วันหยุดนักขัตฤกษ์ทั้งที แอดจะอยู่เฉยได้อย่างไร ไม่รีรอเก็บกระเป๋าพร้อมเดินทาง จุดหมายคือ ผาชู้ ดอยเสมอดาว ณ น่าน นะสินะ ตอนแรกคิดว่าที่เดียวกันนะ แต่จุดที่คนจะไปกันเยอะๆ ก็ผาหัวสิงห์นะ แต่เราได้เต็นท์ที่ ผาชู้ (เราว่าอากาศดีอ่ะ คนไม่เยอะดีนะ) ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท ค่ารถเข้าคนละ 30 บาทค่ะ เปิดเต็นท์มาก็ทะเลหมอกเลยอะ วิวหน้าบ้านเรามันช่างดีจริงๆ เราได้แวะไปที่ดอยเสมอดาว เราว่าผาชู้ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า นักท่องเที่ยวไม่ได้แน่นมากค่ะ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ก็สะอาดสะดวกสบาย อยู่ไม่ไกลจากเต็นท์มาก มีลานทำกับข้าว หากใครจะก่อไฟปิ้งย่าง ก็สามารถทำได้ที่ลานทำอาหาร แต่ไม่อนุญาตให้ก่อไฟบริเวณเต็นท์นะคะ ไม่ใช่แค่เรื่องควันไฟแต่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอื่นๆด้วยค่ะ สำหรับอากาศยามเช้า หมอกก็มาจริง ไม่ทำให้ผิดหวังเลย อากาศ ณ เช้าวันนั้น ประมาณ 19 - 23 องศา และตอนกลางคืนก็ดาวเต็มท้องฟ้าเลย ประมาณช่วงเวลาตี 4 - 7 โมงเช้า เราว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ฟ้าเปิด เงียบสงบ อากาศเย็นยะเยือก ดูดาว และทะเลหมอก ดวงดาวเริ่มลับตาไป เพราะแสงจากพระอาทิตย์ระเรื่ออ่อนๆ ประมาณตี 5 - 6 โมงเช้า ทะเลหมอกก็ขึ้นมาปกคลุมเต็มภูเขาแทบมองไม่เห็นเขา แวะเก็บภาพที่ดอยเสมอดาว ผาหัวสิงห์ลานกางเต็นท์ที่นิยมไปกัน แต่นักท่องเที่ยวจะแน่นมาก สังเกตจากเต็นท์ ขาไปจากสนามบินน่าน เราใช้บริการ Grab น่าน จากสนามบินไปที่ผาชู้ประมาณ 900 บาท 40 กม.ไม่ไกลมากค่ะ แต่ขาลงใช้บริการรถน้าติ่ง โทรได้ที่เบอร์ 098-8081782 ลงไปแยกนาน้อย คนละ 50 บาท รถเขียวราคา 30 บาท แล้วต่อรถฟ้า เวียงสา ไปเมืองน่านอีก 30 บาทค่ะ ถ้าขากลับแบบไม่รีบกลับ ก็ขึ้นรถสไตล์หวานเย็นแบบนี้ อาจจะหลายต่อแต่ก็สนุกดีนะ เข้าเมืองน่านทั้งที เห็นทีจะไม่แวะไปชมวัดวาอารามอันสวยงามเป็นไม่ได้ วัดพระธาตุเขาน้อย องค์พระประธานองค์ใหญ่ที่อยู่บนยอดเขาที่เราเคยเห็นจากโปสเตอร์การท่องเที่ยวไง วัดพระธาตุแช่แห้ง: อันนี้คนเมืองเค้าบอกมานะคะ ว่าให้ขอเรื่องการงาน และมีอุโบสถสตรีห้ามเข้าด้วยค่ะ วัดภูมินทร์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังด้วยงานเขียนมือสีน้ำ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ บ่งบอกการเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตของคนเมืองล้านนาในสมัยก่อน ขอบอกว่าภาพสี ช่างงดงาม งามแต๊ๆ งามปะล้ำ ปะเหลือ เลยจ้าว วัดในเมือง วัดหัวข่วง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร วัดภูมินทร์ วัดไผ่เหลือง จะอยู่บริเวณใกล้ๆ ตลาดถนนคนเดิน ซึ่งเราจะเช่าจักรยานปั่นรอบเมือง