วัดพระธาตุปูแจ โบราณสถานแห่งชาติ ภาพโดยผู้เขียน วัดพระธาตุปูแจ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียน ให้เป็น "โบราณสถานแห่งชาติ" ซึ่งมีประวัติเก่าอันยาวนาน ที่มาของชื่อ พระธาตุปูแจ มีตำนานเล่าขานว่า ในสมัยพุทธกาล ที่พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นเนื้อทรายทอง ถูกนายพรานติดตามมาลอบทำร้าย ภาพโดยผู้เขียน เมื่อเดินทางมาถึงภูเขาลูกนี้ ที่เป็นที่ตั้งของพระธาตุปูแจในปัจจุบัน เนื้อทรายทองมีอาการบาดเจ็บ และขัดเบา คือ ปัสสาวะไม่ออก ทนทุกข์ทรมานอยู่ 3 วัน ก็เสียชีวิตลง อาการขัดเบาหรือปัสสาวะไม่ออก ในภาษาเหนือ เรียกว่า "ปวดแจ" จึงเรียกชื่อต่อ ๆ กัน จนผิดเพี้ยนไปจนกลายเป็น "ปูแจ" ในปัจจุบัน ภาพโดยผู้เขียน การเดินทางขึ้นพระธาตุปูแจสามารถเดินทางเท้า เป็นทางบันไดขึ้นมา หรือนำรถยนต์ขึ้นมาจอดบริเวณลานจอดรถหน้าพระธาตุ แล้วเดินขึ้นบันไดอีกเล็กน้อย ในสมัยก่อนจะมีทางขึ้น ระยะทางเดินขึ้นเขาไกลพอสมควร เพราะเป็นเนินเขา ผู้ที่มีจิตศรัทธาจะเดินขึ้นมาทางนี้ และชมธรรมชาติตลอดระยะทางการเดินขึ้นบันได สองฝั่งที่ราวบันได เป็นพญานาค ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน เมื่อเดินทางขึ้นมาด้วยรถยนต์ ห้องน้ำจะอยู่ด้านล่าง ใกล้กับบริเวณลานจอดรถ ควรทำธุระให้เสร็จก่อนขึ้นไปชมพระธาตุ เนื่องจากด้านบนจะไม่มีห้องน้ำ เพื่อความสะอาด สวยงาม จากนั้นก็เดินขึ้นบันได อีกเล็กน้อย ตอนที่พวกเราเดินทางไป เห็นผู้ดูแลวัด นุ่งขาว ห่มขาว กวาดทำความสะอาดลานวัด อย่างขะมักเขม้น ด้วยท่าทางสงบ น่านับถือ ภาพโดยผู้เขียน พระธาตุปูแจ ประดิษฐานในเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ฐานกว้าง 4 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 8 เมตร บรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า คือ ตาตุ่มด้านขวา พระธาตุปูแจสร้างมาหลายร้อยปี ซึ่งมีความเก่าแก่ยาวนาน เมื่อขึ้นบันไดเข้ามากราบไหว้พระธาตุ ด้านหน้าจะเป็นวิหารของ"พระเจ้าทันใจ" ซึ่งเป็นการเรียกชื่อแบบทางเหนือ โดยปกติภาคกลางจะเรียกว่า "หลวงพ่อทันใจ" สามารถกราบไหว้ขอพร ทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ภาพโดยผู้เขียน กฎข้อห้ามของพระธาตุ คือ ห้ามสตรีขึ้นไปบนฐานของพระธาตุ ผู้ชายสามารถขึ้นไปได้ ภาพโดยผู้เขียน ภาพโดยผู้เขียน บริเวณรอบวัด เป็นเนินเขาสูง มองเห็นวิว ทิวทัศน์สวยงาม แม้จะเป็นเนินเขาไม่สูงมาก แต่สามารถมองทิวทัศน์ได้รอบ ๆ สุดลูกหูลูกตา สวยงามมาก บรรยากาศ ลมเย็น สงบ แม้ว่าจะเดินทางมาช่วงเวลาบ่าย ที่มีแสงแดดจ้า แต่ภายในวัดร่มเย็น เงียบสงบอย่างมาก ภาพโดยผู้เขียน เมื่อไปบริเวณหลังวัดพระธาตุปูแจ และมองผ่าน ซุ้มประตูโขง จะเห็นพระสีขาวปางสมาธิองค์ใหญ่ งดงาม ภาพโดยผู้เขียน งานนมัสการพระธาตุปูแจ หรืองานขึ้นพระธาตุ ตรงกับวัน ขึ้น 11 - 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี (เดือน 5 เหนือ) นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมงานประจำปี ซึ่งจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น ภาพโดยผู้เขียน การมาพระธาตุปูแจ เพื่อกราบนมัสการ และเที่ยวชมโบราณสถานแห่งชาติ นี้ นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และรู้สึกร่มเย็นในจิตใจอย่างยิ่ง ข้อมูลเพิ่มเติม ที่ตั้ง บ้านบุญเริง หมู่ 4 ตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ โทร. สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ 054 - 625 - 496 สายด่วนวัฒนธรรม 1765 การเดินทาง ระยะทางห่างจากตัวเมืองแพร่ ประมาณ 20 กิโลเมตร เส้นการเดินทางบนถนนสาย แพร่ - น่าน ประมาณ 9 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาแล้วตรงไปอีก ประมาณ 17 กิโลเมตร สามารถติดตาม เพจแหล่งท่องเที่ยวตำบลบ้านเวียง ได้ที่ https://www.facebook.com/banwiang60/