ภาพรีวิวการท่องเที่ยวที่ “ดอยสวนยาหลวง” ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขาสลับซับซ้อนมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา คือ จุดเริ่มต้นที่พาพวกเราทั้ง 10 ชีวิตมาเยือน “เมืองน่าน” เมืองเล็ก ๆ แต่กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวน่ารัก ๆ จนต้องเก็บทุกความทรงจำมาร้อยเรียงเป็นตัวอักษร แถมยังอยากชวนคุณขึ้นมานอนดูดาวชิล ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติสีเขียว ๆ แบบห่างไกลโลกโซเชียล ไม่มีทีวี ตู้เย็น หรือเครื่องอำนวยความสะดวกใด ๆ เพราะที่นี่มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และเสียงกดชัตเตอร์แบบไม่มียั้ง ของพวกเราเท่านั้นแหล่ะ จากกรุงเทพฯ สู่เมืองน่าน... เราออกเดินทางด้วยรถบัสนครชัยแอร์ ซึ่งทุกคนพร้อมใจกันหลับยาวมาตลอดทั้งคืน เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นมาผจญภัยกันแต่เช้า ใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองน่าน สัมผัสอากาศตอนเช้าแบบคูล ๆ ประมาณ 18 องศา จนบางคนต้องหยิบเสื้อแขนยาวคู่ใจ มาคลุมไหล่ให้พอคลายหนาว ไม่นานรถตู้ที่ติดต่อไว้ก็มารับพวกเราตรงเวลาเป๊ะ เก็บสัมภาระเรียบร้อยก็ออกเดินทางสู่หมู่บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา ระยะทาง 77 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขาเฉดสีเหลืองปนเขียวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่หมู่บ้านท่าวังผา รถตู้ไม่สามารถพาขึ้นไปถึงดอยสวนยาหลวงได้ พี่โชเฟอร์ส่งเราที่ ร้านกาแฟ “ลาเปี้ยน” (Lapien) ซึ่งเราติดต่อไกด์ท้องถิ่นให้พาขึ้นไปบนดอยและที่พัก แถมยังดูแลเรื่องอาหารมื้อเย็นให้เสร็จสรรพ เราเปลี่ยนไปขึ้นรถกระบะ 4WD ของพี่ไกด์ ด้านหลังกระบะมีไม้พาดทำเป็นที่นั่งและเก้าอี้สานตัวเล็ก ๆ ครบจำนวนคน แวะไปซื้อขนมนมเนยเตรียมพร้อมสำหรับคืนนี้ ก่อนการผจญภัยที่แท้จริงจะเริ่มขึ้น!!! เส้นทางขึ้นไปดอยสวนยาหลวงทั้งชันและคดเคี้ยว เป็นทางดินลูกรังสีแดงที่สมบุกสมบันสุด ๆ ต้นไม้ข้างทางจากที่เคยเห็นเป็นสีเขียวตอนนี้มีแต่สีแดงจากฝุ่นดิน ถนนเป็นหลุมบ่อจนทุกคนนั่งโขยกเขยกส่ายไปส่ายมา เรียกว่าเป็นการเดินทางที่มันส์มาก รถกระแทกเมื่อไร เสียงเฮของพวกเราก็ดังขึ้นเมื่อนั้น แต่กว่าจะถึงยอดดอยสภาพของเราก็เป็นอย่างที่เห็น ในที่สุดเราก็ขึ้นด้านบนดอยสวนยาหลวง บอกเลยว่าวิวที่นี่อะเมซิ่งไทยแลนด์สุด ๆ เทือกเขาสลับซับซ้อนมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีสวยๆ เหมือนเราได้อยู่ใกล้กับก้อนเมฆแค่เอื้อม แถมอากาศเย็นสดชื่นจนเข้าขั้นหนาว ส่วนเรื่องถ่ายภาพ... ไม่ต้องห่วง ใครได้ขึ้นมาแล้วต้องกดชัตเตอร์รัว ๆ แน่นอน เรากลับเข้าที่พักซึ่งเป็นกระท่อมเล็ก ๆ ท่ามกลางไร่กาแฟ ข้างในกระท่อมค่อนข้างกว้าง มีมุ้งกันยุง เต็นท์และเปลให้นอนชมวิวที่ชานระเบียง ส่วนอาหารมื้อเย็นที่พี่ไกด์เตรียมไว้หน้าตาน่ากินใช้ได้ ยิ่งพอได้ลิ้มรสชาติแล้วยิ่งต้องยกนิ้วให้ ทั้ง ไก่ทอด ปลาทอด ไข่เจียว น้ำพริกกะปิกับผักสด และกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา นั่งกินอาหารนอกระเบียงไปชมวิวไปด้วยแบบนี้เพลินมาก ตกกลางคืน เราใช้ไฟมือถือส่องไปตามถนนเพื่อออกไปถ่ายรูปดาว และที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกตามเคย เพราะดวงดาวเต็มท้องฟ้าที่มืดสนิท ช่วงนี้เพื่อนก็กดชัตเตอร์กันเพลินอีกเหมือนกัน เช้าวันถัดมา เราซัดมาม่ากันไปคนละถ้วย ต้มน้ำกันเองแบบง่าย ๆ เสร็จแล้วเก็บของแล้วนั่งรถกลับลงมาเส้นทางเดิม พี่ไกด์พาแวะน้ำตกเล็ก ๆ ที่อยู่เลยหมู่บ้านไปนิดหน่อย มีสะพานไม้ให้เดินข้ามไปที่น้ำตกได้ อากาศบริเวณนี้เย็นสดชื่น น้ำในลำธารก็เย็นเจี๊ยบ บ่งบอกว่าธรรมชาติที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่มาก ปิดทริปดอยสวนยาหลวงด้วยการไปแวะร้านกาแฟลาเปี้ยน จุดเดียวกับที่เปลี่ยนมาขึ้นรถกระบะในตอนแรก ลิ้มรสกาแฟของชาวดอย รสชาติเข้มข้นถูกใจคอกาแฟ สมกับเป็นพื้นที่ปลูกไร่กาแฟ และเป็นการปิดทริปดอยสวนยาหลวงที่แสนประทับใจจริง ๆ ภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน