ความเครียดที่เกิดจากแรงกดดันและการทำงานต่างๆ ทำให้ในแต่ละวัน ชีวิตดูจะอ่อนล้า เหนื่อยหน่ายไม่น้อย หลายคนต้องพึ่งหาความสุขจากการดูหนัง ดูซีรี่ย์ ฟังเพลง นอนเล่นกับน้องหมาน้องแมว หรือบางคนอาจต้องออกไปพบปะกับเพื่อนฝูงตามสถานบันเทิงหรือร้านกาแฟ เพื่อผ่อนคลายสบายใจ แม้จะเป็นเพียงชั่วเวลาสั้นๆ แต่มีผลต่อร่างกายและจิตใจอย่างมาก ซึ่งนอกจากความบันเทิงใกล้ตัวที่หาได้ง่ายๆ มีสิ่งที่สร้างความสุข ปลดปล่อยความเครียด และยังได้ใช้จินตนาการอย่างที่ใจต้องการอีกด้วย นั่นคือ งานศิลปะที่ได้เล่นกับสีต่างๆ ค่ะเพราะสี มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของคนเราอย่างมาก สีแต่ละสี มีความหมายและพลังซ่อนอยู่ในตัวของมันเอง เช่นสีแดง ที่เป็นพลังแห่งความคึกคักสดใสไม่หยุดนิ่ง สีน้ำเงิน ที่ให้พลังที่นิ่ง สงบ ลึกลับ น่าค้นหา สีเขียว ที่ช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย สีเหลือง ให้ความเบิกบาน กระตุ้นความร่าเริง ซึ่งจิตวิทยาเรื่องสีกับอารมณ์ความรู้สึก คงหาข้อมูลกันได้ง่ายมาก แต่เมื่อเราได้เล่นกับสีจริงๆ ทั้งสีน้ำ สีไม้ สีเทียน สีโปสเตอร์ สีเหล่านั้นให้ผลลัพธ์กับความรู้สึกของเราทันที และเมื่อนำสีเหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะด้วยแล้ว ช่วงเวลาที่ได้ใช้เวลากับศิลปะตรงนั้น ยังมีผลต่อเรื่องของสมาธิ และ จินตนาการ ที่ยังส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานวันต่อๆไปอีกด้วยค่ะหลายคนคิดว่า จะทำงานศิลปะแต่ละครั้ง ยุ่งยาก มีขั้นตอนอุปกรณ์มาก ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ยากอย่างนั้นเลย แค่คิดว่าจะได้สนุกและได้ระบายอารมณ์ผ่านสีและงานศิลปะ แค่มีสีในแบบที่เราชอบ บางคนสนุกกับสีบางเบาอย่างสีน้ำ บางคนสนุกกับสีที่ฉูดฉาดแบบสีโปสเตอร์และสีอะคริลิค บางคน สนุกกับการระบายสีแบบขีดๆเขียนๆด้วยสีไม้ สีเทียน สีชอล์ค บางคนมีเทคนิคลูกเล่นต่างๆ ที่เคยใช้ตั้งแต่สมัยเรียน เราไม่จำเป็นต้องมีขาตั้งและผ้าใบวาดรูป เราแค่มีกระดาษปอนด์ หรือสมุดวาดภาพระบายสี ซึ่งก็หาซื้อได้ง่ายมาก พอๆกับที่เราเดินไปหาซื้อสีนั่นแหละค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ ยังมีแทปเลต สมาร์ทโฟน ที่มีแอพลิเคชั่นวาดรูประบายสีด้วย ไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์ แต่ผู้เขียนเคยลองแล้ว มันไม่สนุกเท่าใช้สีจริง พู่กันจริงๆค่ะ เวลามือเลอะสีนี่ ได้อารมณ์ศิลปินดีค่ะ แล้วจากนั้น อย่าคิดมากค่ะ ใช้สีที่เราชอบลงมือเลย ซึ่งถ้าเป็นสีที่ต้องมีพู่กัน ก็หาสัก 2-3 อัน ที่มีขนาดต่างกัน เล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อเราจะได้ละเลงจินตนาการได้สุดๆ เวลาลงสี อย่ากลัวผิด อย่ากลัวงานออกมาไม่สวย มันคือศิลปะของเรา มันคืออารมณ์ของเรา มันคืองานของเรา ใช้ช่วงเวลานั้น ละเลง ระบาย และช่วงเวลานั้นเอง ถ้าสังเกตดีๆ เราจะหยุดคิดเรื่องงาน เรื่องเครียด และจะมีสมาธิกับการค่อยๆ วาดเส้น การระบายไม่ให้เกินขอบภาพ และ ช่วงเวลานั้นเอง ที่สายตา มือ และ สมอง จะทำงานสัมพันธ์กัน สายตาที่จับจ้องสี จะซึมซับอิทธิพลของพลังสีไว้กล่อมเกลา เยียวยาจิตใจ ในช่วงเวลานั้นเอง ที่สมองจะคอยคิดว่าจะใช้สีอะไร ผสมกับสีอะไร เป็นการให้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวา ได้ทำงานประสานกัน และใช้จินตนาการ ถ้าคุณมีความรู้สึกเบื่อและเครียด ลองใช้ศิลปะมาเป็นเพื่อน อาจมีเพลงที่ชอบฟังเปิดคลอไปด้วย มีแก้วกาแฟกลิ่นหอมๆ อีกสักแก้ว ... แล้วคุณจะรู้ว่า การได้เล่นกับสี และมีงานศิลปะมาชื่นชม มันเป็นความสุขจริงๆค่ะผู้เขียนเอง มีงานที่ต้องพบเจอกับความเครียดสะสมในแต่ละวัน แต่ผู้เขียนมักใช้เวลาในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เล่นกับหลานสาวและเพื่อนๆของหลาน โดยใช้ศิลปะมาเป็นกิจกรรมร่วมกันเสมอ ทั้งงานวาดภาพ งานปั้นดิน และการทำผ้าบาติกแบบเด็กๆ ซึ่งนอกจากจะได้ใช้จินตนาการปลดปล่อยความเครียดแล้ว ยังได้พลังของสี และ พลังคิดบวก พลังร่าเริงสนุกสนานของเด็กๆ มาทำลายความเครียดได้อย่างดี อยากให้คุณผู้อ่าน ได้ลองใช้ศิลปะ เป็นความสุขความบันเทิงเพื่อความผ่อนคลายดูสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรัก ความสุขจากการได้ระบายสีกันนะคะ ....