ผมเคยไปสถานที่ที่คล้าย ๆ กับม่อนเสาหินพิศวงแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งที่จังหวัดตราด นั่นก็นานมาแล้ว แถมสมัยนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟน และอินเตอร์เนตแบบนี้ ถ่ายด้วยกล้องธรรมดาจึงหาภาพที่ถ่ายไม่เจอ แต่พอรู้ว่าที่ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ก็มีเสาหินพิศวงเช่นเดียวกัน ก็เลยจะไปรีวิวมาให้คนที่ชอบเรื่องตำนาน และธรณีวิทยาได้รู้จักสถานที่ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นด้วย ม่อนเสาหินพิศวง Wonderful Mountain of Columnar หรือม่อนเสาเหลี่ยมหินพิศวง ปรากฏอยู่บนดอยไม่สูงนักในประมาณ 19 ไร่ ในพื้นที่บ้านนาพูนพัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อยู่ทางห่างจากหมู่บ้านราว 3 กิโลเมตรไปด้านทิศตะวันออก จากเชิงดอยที่ป้ายเขต ม่อนเสาหินพิศวง แล้วไปด้านซ้าย คือ ด้านที่มีศาลาซึ่งเป็นทางขึ้น ส่วนด้านขวาเป็นทางลง เพราะทางขึ้นค่อนข้างแคบ จึงให้รถเดินได้ทางเดียวแล้วไปลงอีกทาง จากจุดนี้ขับรถขึ้นไปราว 10 นาทีก็ถึง มีลานจอดรถกว้างให้เลือกจอดได้ตามสะดวก มีอาคารและศาลาดูเหมือนว่าจะเริ่มทรุดโทรม ส่วนห้องน้ำก็ไม่ต่างกัน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็น่าจะเป็นป้ายชื่อสถานที่นี่แหละครับ ตัวหนังสือสีขาวใหญ่ชัดเจนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ น่าจะเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินที่ดีที่สุดในการมาที่นี่ ด้านข้างป้ายจะมีทางเดินเอียงลาดลงเขาให้ได้เดินชมเสาหินตั้งแต่ก้าวแรก เดินไปเรื่อย ๆ ด้านซ้ายเป็นทางลาดลงเขามีต้นไผ่ขึ้นประปราย มีศาลาให้นั่งพักผ่อน ด้านขวาจะมีพื้นที่และจุดให้ชมก้อนหินตั้งแต่ระดับสายตาและต้องเงยหน้ามอง ในแง่ธรณีวิทยา ก้อนหินแท่งเหล่านี้มีความพิเศษตรงที่เป็นหินหนืด ที่พุ่งดันตัวเองขึ้นมาจากใต้เปลือกโลกจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีตประมาณ 5-6 ล้านปีมาแล้ว กลายเป็นลาวา (lava) หินบะซอลต์ เมื่อเย็นอย่างรวดเร็วจากแรงดึงดูดจากทั่วสารทิศ เนื่องจากการหดตัวจึงทำให้เกิดรอยแยกแตกออกในลักษณะตั้งฉากกับพื้น มีผิวเรียบ มีหลายเหลี่ยมอยู่เป็นกลุ่มก้อนและกระจัดกระจาย ที่ตั้งตรง ๆ เหมือนยืนเบียดเสียดกันก็มี ที่หักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยล้มระเนระนาดก็มี ในแง่ตำนานความเชื่อ ชาวบ้านเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ กลุ่มหินบางก้อนจึงถูกตั้งชื่อให้ผีที่ชาวบ้านนับถือ เช่น ม่อนเจ้าอาจญา ม่อนเจ้าคำคือ ม่อนปู่หมอเฒ่า ม่อนเจ้าแสนจู้ แต่ละม่อนนี้นอกจะมีป้ายกำกับแล้วบางแห่งยังมีการตั้งศาลให้ด้วย นอกจากนั้นชาวบ้านบอกว่าวันพระจะมีเสียงก้องกันวาน และบางคนก็เคยเห็นลูกแก้วลอยอยู่บริเวณนี้ จึงมีข้อห้ามสำคัญว่า ห้ามหยิบอะไรไป มิใช่นั้นอาจต้องเสียชีวิตได้ ทั่วทั้งพื้นที่ขนาด 500 x 200 เมตรนี้ มีจุดที่น่าสนใจอยู่ 2 กลุ่มแท่งหิน คือ กลุ่มแท่งหินที่ม่อนสะเดาะเคราะห์ มีก้อนหินเป็นเหมือนทางเดินและแอ่งน้ำขังเล็ก ๆ ตรงจุดนี้ใครจะโยนเหรียญเสี่ยงทายลงบาตรก็ได้นะครับ อีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มแท่งหินมีลักษณะคล้าย ๆ ห้อง ไม่กว้างนัก สูงราว 3 เมตร ตรงนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สังเกตดูว่าจะมีธูปเทียนดอกไม้ และของบูชามากกว่าจุดอื่น ๆ ผมว่า ม่อนเสาหินพิศวงนี้ เป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งบนโลก ซึ่งในประเทศไทยน่าจะมีไม่น้อยกว่า 2 แห่ง สำหรับความเชื่อที่ชาวบ้านเอามาผูกกับสถานที่พิเศษแบบนี้ ก็นับว่าเป็นเสน่ห์ความเชื่อแบบไทย ๆ ที่เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้พื้นที่ไม่ถูกย่ำยีและทำลายจากนักแสวงโชค แวะไปดูสักครั้งครับ แล้วจะรู้ว่าแผ่นดินของเราที่สถานที่อัศจรรย์และแหล่งเที่ยวอีกมากมาย การเดินทาง : จากตัวอำเภอศรีสัชนาลัย วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 101 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 1177 เลี้ยวซ้ายอีกครั้งตรงป้อมตำรวจบ้านแม่สิน เข้าถนนหมายเลข 1125 จากนั้นอีกราว 1.1 กิโลเมตรให้เลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 4039 ประมาณ 5.7 กม. พอถึง 3 แยกบ้านนาพูน ให้เลี้ยวขวาออกจากตัวหมู่บ้านไปตามป้ายบอกทางอีก 4.3 กิโลเมตรก็จะถึงดอยพื้นที่ตั้งของม่อนเสาหินพิศวง แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/gAQs6WWvjjS5Jdsw5 พิกัดที่ตั้ง : บ้านนาพูนพัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ วันเวลาเปิด-ปิด : 08.00-17.00 น. ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี