อื่นๆ

หัวใคร...อยู่ใต้ต้นมะขาม?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
หัวใคร...อยู่ใต้ต้นมะขาม?

ฉันเป็นคนจังหวัดน่าน เติบโตและเข้าโรงเรียนชุมชนของหมู่บ้านตั้งแต่เด็กจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 บ้านของฉันเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บ้านหลังนี้คุณปู่ของฉันปลูกไว้สำหรับเป็นที่นอน ส่วนโรงครัวนั้นแยกปลูกไว้อีกหลังไม่ไกลกันมากนัก บริเวณบ้านของฉันกว้างขวาง ย่าของฉันเลยปลูกพวกสมุนไพร ผลไม้และพืชผักสวนครัวไว้เยอะ ซึ่งต้นไม้ต้นใหญ่ที่สุดในบริเวณบ้านฉัน เห็นทีจะเป็นต้นมะขามที่ขึ้นอยู่ข้าง ๆ โรงครัวที่เป็นที่มาของเรื่องเล่าเรื่องนี้นี่แหละ

คืนที่เกิดเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงนี้ขึ้น เป็นคืนหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 คืนนั้นเป็นคืนหนึ่งที่อากาศหนาวเย็น เพราะยังไม่พ้นช่วงฤดูหนาวดี เมื่อทุกคนในบ้านกินข้าวอาบน้ำกันเรียบร้อยต่างก็พากันเข้านอน เหลือเพียงฉันที่ยังคงเปิดหน้าต่างรับลม เปิดไฟในห้องนอนและนั่งอ่านหนังสือเพียงลำพังอยู่ในห้องนอนของตนเองบนบ้านเท่านั้น ฉันจำไม่ได้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไรแล้ว แต่คิดว่าน่าจะดึกมาก เพราะสิ่งที่ฉันได้ยิน มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้ไหวเบา ๆ เท่านั้น เสียงแมลงสักตัวฉันก็ไม่ได้ยิน อาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงฤดูหนาวด้วย จึงไม่มีแมลงมากนัก อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ฉันจึงเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน เพื่อไปเข้าห้องน้ำที่ปลูกไว้หลังบ้าน

Advertisement

Advertisement

ในระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินอ้อมเพื่อไปยังห้องน้ำหลังบ้าน สายตาของฉันก็พลันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างเสียก่อน

ใต้ต้นไม้ใหญ่นั่น...ตรงที่แสงไฟนีออนหลอดเก่าส่องถึง...ตรงโคนของต้นมะขามต้นใหญ่นั่น...มันเป็นหัวคน!!!!

ไม่ได้มีหัวเดียว...แต่มีถึง 3 หัว!!! มันตั้งเรียงกันเป็นแนวตั้ง...!!!

ฉันเพ่งมองมัน...มันไม่มีตัว มีแต่หัว...ทั้งสามหัวส่งยิ้มมาให้ฉัน...หัวบนสุดตั้งอย่างหมิ่นเหม่ต่างจากอีกสองหัว คล้ายกับว่าแอบอยู่หลังโคนต้นมะขามใหญ่ ในขณะที่ฉันกำลังพยายามหาเหตุผลในการที่หัวตั้งบนพื้นแบบนั้น เป็นไปได้ไหมว่ามีคนแกล้งนอนตรงนั้น...แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะฉันมองไม่เห็นตัวมันเลย มันมีแต่หัวจริง ๆ !!!

ในทันใดนั้นเอง...หัวบนสุดที่ตั้งหมิ่นเหม่อยู่บนอีกสองหัว ก็ยกแขนขึ้นมา และโบกมือให้ฉัน!!!!!

ฉันจำไม่ได้ว่าคืนนั้นฉันกลับขึ้นมาบนบ้านได้อย่างไร ฉันเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างอย่างไร อาการอยากเข้าห้องน้ำของฉันหายไปไหน ฉันเพียงแต่จำได้ว่ามีหัวตั้งอยู่บนพื้นใต้ต้นโคนมะขาม มันยิ้มให้ฉัน หัวบนสุดโบกมือให้ฉัน...มีหัวตั้งอยู่บนพื้นใต้ต้นโคนมะขาม มันยิ้มให้ฉัน หัวบนสุดโบกมือให้ฉัน...มีหัวตั้งอยู่บนพื้นใต้ต้นโคนมะขาม มันยิ้มให้ฉัน หัวบนสุดโบกมือให้ฉัน...สมองของฉันท่องแบบนี้ซ้ำ ๆ ติดต่อกันไปหลายอาทิตย์ ฉันเล่าเรื่องนี้ให้ปู่ย่าของฉันฟัง ปู่ทำพิธีสู่ขวัญให้ฉัน ส่วนเพื่อน ๆ ของฉันบางคนก็เชื่อ บางคนก็บอกว่าฉันตาฝาด ฉันสาบานกับตัวเองว่า ฉันขอให้ตัวเองตาฝาดดีกว่าและอยากให้รอยยิ้มสุดสยองนั่นเป็นแค่เรื่องที่ฉันจิตนาการขึ้นมาเพราะอ่านหนังสือเยอะไปเท่านั้นเอง

Advertisement

Advertisement

เหตุการณ์นี้ก็ผ่านมานานหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่ฉันได้กลับบ้าน สายตาก็มักจะเหลือบมองไปยังโคนต้นมะขามนั้นอยู่บ่อย ๆ และยังคงมีคำถามเดิม ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร...ฉันเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์มาก เสียดายที่เรื่องที่ฉันเจอไม่สามารถพิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์ แต่หากว่าสิ่งลี้ลับหรืออธิบายไม่ได้เหล่านี้ถูกเรียกว่า ภูติผี ฉันก็คงจะสรุปได้อย่างเดียวว่า คืนนั้นฉันคงเจอผีเข้าแล้วละ...คุณรู้อะไรไหม ฉันยังคงจำภาพรอยยิ้มของสิ่งนั้นได้เสมอ ไม่ใช่รอยยิ้มแบบที่ทำให้โลกของใครสดใส แต่เป็นรอยยิ้มและการทักทายที่ทำให้ขนทั่วทั้งตัวของฉันลุกเกรียวได้อย่างพร้อม ๆ กันเลยละ...

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์