ผมจำความได้ว่า สมัยเป็นเด็กต้องไปเก็บใบหม่อนมาให้แม่เลี้ยงตัวไหมเสมอ รางวัลที่ได้ คือ ดักแด้ตัวอวบ ๆ ที่แม่ตักจากหม้อใส่ถ้วยไว้ให้ ผมแค่ฉีกเปลือกหุ้มบาง ๆ จากนั้นเอาดักแด้ไปคลุกเกลือนิด ๆ ยัดใส่กลางก้อนข้าวเหนี่ยวอุ่น ๆ ที่นึ่งใหม่ ๆ เพียงเท่านี้ก็มีความสุขเหลือหลาย วันหนึ่งเมื่อ 12 ปีที่แล้วได้ไปนั่งดูแม่ของเพื่อนที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นั่งจกผ้าตีนจกลวดลายแม่แจ่ม และยังเปิดกรุขนผ้าซิ่นตีนจกอายุกว่า 100 ปี หลาย 10 ผืน ของยายทวดมาอวดโฉม เทียบกับผ้าซิ่นตีนจกที่จกใหม่อายุไม่เกิน 20 ปี พร้อมกับเล่าประวัติความเป็นมา และลวดสายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏตรงตีนจกให้ดู ตั้งแต่นั้นมาก็ทำให้ผมสนใจผ้าซิ่นตีนจกทันที และซื้อเก็บสะสมไว้บ้างเล็กน้อยเมื่อต้องผ่านอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ และทราบว่าที่นั่นมีพิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกของคน ไท-ยวน ที่อพยพจากอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มาอยู่ที่บ้านเชียงแสน อำเภอลับแล ตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว ทำให้ผมต้องแวะชมทันที“ พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกของคน ไท-ยวน ลับแล ” นี้ หรือภาษาทางการ คือ “ ศูนย์การเรียนรู้ที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าตีนจกไท-ยวน ” เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคลของ คุณครูโจ หรือ นายจงจรูญ มะโนคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลชัยจุมพล อำเภอลับแล ท่านใช้เงินส่วนตัวจัดสร้างขึ้นมา เพื่อเก็บสะสมผ้าซิ่นตีนจกโบราณที่หายไปจากท้องถิ่นมาไว้ เพื่อศึกษาประวัติ ความเป็นมา และความหมายของแต่ละลวดลาย รวมถึงวัตถุดิบในการย้อมและวิธีการทอ เพื่ออนุรักษ์วิธีการแบบดั้งเดิมของชาวไทย-ยวนลับแลเอาไว้ นอกจากนั้นยังเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรีด้วย เพื่อให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้บอกเล่าภูมิปัญญาวิถีชีวิตของชาวลับแลผ่านผ้าซิ่นตีนจก ผ้าทอพื้นเมืองที่มีความประณีต สอดแทรกด้วยทัศนคติ ความเชื่อ แต่งเติมจินตนาการผ่านเส้นสายลวดลายโบราณให้เป็นที่รับรู้มากขึ้นตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สร้างจากไม้สักทั้งหลัง มี 2 ชั้น เริ่มจากชั้นล่าง จะเป็นพื้นที่สำหรับวางกี่ทอผ้าโดยไม่ใช้ตะกอ มีขนาดกว้างยาวประมาณ 1 เมตรคูณ 1 เมตร ซึ่งคนทอนั้นต้องใช้ทั้งฝีมือในการจกแยกเส้นไหมแต่ละเส้นอย่างแม่นยำ และต้องมีความชำนาญมากในการจดจำลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายดอกพุดซ้อน ลายดอกเคียะ ลายดอกหงส์เครือ ลายนกคุ้ม ลายนาค ลายแปดขอ แล้วทอออกมาด้วยการใช้ขนเม่นในการจก