ลงทุนร้านกาแฟอย่างไร ในเมืองและเวลาที่เศรษฐกิจอยู่ในขาลง สำหรับใครที่อยากจะเปิดร้านกาแฟในเมืองที่เศรษฐกิจไม่ดีแล้วประสบความสำเร็จนั้น เขามีแนวคิดและบริหารกันอย่างไร เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จ สามารถยืนยัดอยู่ในเมืองที่เศรษฐกิจติดลบจนในที่สุดก็ได้เปลี่ยนวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวเมืองไปตลอดกาล ชื่อร้านว่า กาแฟมิตรไมตรี อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนร้านกาแฟมิตรไมตรี ถือเป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากแห่งหนึ่งในเมือง ด้วยรสชาติเครื่องดื่มที่อร่อยและไม่เหมือนใคร ทำให้ร้านขายดีติดลมบนแซงร้านอื่นไปได้ไม่ยาก อีกทั้งความเป็นมิตรและใส่ใจของพนักงานที่จะคอยถามถึงรายละเอียดว่ากาแฟจะเป็นคั่วแบบไหน ความหวานระดับไหน ลูกค้าจะสามารถเลือกเองได้หมด ลูกค้าประทับใจตรงนี้ โดยทางร้านก็จะมีการปรับสูตรเครื่องดื่มอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ลูกค้าได้ลองชิมเมนูเดิมแต่รสชาติใหม่เมื่อเดินเข้ามาในร้านจะพบว่าบรรยากาศจะให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่อึดอัด และไม่มีใครแย่งเราถ่ายรุป เราสามารถเลือกที่นั่งคนเดียว หรือเป็นโต๊ะแยกออกมาได้ค่ะ สบาย ๆ ร้านกว้างขวาง โล่ง ด้านหลังร้านมีระเบียบติดแม่น้ำยวม ใครชอบบรรยากาศโล่งโปร่ง แนะนำให้ไปนั่งโต๊ะตรงระเบียงด้านนอกเราได้มีโอกาสสนทนากับเจ้าของ ชื่อเจ้าของ นายอนุวัฒน์ วรรณกองแก้ว ชื่อเล่น กล้า อายุ 41 ปี ประกอบธุรกิจ ทำร้านกาแฟ โรงน้ำแข็ง และขายน้ำดื่ม โดยธุรกิจล่าสุดคือ ร้านกาแฟมิตรไมตรี จุดเริ่มต้นของการทำร้านกาแฟคือจากความชอบ เป็นคนชอบชิมกาแฟ เที่ยวร้านกาแฟ พื้นฐานแล้วเป็นคนชอบบรรยากาศของร้านกาแฟ ก็เลยอยากมีร้านกาแฟตามแบบที่ชอบ ประกอบกับบ้านตรงนี้ก็ยังว่างอยู่เลยทำบ้านหลังนี้ให้เป็นร้านกาแฟ โดยอยากให้เป็นลักษณะร้านแบบนั่งสบาย นั่งคุยได้ ไม่แน่นเกินไป ไม่เบียดเกินไป มีที่ว่างของแต่ละคน มีspaceส่วนตัวของแต่ละคน จะไม่ยัดเก้าอี้ให้แน่น ตอนแรกก็จะมีเพื่อนช่วยกันตกแต่ง ตอนแรกก็จะถามเพื่อน ถ้าลูกค้าสังเกตมาร้านนี้ตั้งแต่แรกร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ โต๊ะเก้าอี้ พวกนี้ก็จะทำเองหมด ตัดเหล็กเอง เก้าอี้ก็ตัดไม้เอง ทำเองหมดทุกอย่าง ตอนแรกจะไปจ้างเค้าทำก็จะใช้เงินเยอะ เงินทุนเราก็ไม่ได้มีเยอะ จึงตัดสินใจทำเอง ทำตามที่เราชอบ และหวังว่าลูกค้าจะชอบ แนวคิดในการเปิดร้าน คือ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงอยากมีร้านกาแฟซักร้านหนึ่งที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าเค้าต้องการกินแบบไหน ทางร้านจึงมีเมล็ดกาแฟให้เลือกถึง3แบบ คั่วอ่อน คั่วกลางและคั่วเข้ม ผมจะเน้นย้ำกับพนักงานมากจะต้องถามลูกค้าว่าจะชอบหวานน้อย หรือหวานปกติ หรือหวานมาก เพราะโดยปกติเราเข้าร้านอื่น เราจะไม่มีโอกาสเลือก เราก็จะได้กาแฟที่เจ้าของร้านเลือก แต่ร้านเราจะไม่บังคับลูกค้า เพราะแต่ละคนชอบไม่เเหมือนกัน เราจะมอบสิ่งที่ลูกค้าอยากได้มากกว่า นี่เป็นแนวคิด ส่วนตัวเป็นคนชอบกาแฟคั่วอ่อน เวลาเปิดร้านกาแฟจึงต้องมีกาแฟคั่วอ่อน จะไปบังคับให้ทุกคนมาชอบคั่วอ่อนเหมือนเราก็ไม่ได้ จึงต้องมีให้ครบทุกแบบ ร้านนี้ที่อยากทำก็อยากให้เป็นที่ที่เราไปทำงานเหนื่อย ๆ มาแล้วพลังงานเราใกล้หมด ถ้าได้เข้ามาในร้านแอร์เย็น มีที่นั่งสบาย ๆ ก็อยากให้ร้านนี้เป็นเหมือนที่ชาจแบต แม้กระทั่งตัวผมเองเวลาเหนื่อย ๆ ก็จะมานั่งดื่มกาแฟซักแก้วหนึ่ง เติมความสดชื่นให้ตัวเองได้จึงอยากจะเติมพลังให้คนอื่นบ้าง เหมือนเวลาเราไปนั่งร้านกาแฟ นิ่ง ๆ ไม่ต้องคิดอะไร แบตเราก็จะเหมือนได้ชาจ พลังก็จะกลับมา ที่คิดทำร้านนี้ก็เพราะในเมืองนี้ยังไม่มีร้านลักษณะแบบนี้เมนูแนะนำ คือ กาแฟมิตรไมตรี จะเป็นกาแฟเย็น เข้ม หวาน มัน ตามสไตล์คนไทยชอบ อีกตัวหนึ่งคือลาเต้ร้อน เหมาะสำหรับตอนเช้า มาดื่มลาเต้ร้อน มานั่งดูต้นไม้ ดูท้องฟ้า แม่น้ำ ประมาณนี้ครับ เพราะกาแฟที่ร้านผมจะคัดเมล็ดเอง ให้เหมาะสมกับร้าน กับราคาด้วยครับ ช่วงแรก ๆ ที่เปิด น้อง ๆ พนักงานทุกคนใหม่หมด ไม่มีประสบการณ์ทางด้านกาแฟ บางคนอาจจะผ่านมาแค่ผิวเผินแต่ก็ไม่เคยชงจริงจัง และเมนูในร้านมีเยอะมาก แต่ละเมนูตอนแรก ๆ ยังจำไม่ได้ ก็จะช้ามากในการทำกาแฟแต่ละแก้ว ลูกค้าอาจจะได้ผิด ๆ ถูก ๆ บ้าง ในตอนแรกลูกค้าก็ยังไม่เข้าใจกับระบบของการสั่ง วิธีรับกาแฟ ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงจะดีขึ้น โดยใช้ระบบคิวเข้ามาช่วยจัดการเรื่องรับออเดอร์ออกออเดอร์ ก็ช่วยลดความผิดพลาดไปได้ทำไมถึงกล้าลงทุน ในเมืองเล็ก ๆ ที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ที่กล้าลงทุนเพราะอาศัยอยู่เมืองนี้ อย่างไรก็จะปักหลักอยู่ที่นี่ถึงกล้าลงทุน ก็ใช้เงินลงทุนแบบประหยัดที่สุด ทุกอย่างทำเองหมดเราไม่ได้จ้างช่าง