หรือจะนั่งรถรางรอบเมืองก็ได้ค่ะ สี่แยกถนนผากอง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ก็อยู่ตรงกันข้ามกับวัดพระธาตุช้างค้ำเลยค่ะ หากจะเป็นวันเดย์ทริป สามารถที่จะเดินเล่นรอบเมืองได้สบายๆ เพราะสถานที่เที่ยวอยู่ใกล้ๆกันหมด ซุ้มลีลาวดี จุดถ่ายรูปยอดฮิต ก็อยู่ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ ลานขันโตกที่สำหรับทานอาหารเย็นอยู่ข้างๆ ถนนคนเดินเลย เราสามารถเลือกซื้ออาหาร ของกิน ขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอยไก่ ไส้อั่ว ยำแหนมคลุก ผลไม้ ขนม นมเนย มีให้เลือกมากมาย แล้วก็มานั่งทานที่ลานขันโตกหน้าวัดภูมินทร์ แถมยังมีดนตรีพื้นเมืองให้ฟังตลอดการรับประทานอาหารด้วยค่ะ บรรยากาศชิวๆ สบายๆ หากเป็นช่วงวันหยุดยาว แน่นอนอยู่แล้วว่าคนจะต้องเยอะ แต่ก็เป็นบรรยากาศการท่องเที่ยวที่คึกคักดีค่ะ อาหารพื้นเมือง: ขอนำเสนอ แอ๊บเห็ด ข้าวกั้นจิ้น ไข่ปาม ตำมะหนุน สำหรับรสชาตินั้น ไปหาลองชิมกันได้ที่น่านเลยค่ะ คาเฟ่แนะนำ: Coffee บ้านๆ ซอยมณเฑียร ร้านกาแฟสไตล์ Library มีหนังสือให้อ่านมากมาย เล่มไหนที่ห่อปกก็สามารถแกะมาอ่านดู และนำไปวางเก็บที่เดิมได้ค่ะ และสามารถเลือกกลับบ้านได้เช่นกัน กาแฟก็หอมอร่อย และมีไข่กะทะ ที่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ Hostel: CuteInn @ Nan ที่พักในเมืองสุดชิค สไตล์โคเรียนๆ โฮสเตลกันเองแบบวัยรุ่นๆ น้องเจ้าของจบนิเทศน์มาเปิดเอง ถ้า walk -in ก็ 200 บาท ถ้าใน Booking.com 239 - 250 บาทค่ะ คือ โลเคชั่นอยู่กลางใจเมือง มีจักรยานให้เช่า 50 บาท มีบริการพาเที่ยว และห้องแบบ Dormitory ไม่แพงและสะอาดมากๆค่ะ นับว่าเมืองน่านนั้น เที่ยวครบจบในที่เดียว ธรรมชาติ ศิลปะวัดวาอาราม คาเฟ่เที่ยวสไตล์ชิคได้ภายในวันเดย์ทริปก็ได้ สำหรับทริปนี้เราใช้เวลา 3 วัน 2 คืน งบ 1,500 ก็เอาอยู่ค่ะ 24 ชั่วโมง กับการที่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ไม่มีโซเชียลมีเดีย หากเราเบาเสียงเพลงลงสักนิด เราจะได้ยินเสียงจั๊กจั่น จิ้งหรีด กบเขียดร้องอย่างระงม หากเราดับไฟ LED ที่ส่องเต็นท์ลงอีกนิด เราจะสามารถมองเห็นดาวได้ยิ่งชัดเจนมากขึ้น หากเราเบาเสียงคุยกันสักนิดเราจะได้ยินเสียงลมพัดต้นไม้เอื่อยๆ และไอเย็นบ้าง สิ่งที่เป็นไฮไลต์ประทับใจมากที่สุด คือ ทะเลหมอกตอนเช้านี่ล่ะค่ะ คงจะหาหมอกแบบนี้ในเมืองกรุงได้ยาก คุ้มค่ากับการรอคอย และการอดใจไว้รอในตอนเช้า ช่างเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดจริงๆค่ะ หากใครยังไม่เคยไปสัมผัสกลิ่นไอหมอกยามเช้า ลองให้โอกาสเราได้เรียนรู้และรู้จัก สัมผัสกับธรรมชาติบ้าง ลองไปดูสักครั้งนะคะ เมืองน่าน ณ น่านนะสินะ ^^ เครดิตภาพโดยนักเขียน: Icecream_sunday