เราเดินทางมาถึง “ถ้ำปลา จ.แม่ฮ่องสอน” อย่างทุลักทุเล คำนี้ใช้กับเราคนเดียว เพราะเมารถตลอดทาง กว่าจะยิ้มได้ก็ต้องเอาของเก่าออกไปก่อน นั่งกินของเปรี้ยวอยู่พักใหญ่ ตามด้วยกาแฟดำ 1 แก้ว จึงพอจะเอาตัวรอดเดินไปเที่ยวกับเพื่อนต่อได้ เราเดินทางในเส้นทางหลักของ จ.แม่ฮ่องสอน โดยใช้ถนนหมายเลข 1095 โดยมีจุดเริ่มต้นที่ “หมู่บ้านรักไทย” การเดินทางไม่ยาก แต่ขับรถยากพอควร เพราะก่อนถึงถนนสายหลัก ต้องค่อย ๆ ขับรถลงมาจากภูเขาสูง จากนั้นก็มาเจอกับโค้งแล้วโค้งอีกนับไม่ถ้วน นี่ล่ะ!! ที่มาของคำว่า “ทุลักทุเล” เพื่อนเราเป็นคนจัดการค่าเข้าอุทยาน เห็นว่าคนละ 20 บาท เพราะเรารีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำอีกทางก่อน จากนั้นก็วิ่งตามไปสมทบที่ร้านกาแฟ แต่ต้องนั่งพักครู่หนึ่ง อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนต้น ... ไม่ช้า ไม่นาน ก็ลุยกันต่อ เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงจนเกินไป เดี๋ยวเพื่อนไม่สนุก... ช่วงเวลาต้นฤดูหนาว อากาศเย็นสบายดีมาก และยังส่งผลให้ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีไปด้วย ทำให้บรรยากาศภายในอุทยานสดชื่นเป็นพิเศษ ระหว่างทางที่เดินเข้ามาไม่มีอะไรมาก ผ่านสะพาน 1 จุด จากนั้นก็เป็นทางเดิน 1 เส้นยาว ๆ ซึ่งจะมีลำน้ำเล็ก ๆ ไหลผ่านเป็นระยะ และปลาก็จะมีแทบทุกจุด แต่จุดที่มีปลาเยอะ ๆ คือด้านใน .. ไปค่ะ ไปกันต่อเลย ก่อนจะถึงจุดที่มีปลาเยอะ ๆ จะมีกระท่อมหลังเล็ก ๆ ปลูกสร้างไม่ห่างกันมากเรียงรายอยู่ 3-5 หลัง โดยชาวบ้านจะมานั่งขายอาหารปลากัน ซึ่งเป็นอาหารแบบธรรมชาติรวมอยู่ด้วย เช่น อาหารเม็ด เศษผักและผลไม้ รวมถึงใบไม้ด้วย ในราคา 20 บาท / 1 ตะกร้าเล็ก พวกเราซื้อกันคนละ 1 ตะกร้า ถือว่าเป็นการอุดหนุนชาวบ้านไปในตัว พ้นโค้งจากกระท่อมขายอาหารมานิดเดียว ก็จะถึงจุดที่ปลามารวมกันเยอะ ๆ แต่เสียดายที่ภาพตรงจุดนี้ เราลืมปรับกล้อง ทำให้ภาพทั้งมืดและมัวอย่างหนัก เพราะเป็นจุดที่อับแสงพอสมควร จึงได้ภาพมา 1 ใบที่พอจะดูได้ และจุดนี้ต้องสลับกันเข้าไปชมและให้อาหาร เพราะพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ เพื่อนเราเห็นคนเยอะ ก็เลยส่งอาหารให้เราโยนให้ปลาแทน ซึ่งจริง ๆ แล้ว เอาไปให้ปลาที่บ่อข้างนอกได้ด้วยนะ คือไม่ต้องแย่งกันให้ตรงนี้ที่เดียวก็ได้ บ่อข้างนอกที่พูดถึง ก็คือส่วนนี้นี่เอง!! จะมีปลามารอรับอาหารของนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน อ้อ!! ชื่อของปลาก็คือ “ปลาพลวง” เค้าจะอาศัยในลำธารของป่าธรรมชาติในลักษณะนี้เป็นหลัก ซึ่งเราเห็นที่น้ำตกแจ้ซ้อนลำปางเป็นประจำ ส่วนใต้ร่มไม้ใหญ่นี้ จะมีประวัติของปลาพลวงเขียนเอาให้ศึกษาด้วย ไฮไลท์ของ “ถ้าปลา” ได้ผ่านไปแล้ว เพื่อนเราก็พากันเดินกลับในเส้นทางเดิม ส่วนเราใช้เส้นทางเดินป่า ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม โดยมีลำน้ำเล็ก ๆ กั้นเอาไว้ สองสาวกับหนึ่งหนุ่มแวะเล่นกับสุนัขไปตามระเบียบ แต่เจ้า 2 ตัวนี้เชื่องมาก และเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ไม่ได้อันตรายใด ๆ ส่วนในภาพนี้ คือเส้นทางเดินป่า เพื่อนเราแอบเก็บภาพเอาไว้ให้ ไม่ได้ลึกลับใด ๆ ทางอุทยานได้ทำทางเดินคอนกรีตเอาไว้ให้อย่างดี ส่วนด้านหลังของเรา จะเป็นป่ากลางทึบกลางโปร่ง ที่มีต้นไม้สูงใหญ่ให้ความชุ่มชื่นกับสถานที่ ไกลสายตาออกไปในภาพ จะเป็นหินผาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เกาะคลุมเอาไว้ แต่ยังพอเห็นผิวหินผาได้ไม่ยาก เดินมาจนสุดทาง และมองย้อนกลับไป เส้นทางจะเป็นลักษณะดังในภาพ หากสนใจเดินป่า ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานให้นำทางได้ ไม่ควรพากันเดินไปเองเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เส้นทางเดินป่านี้ จะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเป็นอย่างน้อย ในระยะทาง 1,000 เมตร กับ 8 สถานี ซึ่งเราสนใจอยู่แล้ว แต่คงไม่มีโอกาส เพราะไม่ได้เผื่อเวลาเอาไว้มากขนาดนั้น จึงได้แต่เก็บภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก “ถ้ำปลา” เป็นส่วนหนึ่งของ “อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ” ซึ่งน้ำตกจะอยู่ด้านในอีกที แต่ด้วยความที่ปลายทางของพวกเราคือ อ.ปาย และในเวลานี้ก็ประมาณ 4 โมงเย็นแล้ว พวกเราจึงต้องเลือกเที่ยวกันเป็นจุด ๆ ไปเท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย เมืองสามหมอก จ.แม่ฮ่องสอน ในเส้นทางนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเยอะมาก แต่เราไม่กล้าพอที่จะมาเที่ยวคนเดียวแน่นอน เพราะเป็นป่าเขาลำเนาไพร ซึ่งไม่เหมาะกับผู้หญิงตัวคนเดียว แต่หากมากันเป็นทีม แลดูจะเหมาะเป็นอย่างมาก ดังนั้นสายชิว สายธรรมชาติ ต้องหาเวลามาเที่ยวกันให้ได้นะ ที่สำคัญ!! หาวิธีแก้เมารถกันมาด้วยเด้อ ... จะได้แอ่วกั๋นม่วน ๆ ... (จะได้เที่ยวกันให้สนุกไปเลย) เที่ยวแม่ฮ่องสอนกันต่อเลย คลิก!! - บ้านนี้มีรัก เที่ยวหมู่บ้านรักไทย ณ แม่ฮ่องสอน - “รัก ณ เมืองปาย” ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม - เที่ยวให้ใจบาง แต่ไม่อ้างว้าง ที่ปางอุ๋ง