เขื่อนซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กมักจะมีภูมิทัศน์โดยรอบสวยงาม จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง หนึ่งในบรรดาเขื่อนที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนกันไปเที่ยว คือ "เขื่อนสิริกิติ์" ซึ่งเป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปิดกั้นแม่น้ำน่านที่ไหลลงมาจากอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน บริเวณเขาผาซ่อม ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ เขื่อนสิริกิติ์เปิดเมื่อเดือนมีนาคม 2520 อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ภายในบริเวณเขื่อนมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นบ้านพักรับรอง ร้านอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ห้องสัมมนา และสนามกอล์ฟ สันเขื่อนก่อสร้างโดยกรมชลประทานใช้เวลา 9 ปี (พ.ศ. 2506-2515) โรงไฟฟ้าก่อสร้างโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยใช้เวลา 6 ปี (พ.ศ. 2511-2517) บริเวณเนินเขาต้นสันเขื่อนเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) พระพุทธรูปปางนาคปรกซึ่งเป็นสิ่งเคารพสักการะของพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ทิวทัศน์โดยรอบบนสันเขื่อนยามเย็น เป็นสถานที่เดิน-วิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน และชมพระอาทิตย์ตกเหนือเขื่อน บ้านพักรับรองของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางป่าไม้ที่ร่มรื่น มีทั้งเป็นยูนิตและบ้านเป็นหลังราคาตั้งแต่ 900-2,400 บาท สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 300 คน บรรยากาศยามเช้าของถนนหน้าที่พัก ที่เห็นขาว ๆ ไม่ใช่หมอกแต่เป็นควันจากไฟป่าที่ไหม้เป็นบริเวณกว้างรอบนอกเขื่อน สะพานเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถเป็นสะพานแขวนเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำน่านบริเวณร้านอาหารภายในเขื่อน สามารถเดินชมวิวแม่น้ำน่านและภูเขาโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น สวนสวยปลายสะพานฝั่งตรงข้ามร้านอาหาร สะพานปูนเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำน่านบริเวณโรงไฟฟ้า เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของเขื่อน การเดินทางไปเขื่อนสิริกิติ์มี 2 เส้นทาง คือ (1) จากตัวเมืองอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงหมายเลข 1045 (อุตรดิตถ์-ห้วยหูด อำเภอน้ำปาด) ระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร และ (2) จากหมู่บ้านประมงปากนาย อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ข้ามแพขนานยนต์มาขึ้นฝั่งที่บ้านน้ำปาด แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 1339 ระยะทาง 53 กิโลเมตร (ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน "ชีพจรลงเท้า")