ณ เวลานี้ ในทั่วทุกมุมโลกคงเป็นที่ยอมรับโดยดุษฎีแล้วว่า แม้ระเบิดปรมาณูที่มีอานุภาพรุนแรงที่สุดในอดีต ก็คงไม่อาจเทียบเทียมอานุภาพของ โรคระบาดอุบัติใหม่ covid-19ได้ มีคำกล่าวจากมาดอนน่าศิลปินเพลงกระเดื่องนามยุคปัจจุบันว่า โรคระบาด covid-19 เกิดขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์เกิดความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ยากดีมีจน... มนุษย์ที่คิดว่าตัวเองวิเศษอยู่ตึกระฟ้าที่แม้กระทั่งคนบ้าน ๆ อย่างเราไม่อาจปีนป่ายไปถึง หรืออยู่ไกลแสนไกล จนไม่คิดว่าจะเดินทางไปหาได้ สุดท้ายเจ้า covid-19 ก็เหาะเหินข้ามน้ำข้ามทะเล บินสู่อากาศ ปีนป่ายไปจนถึงจุดที่มนุษย์เองก็ไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ ไปถึงได้นอกจากคนที่วิเศษในระดับเดียวกับตนเท่านั้น ได้แต่สงสัยเหลือเกินว่ามันมาได้ยังไงวะ!!? ในวันที่โลกติดเชื้อระบาด โคโรน่าไวรัส เพิ่มขึ้น กว่า 7 แสนคนในขณะที่ผู้เขียนติดตามข่าวอยู่นี้ พบว่า ประเทศอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่เป็นมหาอำนาจของโลก มีเทคโนโลยีขั้นสูงสุด กลับพบว่าประชากรติดเชื้อไวรัส covid-19 มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยไม่อาจต้านทานความรุนแรงของเชื้อโรคระบาดนี้ได้เลย มาตรการที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งมวล มีการนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นมิให้เจ้าไวรัสตัวร้ายนี้ได้ไปทำร้ายผู้คนให้เกิดการเจ็บป่วย สูญเสีย และเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การกักตัวเองอยู่ในบ้าน งดกิจกรรมที่มีคนอยู่จำนวนมาก ล้างมือบ่อย ๆ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกไปติดต่อพบปะผู้คนเมื่อมีความจำเป็น เช่นไปซื้ออาหาร หรือไปทำงาน หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และจะต้องกลับเข้าบ้านโดยพลันเมื่อเสร็จกิจกรรมที่มีความจำเป็นดังกล่าวแล้ว แม้แต่ประเทศไทยเองก็ไม่พ้นที่จะต้องร่วมชะตากรรมกับชาวโลก หลังจากที่มีข่าวแพร่ระบาดของเชื้อโรค covid-19 สถานการณ์ปั่นป่วนก็เริ่มขึ้น สิ่งที่จะปกป้องเชื้อโรคได้ดีในเบื้องต้นคือ หน้ากากอนามัย ที่ใช้สวมปิดบังหน้าและจมูกเพื่อไม่ให้รับเชื้อจากภายนอกก็เกิดการขาดแคลนอย่างหนัก หน้ากากที่ได้มาตรฐานมีสารเคมีเคลือบป้องกันละอองฝอยจากสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อนั้นจะมีสีเขียวเป็นเบื้องต้น ราคาเริ่มต้นที่เคยซื้อตามร้านค้าทั่วไปคือกล่องละ 75 บาท หลังจากมีข่าวว่าเชื้อโรคระบาดที่อู่ฮั่น ประเทศจีน ราคาก็เริ่มขยับขึ้นเท่าตัวเป็น 150 บาท และเริ่มหายากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อมาก็ได้เพิ่มราคาขึ้นอีกเป็น 350 บาท ผู้คนแห่แหนไปทั่วทุกร้านขายยาที่เปิดอยู่เข้าไปสอบถามว่ามีหน้ากากขายมั้ย... เจ้าของร้านขายยาได้แต่ส่ายหน้าไปมาพลางบอกปฏิเสธไปทุกร้าน ผู้คนแตกตื่นตระหนกกันไปทั่วพารา พลันราคาของหน้ากากอนามัยก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก เป็น 850 บาทต่อกล่อง 50 ชิ้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตจากโรงงานแค่ชิ้นละต่ำกว่า 2.50 บาท ขึ้นราคาไปมากกว่า 600 เปอร์เซ็นต์ นี่ถ้าเป็นข้าวมันไก่จานละ 40 บาท ถ้าขึ้นไป 600 เปอร์เซ็นต์ ก็คงตกจานละ 280 บาทเป็นแน่แท้เทียว แม่จ้าว!!! แต่ในดีมีเลว และในเลวมีดี ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าหน้าเลือด และพวกหาโอกาสฉกฉวยกดขี่ขูดเลือดกับชาวบ้านตาดำๆ กลับมีผู้คนที่หันมาเอื้อเฟื้อเกื้อกูลแก่มนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการขายข้าวแกงถุงละ10 บาทสู้ภัยเศรษกิจที่กำลังยุบตัวลงอย่างมาก ผู้คนตกงานกลับบ้านเก่าของตัวเอง การแบ่งบันหน้ากากผ้าซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเองเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยเหลือกันในยามยากก็แผ่ไปทั่ว การทำเฟสชิลล์ เพื่อแบ่งปันจ่ายแจกก็มีมากขึ้น คนทั่วไปเห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจแก่หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานต่อสู้กับเจ้าเชื้อโรคร้ายอย่างสุดความสามารถ นับว่าเป็นแง่งามด้านดีของส่วนลึกในจิตใจของมนุษย์ที่เกิดขึ้นมาถูกที่ถูกเวลา เทวดาหรือผู้วิเศษของผู้คนในวันนี้ไม่ใช่ผู้ปกครองประเทศในทุกประเทศในโลก แต่กลับเป็นคุณหมอและคุณพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ให้การรักษาผู้ป่วยในปัจจุบัน ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยจึงเป็นปัญหาระดับประเทศซึ่งมีความรุนแรงและทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักและแทบล่มสลายลงไป เมื่อผู้คนเริ่มตั้งสติได้ก็พบว่า การอยู่บ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ติดต่อกับผู้คนให้มากที่สุดก็เป็นแนวทางที่ดีสำหรับบุคคลทั่วไปอย่างเรา ๆ ที่ไม่ใช่หมอหรือพยาบาล ส่วนหน้ากากอนามัยที่กักตุนมาไว้จำนวนมากเกินจำเป็นและสามารถใช้หน้ากากผ้าขณะที่เราไม่ป่วยได้ ก็ควรแบ่งปันไปให้กับผู้วิเศษที่แสนดี ที่ได้เสียสละให้กับพวกเราในขณะนี้ หยิบหน้ากาก N95 ที่เหลืออยู่ที่บ้านแล้วสอดเข้าไปในซองกันกระแทก จ่าหน้าซองเพื่อส่งให้กับคุณหมอคุณพยาบาลใจดี เหล่านางฟ้าและเทวดาของเราพลางอธิษฐาน เพี้ยง!! ขอให้หน้ากากวิเศษนี้จงปกป้องท่านทั้งหลายด้วยเถิด @@@@@@@ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียน