ด้วยความที่ประเทศไทยของเราถูกปกครองโดยรัฐบาลทหาร ดังนั้นประเด็นเรื่องการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง รถถัง (Tank) ก็ดูจะเป็นอาวุธอีกประเภทหนึ่งที่กองทัพบกจัดซื้ออยู่บ่อยครั้งจนเกิดการถกเถียงกันบนโลกออนไลน์ แต่เราไม่ต้องไปถกเถียงกับเขา เอาเป็นว่าผู้เขียนจะใช้เหตุการณ์นี้ในการเสาะหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ พาผู้อ่านไปดูกันว่าเพราะเหตุใดรถถังจึงเป็นสิ่งจำเป็นในกองทัพ สมัยก่อนเขาใช้รถถังทำอะไร และทำไมรถถังในภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า Tank ซึ่งไปพ้องกับความหมายของถังน้ำ รถถังจะเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับถังน้ำ ลองไปหาคำตอบพร้อมกันแน่นอนว่ารถถังเป็นหนึ่งในยวดยานพาหนะที่ใช้ในการทำสงคราม แต่บนโลกนี้เกิดสงครามขึ้นตั้งมากมายหลายครั้ง ในอดีตส่วนใหญ่เราก็เห็นคนขี่ช้างขี่ม้าไล่ฟาดฟันกัน แล้วทำไมอยู่ดี ๆ จึงต้องเปลี่ยนมาใช้รถถัง เรื่องนี้มีคำตอบและต้องย้อนไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ลักษณะเด่นของการรบในสงครามครั้งนั้นคือสนามเพลาะ คือการขุดหลุมเป็นแนวยาวแล้วซุ่มรบในหลุมนั้น บริเวณเขตแนวรบก็จะมีการกั้นลวดหนามเอาไว้ คราวนี้บองจินตนาการว่าหากเราเป็นฝ่ายตรงข้าม ครั้นจะเดินดุ่ม ๆ บุกฝ่าสมรภูมิรบเข้าไป ถ้าไม่ถูกลวดหนามแทวตายก่อน ก็คงตกหลุมสนามเพลาะถูกยิงเจาะกะโหลกเอาได้แน่นอน ดังนั้นกองทัพบกจึงต้องสร้างรถถังขึ้นมา เพื่อขับฝ่าแนวลวดหนามและบุกเข้าไปยังฐานทัพของฝ่ายตรงข้ามได้สะดวกการผลิตรถถังคันแรกจึงเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 นี่เอง โดยเป็นความคิดของนายพลวินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) ซึ่งขณะนั้นเขามีตำแหน่งอยู่ในกองทัพเรือ แต่เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาโดยสังเกตจากเรือรบ ที่มีเหล็กหุ้มแข็งแรง สามารถแล่นฝ่ามหาสมุทรไปที่ใดก็ได้ แล้วถ้าลองเปลี่ยนจากเรือเป็นรถ แต่พัฒนาให้มีความแข็งแกร่ง ติดตั้งอาวุธที่สามารถต่อสู้กับศัตรูในสงครามได้ กองทัพบกของอังกฤษก็คงจะแข็งแกร่งไม่แพ้กองทัพเรือที่กำลังรุ่งเรืองสุดขีดในสมัยนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้น โครงการก่อสร้างรถถังจึงเกิดขึ้นทันที โดยอยู่ในความรับผิดชอบของ Landship Committee สังเกตว่ายังใช้คำว่า Landship ที่แปลว่า เรือบก เพราะยังไม่มีการบัญญัติชื่ออย่างเป็นทางการให้รถถังที่กำลังจะสร้างขึ้นมาคราวนี้ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า การจะสร้างรถถังไปใช้ในการร่วมรบในสงคราม ถือเป็นนวัตกรรมครั้งแรกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นจึงต้องปิดโครงการนี้ไม่ให้แพร่งพรายออกไปจนกว่าจะประกอบรถถังขึ้นมาได้สำเร็จ จากบันทึกบอกไว้ว่า แม้แต่คนงานที่มาร่วมผลิตรถถังก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำคืออาวุธสงคราม นั่นเพราะมีการตั้งชื่อบังหน้า ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีตั้งชื่อว่า Water Carrier For Russia ซึ่งแปลว่าถังขนน้ำสำหรับรัสเซีย เพราะอังกฤษกับรัสเซียเป็นชาติที่อยู่ฝ่ายเดียวกันคือฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ติดอยู่ตรงที่เวลาย่อจะต้องใช้ตัวย่อว่า W.C. ซึ่งดันไปพ้องกับตัวย่อของห้องสุขาที่มาจากคำว่า Water Closet ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนเป็น Water Tank For Russia แต่เรียกไปเรียกมาก็ถูกย่อให้สั้นลงอีก จนเหลือเพียงคำว่า Tank ที่ใช้กันมาถึงปัจจุบันดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าเพราะเหตุใดรถถังจึงไม่มีชื่อภาษาอังกฤษชนิดอลังการดาวล้านดวงสมกับเป็นอาวุธสงคราม นั่นเพราะเกิดจากการจงใจตั้งชื่อบังหน้าโครงการลับสุดยอด รถถังคันใหญ่จึงมีชื่อพ้องกับถังน้ำไปโดยปริยาย แต่ถึงชื่อจะดูก๊องแก๊งไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์ที่ผลิตออกมา แต่ถึงอย่างไรรถถังก็กลายเป็นยวดยานที่กองทัพบกจำเป็นต้องมีในการทำสงคราม แม้ปัจจุบันจะไม่ได้ถูกนำไปใช้ในการรบมากนัก แต่ถือว่ารถถังก็ยังมีบทบาทต่อการซ้อมรบในกองทัพบก และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากรถถังนั่นเองรูปภาพหน้าปก โดย Stephanie LeBlanc : Unsplashภาพประกอบที่ 1 โดย The New York Public Library : Unsplashภาพประกอบที่ 2 โดย Suzy Brooks : Unsplashภาพประกอบที่ 3 โดย Roger Stranes Sr : Unsplashภาพประกอบที่ 4 โดย Ryoma Onita : Unsplash