดทริปกับเพื่อนกับคนรู้ใจหรือมาคนเดียว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ขอแนะนำจังหวัดเชียงรายซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่หนึ่งเลยนะ แต่การเที่ยวครั้งนี้อิเวิ่นขอ Challenge ตัวเองอีกระดับละกัน คือปกติไปแต่ละที่โดยการนั่งรถส่วนตัวหรือไม่ก็รถรับจ้างไปแบบสะดวกสบาย แต่ครั้งนี้จะเดินไปค่าาาา ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วเนาะ เหตุผลที่อยากทำเพราะอยากเริ่มต้นประสบการณ์การเที่ยวด้วยตัวเอง ขจัดความกลัวในจิตใจของตัวเอง ทุกอย่างทั้งถ่ายภาพไปด้วย คิดอะไรไปเรื่อยให้คลายเครียดหลังจากสอบกลางภาคเสร็จมาหมาด ๆ วันนี้เลยจัดประเดิมในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆไปด้วยกัน เวิ่นเว้อมาเยอะแล้วเราไปชมสถานที่ ที่อิเวิ่นได้ก้าวขาไปแวะกันดีกว่าจ้า จุดเริ่มต้นคือ สถานีบขส.เชียงราย ที่เริ่มต้นจากจุดนี้เพราะเป็นศูนย์ใหญ่ที่เราจะสามารถเชื่อมต่อไปสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในเมืองหรือนอกเมืองได้ง่ายและเป็นสถานที่ที่คนรู้จักมากที่สุด ซึ่ง บขส.เก่าแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงทั้งโครงสร้าง การตกแต่งอย่างสวยงาม ช่วงที่รอเวลารถออกเพื่อน ๆ ก็สามารถที่จะมาถ่ายรูปไปพลาง ๆ หรือหิวก็สามารถฝากท้องกับร้านอาหารรอบ ๆ ได้ มีร้านสะดวกซื้อและอีกมากมาย ฯลฯ เมื่อพร้อมแล้วเราออกเดินทางไปสร้างประสบการณ์ต่าง ๆ ไปด้วยกันเลยค่ะ ขอบอกไว้ก่อนนะคะ แต่ละที่ที่ไป ไม่มีการวางแผนไว้มาก่อน คิดแล้วออกเดินทางเลย เพราะเคยวางแผนไว้ดิบดีก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ ครั้งนี้เลยขอลุยแบบงง ๆ เลยละกัน แท่นแท้น... และแล้วอิเวิ่นก็เดินมาถึงจุดแรกที่เป็นแลนด์มาร์คของเชียงรายคือ หอนาฬิกาเปลี่ยนสี ซึ่งถูกออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตั้งอยู่ตรงบริเวณถนนบรรพปราการ จุดนี้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ต่างต้องแวะพากันมาถ่ายรูปตลอด ทั้งสวยงาม ทั้งประณีต ดูวิจิตรตระการมาก และเมื่อถามคนแถวนั้นบอกว่าจะมีเสียงบอกเวลาทุก ๆ ชั่วโมง ยิ่งช่วงเย็นประมาณเวลา 19.00, 20.00 และ 21.00 น. ของทุกวัน จะมีเปิดเสียงดนตรีพร้อมไฟส่องข้างหน้ามีการเปลี่ยนหลายสี จะสวยมาก แต่น่าเสียดายที่อิเวิ่นไปทีไรไม่เคยเจอเลยสักครั้ง แต่ไม่เป็นไร ถ้ามีเวลาจะไปนั่งรอชมจนกว่าจะได้เห็นกันเลย เอ๊ะ! เพิ่งสังเกตเห็นว่าแท่นที่ตกแต่งระหว่างเสาไฟที่ลักษณะรูปหัวใจตรงกลาง (ขออภัยอิเวิ่นเรียกไม่เป็นจริงๆ) นั้น...มีภาพพระฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 รู้สึกคิดถึงท่าน อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าหากใครไปตรงหอนาฬิกาก็สามารถที่จะแวะชมความสวยงามทั้งสถาปัตยกรรมกับภาพที่คนไทยรักและคิดถึงกันได้ตลอดนะคะ เดินต่ออีกประมาณสิบห้านาที และแล้วก็เดินมาถึงวัดพระแก้ว อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊ค เข้าไปพบถึงความร่มรื่น หายเหนื่อย และที่สำคัญวัดนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ถนนไตรรัตน์ เคยเป็นสถานที่ค้นพบพระแก้วมรกต ที่ปัจจุบันประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วที่กรุงเทพฯ นั่นเอง ไม่พูดมากไปดูความสวยงามกันเลย ต่อมาก็เดินมาชมพระอุโบสถด้านหน้าที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ภายในวัดก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ชื่อว่าโฮงหลวงแสงแก้ว เป็นสถานที่จัดแสดงพระพุทธรูปที่สำคัญ รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมล้านนาที่สำคัญที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันด้วยนะ หลังจากชมความสวยงามของวัดพระแก้วอย่างเต็มอิ่ม อิเวิ่นก็เดินไปต่อที่วัดพระสิงห์ ตรงถนนท่าหลวง ซึ่งชื่อวัดพระสิงห์น่าจะเพราะครั้งอดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ช่วงที่ไปนั้นทางวัดกำลังจัดเตรียมงานเทศน์มหาชาติ เป็นงานบุญใหญ่เพื่อสืบสานประเพณีเดือนยี่เป็งหรือประเพณีในวันลอยกระทงนี่เอง งั้นอย่ารอช้าเข้าไปชมความสวยงามกันเลยค่า ภายหน้าพระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ออกแบบโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งของเชียงราย ผลงานที่เห็นได้ชัดคือศิลปะ "บ้านดำ" น่าเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปเก็บบรรยากาศภายในพระอุโบสถ เพราะทางวัดกำลังจัดสถานที่ในการทำพิธีเทศน์มหาชาติกันอย่างขมักเขม้น แต่ไม่เป็นไรแค่บรรยากาศภายนอกก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ หลังจากไหว้พระที่วัดพระสิงห์ออกมาแล้วก็เดินไปต่อเรื่อย ๆ ก็แอบไปเห็นศาลากลางเก่าเชียงรายที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน น่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์มั้ง ไม่กล้าเข้าไป เพราะฝนเริ่มตั้งเค้าแล้วขอยืนชมความสวยงามด้านนอกละกัน หากใครเคยเข้าไป สามารถมาบอกเล่ากันได้นะคะ ว่าภายในตัวอาคารเขามีอะไรบ้าง มาแชร์และแลกเปลี่ยนความรู้กัน เดินไปเรื่อย ๆ ขอหยุดแวะหาของกินที่ตลาดสดเทศบาลนครเชียงรายก่อนจะไปสถานที่ต่อไป ที่นี่เป็นตลาดที่อยู่ใจกลางเมืองเชียงราย มีอาหาร ของใช้ รวมทั้งสามารถซื้อของฝากได้ในที่เดียว โดยชาวเชียงรายจะเรียกที่นี่ว่า "กาดหลวง" ซึ่งใกล้ๆกับตลาดก็มีการบริการของรถสองแถวโดยเราสามารถสอบถามก่อนได้ ราคาค่ารถก็ไม่แพง ที่ชอบมากคือมีรถไปวัดร่องขุ่นด้วยนะเออ หากสนใจจะไปไหนลองสอบถามลุง ๆ โชเฟอร์ก่อนได้นะ อ้อ! ลืมบอกว่าช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.จะมีตั้งแผงของแม่ค้ารอบนอกกาดหลวงตอนเย็น มีอาหาร ขนม ผัก ผลไม้ มีเยอะแยะและหลากหลาย รับรองเลยว่ามีให้เลือกมากมาย แต่จะอร่อยถูกใจหรือไม่ ก็แนะนำไม่ได้เพราะรสชาติที่แต่ละคนชอบนั้นต่างกัน ดังนั้นต้องลิ้มลองเองละกัน อิอิ พอกินอิ่มแล้วเดินไปกันต่อที่วัดเจ็ดยอด ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเจ็ดยอด อยู่ด้านซ้ายของหอนาฬิกาเข้าซอยเดินไม่ไกล แต่ทั้งสองข้างทางมีชาวฝรั่งเยอะมาก วัดแห่งนี้กว้างขวาง ร่มรื่น ที่สำคัญวัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะสงฆ์และโรงเรียนปริยัติธรรมของจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ซึ่งภายในอุโบสถนั้น มีพระประทานองค์ใหญ่เป็นการตกแต่งแบบล้านนา ด้านหลังของอุโบสถมีพระธาตุเจดีย์เจ็ดยอด ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดเจ็ดยอดอิเวิ่นเดินมาทั้งวันอย่างจุใจ ก่อนกลับบ้านขอแวะมาซื้อของฝากที่ร้านวรรณภาตรงหอนาฬิกาก่อน ที่นี่มีของฝากมากมาย แต่อิเวิ่นลืมถ่ายรูปมาเพราะของเต็มไม้เต็มมือไปหมด ที่นี่มีของฝากให้เลือกหลากหลายทั้งน้ำพริกหนุ่ม หมูยอ แคบหมู ฯลฯ แอบขอบอกว่าหมูยอร้านนี้อร่อยนะ วันนี้ทริป Challenge ด้วยการเดินในตัวเมืองเชียงรายของอิเวิ่นก็จบลงแล้ว หากใครสนใจที่อยากจะได้ประสบการณ์เที่ยวแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร อาจจะเหงานิด ๆ แต่รับรองได้เลยว่า แม้เหนื่อยก็คุ้ม เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องไปตามอิเวิ่น ก็สามารถที่จะวางแผนเที่ยวใกล้บ้านในวันเสาร์-อาทิตย์ได้ อาจจะชวนแก๊งเพื่อน ครอบครัว คนรู้ใจ หรือแม้แต่ไปตัวคนเดียว ลองไปในที่ที่ไม่เคยไป หรือทำสิ่งใหม่ ๆ ให้หัวใจตัวเองได้เต้นแรงอีกครั้ง แต่ต้องวางแผนให้เหมาะสมทั้งเวลาและสถานที่นะคะ อย่าหักโหมและอย่าไปเสี่ยงอันตรายเกินไป อิเวิ่นเชื่อว่าเพื่อน ๆ จะได้มากกว่าการได้ไปเที่ยวอย่างแน่นอน วันนี้อิเวิ่นขอตัวไปชาร์จพลังก่อนละกัน ขอให้เพื่อนๆทุกคนสนุกกับการใช้ชีวิต มีความสุขกับสิ่งที่เลือกเดินนะคะ :) #จังหวัดเชียงราย #สถานีบขส.เชียงราย #หอนาฬิกา #ตลาดเทศบาลนครเชียงราย #วัดพระแก้ว #วัดพระสิงห์ #วัดเจ็ดยอด#้เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น