เรื่องและภาพ : ชานาพิ้งเมื่อเราพูดถึงบทบาทของกองทัพญี่ปุ่น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ภาพที่หลายคนมักจะนึกถึง คงจะเป็นเรื่องของความทารุณโหดร้ายต่อเชลย ในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะ ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่น่าหดหู่ในช่วงนั้นแต่แน่นอนว่าประวัติศาสตร์ย่อมมีหลายมุมมอง หลายเหตุการณ์เสมอ ยังมีเรื่องราวของกองทัพญี่ปุ่นในไทยอีกที่หนึ่งที่ได้ถูกบันทึกไว้ ไม่ใช่เรื่องราวของความโหดร้าย แต่เป็นเรื่องราวของมิตรภาพ และความผูกพันธ์กันอย่างแนบแน่นพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานไทย-ญี่ปุ่นหรือ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ขุนยวม ตั้งอยู่ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงเรื่องราวมิตรภาพระหว่างชาวไทใหญ่ในอำเภอขุนยวม และทหารญี่ปุ่นไว้อย่างน่าสนใจเมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาเกิดขึ้น ญี่ปุ่นต้องการใช้ไทยเป็นฐานทัพและเส้นทางในการส่งกำลังไปยังพม่า ซึ่งอำเภอขุนยวมก็เป็นหนึ่งในเส้นทางนั้น อำเภอขุนยวมเป็นเหมือนฐานของเสบียง และสถานพยาบาลของกองทัพญี่ปุ่น หลายคราที่กองทัพญี่ปุ่นได้ปราชัยกลับมาก็จำเป็นต้องกลับมาตั้งหลักที่ขุนยวมเสียทุกครั้งไป และด้วยน้ำใจของชาวไทใหญ่ในขุนยวม ก็ได้ให้การพักฟื้นเปลี่ยนวัดเป็นโรงหมอ ช่วยหาเสบียงอาหารมาแลกเปลี่ยน ชาวขุนยวมได้ของใช้ที่ทันสมัยจากกองทัพ กองทัพได้พึ่งพาอาหารจากชุมชน ชาวขุนยวมมีรายได้จากทหารญี่ปุ่น น้ำใจที่แลกเปลี่ยนกันนี้ก่อให้เกิดมิตรภาพระหว่างสองแผ่นดินที่แน่นแฟ้นหลังจากสงครามโลกจบลง กองทัพญี่ปุ่นในฐานะผู้แพ้สงครามต้องถอนกำลังออกจากประเทศไทย สิ่งที่พวกเขาทิ้งไว้ให้กับชาวขุนยวม จึงเป็นข้าวของเครื่องใช้ของทหารญี่ปุ่นจำนวนมาก และที่สำคัญที่สุดคือความสัมพันธ์ที่ประเมินค่าไม่ได้พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานไทย-ญี่ปุ่น ในที่ตั้งเดิมว่ากันว่าเป็นจุดที่ใช้ฝังร่างของทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงคราม (พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดมวยต่อ ซึ่งญี่ปุ่นใช้เป็นโรงหมอในอดีต) ต่อมาได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของทหารญี่ปุ่น ที่ชาวขุนยวมได้นำมาบริจาคไว้ให้ศึกษานอกจากนี้ยังจัดแสดงถึงวิธีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่ซึ่งเป็นประชากรหลักในอำเภอขุนยวมเอาไว้หลังจากเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนได้เรียนรู้คือ ความจริงอย่างที่เคยมีคนกล่าวว่า ประวัติศาสตร์จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่า คนที่เขียนประวัติศาสตร์อยากส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้ฟังในรูปแบบไหน เมื่อเราพูดถึงทหารญี่ปุ่นในสงครามโลก เราก็มักจะเจอเรื่องราวของความโหดร้าย ทั้งที่ในความเป็นจริงก็มีอีกมุมหนึ่งที่แสดงถึงความพึ่งพาผูกพันธ์กันระหว่างชาวไท และทหารญี่ปุ่นในแง่ดี แต่กลับเป็นมุมมองที่ไม่โด่งดังเหมือนเรื่องแรก ในการศึกษาประวัติศาสตร์จำเป็นต้องศึกษาในหลายช่องทางจุดที่น่าสนใจในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ การบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไปจากที่เคยเรียนรู้ ข้าวของที่จัดแสดงก็เป็นของจริง บนพื้นที่จริง อีกทั้งยังมีลูกหลานชาวไทใหญ่มาเล่าให้ฟังด้วยตัวเอง ทำให้เห็นภาพมากขึ้นสำหรับใครอยากเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ก็สามารถมาได้ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. สำหรับค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าเช่นนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ได้เก็บค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 10 บาทเท่านั้น แวะมาขุนยวม นอกจากทุ่งดอกบัวตองแล้วก็มาได้ที่นี่ สอบถามเพิ่มเติม 053 691 117