หนีรถติดในเมืองกรุงมาศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติ จ.น่าน เปลี่ยนวันธรรมดาเป็นวันพิเศษได้ด้วยมือเรา ตามหัวข้อหลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าเราเป็นเด็กอ้วนคืออ้วนขนาดไหน เราเป็นเด็กอ้วนที่น้ำหนักเกือบเข้า 3 หลัก ฉะนั้นถ้าใช้คำนี้ก็คงไม่ผิด บันทึกการเดินทางนี้เราอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับทุกคน ขนาดเด็กอ้วนแบบเรายังทำได้ เราเชื่อว่าคุณก็ทำได้ นอกจากจะเอาชนะตัวเองได้แล้ว ยังได้พบอะไรที่แปลกใหม่ตลอดเวลา ธรรมชาติที่น่าหลงใหลเคล้าคลอด้วยเสียงของผืนป่าที่น่าอัศจรรย์ อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินมีลักษณะเป็นแบบไหนเราคิดว่าหาใน Google ก็คงไม่ยาก แต่ถ้าให้เราอธิบายมันจะเป็นอะไรที่ยากมากจริง ๆ เพราะเราหลับมาตลอดทางเลยตั้งแต่กรุงเทพฯ ฮือ~~~ เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นี่จะแบ่งเป็น 9 จุด ประกอบด้วย ห้วยน้ำงิม เจียวกู่หลาน ช่องลมมหัศจรรย์ จันทน์ผา ต้นพระเจ้าห้าพระองค์ ตาน้ำ ถ้าทอง กล้วยป่า และดินโป่ง แต่พี่เจ้าหน้าที่กระซิบบอกเรามาว่าถ้าเดินตามนี้เส้นทางจะโหดเพราะต้องขึ้นเขาสูงชันทีเดียว แต่ถ้าหากเดินทวนแผนที่แล้วล่ะก็จะสบายขึ้นเยอะ เมื่อได้ยินแบบนั้น เด็กอ้วนแบบเราจะเลือกแบบไหนน่ะเหรอ? ก็ต้องเลือกเดินทวนกันสิคะ หุหุ ฉะนั้น จุดแรกที่เราจะเจอก็คือ “ดินโป่ง” นั่นเอง ในส่วนนี้พี่เจ้าหน้าที่เขาก็จะให้ความรู้เราเกี่ยวกับดินโป่งไป จุดต่อ ๆ ไป คือ กล้วยป่า และ ถ้ำทองตามลำดับ ถ้ำทองนี่แนะนำให้หาไฟฉายติดตัวไปได้นะ หรือถ้าใครไม่อยากพกไปก็ใช้ไฟฉายจากมือถือได้จ้า แต่พี่เจ้าหน้าที่เขาจะมีไฟสำรองให้อยู่ ลองสอบถามเขาดูนะ ข้างในถ้ำจะค่อนข้างมืดเนื่องจากไม่มีการติดตั้งระบบไฟใด ๆ ฉะนั้นเวลาเดินเข้าไปก็ระวังหน่อยนะ บรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยความระยิบระยับมากคุณเธอทั้งหลาย เดี๋ยวจะหาว่าเราโม้ นี่คือภาพตัวอย่างที่เราถ่ายมา และเนื่องจากฝีมือเราอยู่ในขั้นมือสมัครเล่น ฉะนั้น อย่าเพิ่งด่าเราแรงนะ จุดต่อไปที่อยากนำเสนอคือ “ต้นพระเจ้าห้าพระองค์” คุณขาสิ่งนี้คือต้นไม้ค่ะคุณ โดยต้นไม้ชนิดนี้เป็นพันธุ์ไม้ที่หายาก เป็นต้นไม้ที่ใหญ่มากกก (กอไก่ล้านตัว) เราที่คิดว่าตัวเองใหญ่แล้ว พอไปเทียบคือไม่ติดฝุ่นเลยจ้า ถ้าไม่เชื่อล่ะก็...เชิญชมภาพค่ะ และจุดต่อไปหลังจากนี้จะค่อนข้างเดินลำบากนิดนึงนะคะคุณ เนื่องจากหินที่แหลมคมและต้องขึ้นเขาลงเขาโดยเฉพาะบริเวณจันทน์ผา(ตรงนี้เหนื่อยมาก พูดเลย) แต่พอขึ้นไปถึงจุด ๆ หนึ่งแล้วยืนรับลมสักนิด พักสักหน่อย รับรองถึงความฟินเวลาที่ลมพัดมากระทบใบหน้าเลยล่ะค่ะ และแล้วการเดินทางก็สิ้นสุดลงหลังจากห้วยน้ำงิม สุดท้าย...ในที่สุดเราก็ได้เก็บแต้มแรกใน "สมุดพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ" แล้ว ขอขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่อุทยานนะคะที่ช่วยดูแลกลุ่มเด็กอ้วนแบบเราตลอดเส้นทาง พี่ ๆ เขาน่ารักนะคุณ ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมข้อมูลแน่น ๆ และมุกตลกตลอดเวลา รับรองไม่มีเบื่อแน่นอนค่ะ :)