และเมืองนี้ก็ยังมักศักยภาพในแบบที่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็น แต่ผมอยู่ที่นี่ ผมคิดว่ามันไปได้ครับ รู้ว่าลูกค้ามีความต้องการอย่างไร จึงมีความมั่นใจในการลงทุนครับวิธีที่ให้ลูกค้ารู้สึกชอบและกลับมาซื้อซ้ำอันนี้เป็นหัวใจของร้านเลย ถ้ากาแฟไม่อร่อยก็ไม่ได้ หนึ่งคือรสชาตต้องดี รักษาคุณภาพให้ได้ถ้ากาแฟไม่อร่อยลูกค้าก็ไม่กลับมา เราจะฟังลูกค้าเยอะ จะบอกพนักงานให้ถามลูกค้าตลอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้อร่อยไหม ต้องถามให้ได้ว่าลูกค้าคนนี้กินอะไร ชอบอะไร ลูกค้าจอดรถพนักงานจะต้องรู้ว่าคนนี้กินอะไร ทำไว้รอเลย มีถึงว่ากาแฟและบริการต้องเสมอกัน บอกพนักงานเสมอว่าที่นี่คือที่เติมพลัง ไม่ว่าลูกค้าจะเจออะไรร้ายมา พอเข้ามาถึงในร้าน ขอให้เขาเป็นคนพิเศษที่สุด พูดจากับลูกค้าต้องเพราะที่สุด ต้องใส่ใจ ลูกค้ากินหวานมากหรือหวานน้อย ต้องจำให้ได้ อันนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับในการมัดใจลูกค้าความยากของการทำธุรกิจร้านกาแฟคือและทำยังไงถึงจะก้าวข้ามความยาก คือ คู่แข่งครับ ในธุรกิจกาแฟ การแข่งขันค่อนข้างสูง ความยากก็จะเป็นการรักษาฐานลูกค้า ให้อยู่กับเรา ทุกวันนี้ลูกค้าเราก็มีปริมาณหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมจะพยายามหาเมนูใหม่ ๆ มาตลอด ปรับปรุงสูตร หาอะไรมาให้กับลูกค้าอยู่ตลอด ในช่วงเทศกาลปีใหม่เราก็จะมีโปรโมชั่นมีของแจก วาเลนไทน์ก็แจกครับ ณ ตอนนี้ผมคิดว่าประสบผลสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอยากพัฒนาให้ดีขึ้นอีก มีแผนที่จะขยับขยายร้านอีก เพราะตอนนี้ปัญหาหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของความคับแคบ ถ้าลูกค้าเยอะ อาจจะต้องปรับร้านใหม่ ย้านเค้าเตอร์เพื่อที่จะเปิดทางขึ้นชั้นสอง น่าจะใช้เวลาซักพักครับ เพราะถ้าทำอาจจะต้องปิดร้าน ต้องใช้เวลาตัดสินใจส่วนตัวก็อยากจะฝากว่า สำหรับคนที่อยากจะเข้ามาทำธุรกิจกาแฟ ให้ศึกษาหาข้อมูลให้เยอะ เพราะธุรกิจร้านกาแฟก็เป็นธุรกิจปราบเซียนเหมือนกันนะ มีหลายร้านที่เกิดขึ้นและหายไป ร้านที่อยู่ได้คือร้านที่ต้องอาศัยความอดทน ความเอาใจใส่มาก ๆ และขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะเปิดร้านใหม่ครับ พิกัดร้าน 120 ม.12 ถ.แหล่งพานิช ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิด 08.00 - 16.00 น. (เปิดทุกวัน)