"ข้าวจี่" คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้จัก เป็นทั้งอาหารหลักและอาหารว่างของคนภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันนี้หากินได้ค่อนข้างยาก แต่หากขึ้นมาทางภาคเหนือ อย่างจังหวัดน่าน ข้าวจี่จะมีให้ซื้อกินได้ที่ถนนคนเดินในตัวเมืองน่าน ใกล้จุดท่องเที่ยวอย่างวัดภูมินทร์ วัดช้างค้ำวรวิหาร และ ซุ้มลีลาวดี เปิดทุกวัน วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงโควิด19นี้จึงทำให้มีการประกาศปิดถนนคนเดินชั่วคราว การจะหาซื้อข้าวจี่กินก็เป็นเรื่องยากไปด้วย เมื่อตอนเป็นเด็ก แม่มักจะทำให้เวลาที่รู้สึกเบื่อข้าวเหนียวนึ่งสุก หรือ เวลาที่มีข้าวเหนียวเหลือจนข้ามวัน คนเหนือเรียกว่า “ข้าวเย็น” จะนำมาอุ่นให้ร้อนใหม่ กินไปก็ไม่อร่อย จึงชอบนำมาทำเป็นข้าวจี่ หรือ “ข้าวแต๋น” ราดน้ำอ้อยอร่อยกว่า ทั้งยังเก็บได้นานขึ้น ถือว่าเป็นการถนอมอาหารอีกรูปแบบหนึ่ง แม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนเวลาไปทำนา อากาศร้อน ห่อข้าวเหนียวนึ่งไปก็มักจะมีกลิ่นบูดกินไม่อร่อย ก็มักจะทำเป็นข้าวจี่ไปกินกับน้ำพริกก็ดี ปลาแห้งป่นก็ได้ หรือกินเปล่าทั้งอย่างนั้นก็อร่อย เพราะตอนที่ทำข้าวจี่ก็จะโรยเกลือลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ หากกินไม่หมดก็สามารถเก็บไว้กินในมื้อต่อไปได้ ข้าวจี่นั้นเป็นอาหารที่สามารถทำกินได้ตลอดปี แต่เราชอบทำกินช่วงหน้าหนาว ช่วงที่อากาศเย็นๆ ถ้าได้กินข้าวจี่ร้อนๆ หอมกรุ่น ข้างนอกกรอบๆเกรียมๆ เคี้ยวกินกรุบกรับ พูดถึงแล้วก็อยากกินทันทีวันนี้แม่นึ่งข้าวสุกใหม่ๆ อาจจะด้วยอากาศร้อนทำให้รู้สึกเบื่อข้าวนึ่งพอดี เราเลยทำข้าวจี่กินแก้เบื่อ ยิ่งช่วงนี้ยุค โควิด 19 ก็ยิ่งต้องประหยัดเงินในกระเป๋า เลยอยากจะลองแนะนำเมนูอาหารพื้นบ้านนี้ให้ทุกคนลองทำตามกันดู เตาถ่านเหลือจากแม่ที่นึ่งข้าวเหนียวพอดี เริ่มจากนำข้าวเหนียวนึ่งสุกมาปั้นให้แผ่นบางๆ หรือ ปั้นเป็น รูปทรงกลม หรือ รี ก็ได้ เราเลือกทาเกลือกับทากะปิ หรือจะทาไข่ไก่ ทาน้ำมันหมูก็ได้ แล้วแต่ความชอบ นำไปปิ้งบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อนๆ คอยพลิกกลับไปมา อย่าให้ไหม้เกรียมจนเกินไป หากใครชอบแบบนุ่มๆไม่แข็งมาก ให้ปิ้งแค่เปลี่ยนสีก็พอแล้ว แต่เราชอบกรอบๆเกรียมๆ ก็จะปิ้งต่อไปอีกนิด กลิ่นหอมกรุ่น กรอบอร่อย แต่ต้องระวังเพราะข้าวจะร้อนมาก ควรวางทิ้งไว้สักพักก่อนกิน ข้าวจี่ เราจะกินเป็นของว่าง ทานเล่นๆแก้เบื่อ หรือจะกินคู่ไปกับอาหารหลักก็ได้ น้ำพริกเอย แกงเอย อะไรก็ได้ง่ายๆ ส่วนตัวเราชอบกินกับส้มตำและไก่ย่าง ฟินสุดๆเลยล่ะ ข้าวจี่ที่มีความกรอบ กลิ่นหอมๆ กินพร้อมกันกับส้มตำตัดกันดีกรุบกรับอยู่ในปากคล้ายกับกินแคบหมู แต่อร่อยและเด็ดกว่าแน่นอนต้องลองค่ะ หรือกับอีกเมนูหนึ่งที่อยากแนะนำให้ลอง รับรองน้ำลายสอไปตามๆกัน คือ คอหมูย่าง+เพิ่มด้วยน้ำจิ้มแจ๋วเด็ดๆ อธิบายไม่ถูกกันเลยทีเดียวกับรสชาติ คอหมูย่างที่มันแตกจนจะละลายในปาก น้ำจิ้มแจ๋วเพิ่มรสชาติตัดความเลี่ยน บวกกับความกรุบกรอบของข้าวจี่ เมื่อทุกอย่างรวมกันอยู่ในปาก ให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ว่าถึงความอร่อยของข้างจี่แล้วก็อยากพูดถึงประโยชน์บ้าง ข้าวจี่ทำมาจากข้าวเหนียว มีคาร์โบไฮเดรตเยอะ พร้อมให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น โดยเฉพาะหากกินช่วงหน้าหนาว ที่บ้านเราถ้าหนาวจัดๆการกินข้าวจี่แล้วก็นั่งผิงไฟไปด้วย บอกเลยว่าฟิน แล้วไหนจะช่วยในเรื่องของผิวเราอีก กินข้าวเหนียวบ่อยๆช่วยทำให้ผิวเนียนกระจ่างใส ช่วยขับลม ช่วยคลายเครียด อิ่มท้องนาน ยิ่งเมื่อทาข้าวจี่ด้วยไข่ ก็ยิ่งเพิ่มประโยชน์เข้าไปอีก ช่วงนี้ออกไปไหนยากลำบากต้องคอยระวังนู้นนั่นนี่ ใช้จ่ายก็ต้องประหยัด ข้าวจี่ ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับบ้านที่มีข้าวเหลือข้ามวัน หรือ เบื่อข้าวธรรมดาๆ ถือเป็นเมนูที่ช่วยลดความจำเจ แต่ยังคงอิ่มท้องเหมือนเดิม ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน อยากแนะนำเมนูพื้นบ้านนี้ให้ลองทำตามกันดูนะคะ เครดิต:ภาพถ่ายโดยผู้เขียนทุกภาพค่ะ