รวมถึงเคล็ดการต่อซิ่นด้วยสีผ้าที่เอวแดงขาว และตำแหน่งรอยต่อระหว่างผ้าทอที่ต้องไม่ต่อลายให้ชนกัน เพื่อตัดแก้และป้องกันคุณไสยแบบสมัยก่อนขึ้นไปที่ชั้น 2 ชั้นนี้แยกเป็นโซนจัดแสดงผ้าซิ่นตีนจกลายโบราณอายุกว่า 200 ปี และโซนลวดลายยุคปัจจุบัน ด้ายซ้ายมือเป็นตู้จัดแสดงมีดและขันโบราณ ด้านหลังเป็นตู้ขนาดใหญ่ มีจัดแสดงลวดลายหมอนและย่าม จุดตรงกลางจัดแสดงหุ่นสวมใส่สุดยอดผ้าซิ่นตีนจกทอจากผ้าไหมระดับนางพญา จำนวน 7 ผืน ที่ถือว่างดงามสุดประณีตในเชิงช่างจกผ้า ด้ายขวามือจัดแสดงผ้าซิ่นตีนจกเช่นกันทั้งในตู้โชว์และตัวหุ่น มีทั้งผ้าซิ่นของเด็กและผู้ใหญ่ ผ้าสะว้านพาดไหล่สำหรับสตรี และผ้าไหมจกลายไว้พาดไหล่ของบุรุษที่ชั้นลอยของชั้น 2 มีระเบียงที่นั่งและทางให้เดินชมสิ่งของภายในพิพิธภัณฑ์ ด้วยการมองลงไปดูได้ทั่วทั้งห้องแบบพาโนรามา ที่ปลายบันไดขึ้นชั้น 2 มีมะล้อโบราณหลากหลายชนิดแขวนไว้ที่ผนังให้ได้เรียนรู้ พร้อมกับตู้กระจกขนาดใหญ่ที่เก็บผ้าเก่าแก่โบราณหลายสิบผืน สวย ๆ และเก่าแก่ ทั้งนั้น แม้ว่าที่นี่จะถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผ้าเก่าที่มีอายุกว่า 100 ปี แต่ก็มีการรวมกลุ่มของชาวบ้านทอผ้าพื้นเมืองประยุกต์ที่เข้ากับยุคสมัยเช่นกัน อย่างล่าสุดได้มีการนำทองคำแท่งน้ำหนัก 7 บาท มาทอลายตีนจกดอกพุดซ้อน จากนั้นต่อผ้าซิ่นหัวท้ายด้วยลายดอกเคียะ ย้อมด้วยสีธรรมชาติ เปิดจำหน่ายอยู่ที่ราคา 500,000 บาท เพราะมีผืนเดียวในโลก และยังมีผ้าซิ่นตีนจกทอด้วยเงินแท้จากประเทศอินเดีย จำนวน 4 ผืน จำหน่ายผืนละ 200,000 บาท โดยทั้งหมดใช้เวลาทอประมาณ 2-3 เดือนจึงเสร็จนอกจากรางวัลโอทอป 5 ดาว ที่การันตีคุณภาพผ้าซิ่นตีนจกไท-ยวน ลับแล และการได้มีโอกาสนำเข้าไปถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นประจำทุกปีแล้ว การอนุรักษ์วิธีการดั้งเดิม การรวมกลุ่มทำชิ้นงานแบบชิ้นเดียวในโลก ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ผ้าซิ่นตีนจกจากที่นี่ มีมูลค่าสูงขึ้นและเป็นที่รับรู้ในวงกว้างมากขึ้น ควรอย่างยิ่งที่ผู้สนสนใจผ้าซิ่น ผ้าทอโบราณควรแวะเวียนไปเรียนรู้สักครั้งในชีวิตอธิบายความ คำว่า “ ตะกอ ” หรือเขาหูก คือ เชือกที่ใช้ร้อยคล้องไหมยืน เพื่อแบ่งเส้นไหมเป็นหมวดหมู่ตามที่ต้องการ เมื่อยกตะกอขึ้น ก็จะดึงเส้นไหมยืนเปิดเป็นช่อง ให้สามารถพุ่งกระสวยเข้าไปแล้วให้เส้นไหมพุ่งสานขัดกับเส้นไหมยืนได้ ทำให้การทอได้ลายตามที่ตั้งตะกอเอาไว้พิกัดที่ตั้ง : เลขที่ 31 หมู่ 4 ตำบลชัยจุมพล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์โทรศัพท์ : 08 7198 7353 (ครูโจ)วันเวลาทำการ : 08.00-18.00 น.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : เพจ พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกของคน ไท-ยวน ลับแลภาพประกอบโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี