น่านวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. เป็นเช้าที่อากาศเย็นลงมากกว่า 2 วันที่ผ่านมาอุณหภูมิ 7 องศาเซลเซียส...เป็นเช้าอีกวันในฤดูหนาวที่ผมไม่อยากโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มเลย อากาศหนาวที่ผมเคยสัมผัสช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ในหลายที่ที่เคยไปอาศัยอยู่ มีอุณหภูมิประมาณ 15 องศาเท่านั้น ปีนี้นับเป็นอีกปีหนึ่งที่ความหนาวมาเยือนอย่างรุนแรง และเย็นมาก ๆ 2 วันก่อน เมื่ออากาศเริ่มเย็นก็คิดว่าตัวเองแข็งแรง ยังพอทนกับอากาศหนาวได้...พอมาถึงเมื่อวานที่อากาศเย็นลงฮวบฮาบจาก 14 องศาเหลือ 9 องศา ทำให้รู้สึกว่า ต้องพึ่งเสื้อแจ็คเก็ต และกางเกงขายาวเป็นอุปกรณ์เสริมในการนอนใต้ผ้าห่มนวมอีกชั้นหนึ่ง..... ทุก ๆ เช้า..ที่ผมตื่นขึ้นมา หลังจากเก็บที่นอน เข้าห้องน้ำล้างหน้าแล้ว ลงมาชั่งน้ำหนักที่หวังว่ามันจะลดลงบ้าง ...ซึ่งก็ไม่เคยลดลงได้เลย ฮ่าๆๆ... จากนั้นผมก็จะลงมากินกลูโคซามีน เพื่อซ่อมแซมกระดูกและข้อ สำหรับผู้สูงอายุและข้อเข่าเสื่อม เทน้ำใส่กาต้มน้ำร้อนเพื่อไว้กินกาแฟตอนเช้า หยิบปลอกขามาสวม ใส่รองเท้าผ้าใบ พร้อมทั้งเลื่อนจักรยานตั้งพื้นมาเพื่อทำการปั่นออกกำลังกายตอนเช้าเป็นเวลา 30 นาที....เช้าวันนี้ผมตื่นสาย เพราะเป็นเช้าวันหยุดและอากาศก็หนาวจับใจ...แต่พอแสงสว่างเริ่มลอดกระจกหน้าต่างเข้ามาก็คงเป็นเวลาที่ต้องตื่นแล้ว ผมทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ก็มาเปิดทีวีช่อง โมโน 29 ดูหนังตอนเช้า....พร้อมกับปั่นจักรยานออกกำลังกายไปด้วย...เช้านี้หนังโมโนนำเสนอเรื่อง BIG MIRACLE แปลเป็นชื่อหนังไทยว่า ปาฏิหาริย์ วาฬสีเทา ....หนังฝรั่งก็เป็นซะอย่างนี้ ตั้งชื่อเรื่องเป็นแบบนามธรรม ถ้าเราเห็นชื่อเรื่องแต่ไม่ได้เห็นภาพโปสเตอร์แผ่นแปะหน้าโรงหนังอาจเดาไม่ออกว่าหนังเรื่องนั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร แต่ทว่า การแปลเป็นชื่อหนังในสไตล์ไทย มักจะทำให้เรามองภาพออกว่าหนังจะเป็นเรื่องประมาณไหน....BIG MIRACLE เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวาฬพ่อแม่ลูกที่ติดอยู่ในน้ำแข็งขั้วโลกที่อุณหภูมิลดลงตลอดเวลา และวาฬทั้งสามตัวต้องใช้ช่องว่างเล็ก ๆ ของแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่ เพื่อโผล่ขึ้นมาหายใจ และช่องว่างเล็ก ๆ นั้นเริ่มมีก้อนน้ำแข็งเกาะเพิ่มมากขึ้น คืบคลานและปกคลุมจนเกือบจะทำให้ไม่มีช่องว่างเหลืออีกต่อไป.... ในเรื่องมีตัวเอกคือ นางเอกซึ่งมีอาชีพเป็นนักข่าวท้องถิ่น และเป็นสมาชิกกลุ่มกรีนพีช นอกจากทำหน้าที่เสนอข่าวเรื่องวาฬที่กำลังอยู่ในวิกฤติแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะปกป้องวาฬไม่ให้ถูกล่าจากชนพื้นเมืองที่อยู่บริเวณนั้น เริ่มต้นเรื่องราวดูไม่น่าสนใจนัก การก่อตัวของเรื่อง เริ่มจากการรายงานข่าวท้องถิ่น มีการกระจายข่าวไปจนถึงผู้ว่าการรัฐ และช่องข่าวระดับชาติ ทำให้ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว หลายช่องข่าวนำเสนอข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง...จนไปเข้าหูท่านประธานาธิบดีเรแกน....ซึ่งเป็นประธานาธิบดีในเรื่อง...พระเอกซึ่งช่วยนางเอกทำข่าวท้องถิ่นอยู่ เกิดไปปิ๊งนักข่าวสาวสวย ผมบลอนด์สีน้ำตาล ช่องข่าวใหญ่ระดับประเทศ จึงมีเรื่องราวติดตามมา และนักข่าวจากทั่วประเทศก็เดินทางมาทำข่าวเรื่องนี้...ด้านประธานาธิบดี ได้สั่งการให้ผู้พันหนุ่มแห่งกองทัพอากาศใช้เฮลิคอปเตอร์ เพื่อลากเรือเจาะน้ำแข็งฝ่าวิกฤติความหนาวเย็นและน้ำแข็งที่เกาะเป็นแผ่นหนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ โดยประมาณการไว้ 2-3 วัน...เมื่อพูดถึงผู้พันหนุ่มก็มีเรื่องราวความรักระหว่างผู้พันกับเลขาหน้าห้องสาวสวยของท่านประธานาธิบดี มีการปะทะคารมกันนิดหน่อย เรื่องการประสานงานระหว่างประธานาธิบดีกับนักบิน ซึ่งการใช้เฮลิคอปเตอร์ลากเรือขุดเจาะน้ำมันเพื่อไปเพื่อเจาะน้ำแข็งเปิดทางให้กับวาฬ ทั้งสามตัวได้ออกไปสู่ทะเลใหญ่...จนกระทั่งพบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ลากเรือ ไม่สามารถลากเรือเจาะไปได้อีก เพราะน้ำแข็งได้ปกคลุมรอบเรือและไม่สามารถเดินทางต่อไปได้....ชาวพื้นเมือง ได้เข้ามาร่วมมือโดยพยายามตัดช่องน้ำแข็งด้วยเครื่องเลื่อยยนต์ เว้นระยะและมุ่งไปสู่ทะเลใหญ่ เพื่อให้วาฬทั้งสามตัว มีช่องหายใจและจุดพักเพื่อไปสู่ทะเล ...ทั้งยังมีนักประดิษฐ์เครื่องไล่น้ำแข็งเพื่อมาปั่นละลายน้ำแข็งให้ช่องว่างขยายตัวขึ้นในการช่วยเหลือวาฬ จุดไคลแม็กซ์ที่สามารถทำให้ปัญหาคลี่คลายคงไป คือ การที่สหรัฐพบว่า มีเรือรบของรัสเซียอยู่แถวนั้น และต้องประสานขอความช่วยเหลือ ให้เรือดังกล่าวมาทำการทำลายน้ำแข็งเปิดทางให้กับวาฬทั้งสามตัวรอดออกมาได้ ทั้งนี้ระหว่างรอให้วาฬทั้งสามเคลื่อนตัวไปตามช่องที่เจาะไว้ พบว่าลูกวาฬที่ชื่อว่าแบม แบม ได้เสียชีวิตลง ทำความโศกเศร้าให้เกิดขึ้นแผ่ไปทั่วบริเวณ ทั้งชุมชนท้องถิ่นที่ติดตามข่าว และคนทั้งประเทศที่ติดตามอยู่ ณ ตอนนั้นเมื่อสรรพกำลังมาถึงเรือรบรัสเซียสามารถทำลายชั้นน้ำแข็งที่ก่อตัวลงไปได้ ทำให้ภารกิจเซฟชีวิตวาฬอีก 2 ตัวทำไปได้สำเร็จ ภาพยนตร์ก็จบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง พระเอกก็กลับไปคืนดีกับนางเอกและไม่ได้สมหวังกับนักข่าวสาวสวยผมบลอนด์ซึ่งเป็นนางในฝัน และผู้พันได้แต่งงานกับเลขาสาวสวยของประธานาธิบดี ถ้าจะให้สรุปก็คงบอกได้แต่เพียงว่า สามัคคีคือพลัง....แต่ก็นั่นแหละ ผมสังเกตว่า ตัววาฬน่าจะเป็นเทคนิคการทำหุ่นปลาของการทำหนังฝรั่งเขา และการระดมใช้คนที่มีส่วนร่วมในการแสดง และบทบาทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวจำนวนมาก ชาวพื้นเมือง คนท้องถิ่น ประธานาธิบดี และการละลายสงครามเย็นระหว่างอเมริกาและรัสเซีย...เป็นเรื่องราวที่ผูกขึ้นมาให้คนดูสนใจได้ติดตามได้เรื่อย ๆซึ่งความเห็นผมคือ....เรื่องอย่างนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์จริง...