“ผิวสวยด้วยสมุนไพรอาบผิวฉบับสาวชาวกะเหรี่ยงแดง” คนกะเหรี่ยงแดงวัยสาว ๆ มักรักสวยรักงามกันเป็นอย่างมาก และพวกเธอก็ดูแลผิวพรรณอยู่ตลอด แม้อายุมากแต่ผิวพรรณของพวกเธอนั้นจะยังดูอ่อนเยาว์อยู่เลย ผู้เขียนเองก็เป็นสาวชาวกะเหรี่ยงแดงคนหนึ่งที่รักสวยรักงามเช่นกันจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์การดูแลผิวกายด้วยการต้มสมุนไพรอาบเพื่อทำให้ผิวดูเนียนอ่อนเยาว์เปล่งปลั่งสไตส์สาวกะเหรี่ยงแดงกันค่ะ (ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าสมุนไพรบางตัวอาจหายากสักนิดเพราะต้องใช้เวลาในการเข้าไปหาในป่า หรือบนดอย จากต้นฉบับแท้ ๆ ) สมุนไพรที่เราจะนำมาใช้ต้มอาบดูแลผิวพรรณของเรานี้ก็จะคล้าย ๆ กับสมุนไพรที่คุณแม่หลังคลอดลูกใช้ต้มอาบกันค่ะ หรือใช้ในการอบผิวได้ด้วย สมุนไพรหลัก ๆ ก็จะมีใบหนาด,ใบเปล้า,ขมิ้นชัน,ว่านไพล,ว่านไพลใจดำ,ว่านหอม, แหน่งหอม,ใบส้มป่อย,ใบมะขามป้อม,ใบส้มลม,ใบส้มกบ,เปลือกดู่,เปลือกแดง และสมุนไพรอีกตัวของชาวกะเหรี่ยงแดงก็คือ “เสาะพะ”แปลว่า เปลือกไม้ของกะเหรี่ยงแดง และ “เสาะเหละ“ แปลว่า ใบไม้ที่เป็นสมุนไพรค่ะ (หาได้เฉพาะในป่าเท่านั้น) จะใส่ในสมุนไพรที่เราจะต้มหรือไม่ก็ได้เพราะค่อนข้างหาได้ยาก นำเอาสมุนไพรทุกอย่างที่กล่าวมา มาต้มในหม้อที่พอดี เราจะได้น้ำสมุนไพรมา 1 หม้อ กรองเอาแต่น้ำ แนะนำให้อาบในห้องน้ำนะคะ อาบให้ทั่วตัว อาบในขณะที่น้ำสมุนไพรของเรายังอุ่น ๆ เพื่อให้รูขุมขนของผิวเราจะได้เปิด สมุนไพรของเราก็จะแทรกซึมเข้าไปดูแลผิวได้อย่างเต็มที่ ส่วนสมุนไพรหลัก ๆ ที่ทำให้ผิวเราดูเปล่งปลั่งได้ เด่น ๆ เลย คือ “ขมิ้นชัน“ สมุนไพรสารพัดประโยชน์ที่โดดเด่นในด้านคุณสมบัติทางความงาม เมื่อใช้ในการดูแลผิวนำมาต้มอาบ ขมิ้นชันก็จะกลายเป็นสมุนชั้นเยี่ยมของสาว ๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสาวชนเผ่าใดก็ใช้ขมิ้นชันนี่แหละค่ะช่วยในการขัดผิว ดูแลผิวในวิธีการต่าง ๆ เพราะช่วยให้ผิวกลับมานวลเนียนใสกระจ่าง และเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ขมิ้นชันยังมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย อีกทั้งยังสามารถลดการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ วิธีดูแลผิวพรรณด้วยสมุนไพรของสาวชาวกะเหรี่ยงแดงของเรา ดูแปลกใหม่จากการดูแลผิวแบบสาวในเมืองกันหรือไม่ค่ะ แม้แตกต่างสักนิดแต่บอกได้เลยค่ะว่าสูตรนี้ใช้อาบผิวแล้วดีมาก เพียงอาบอาทิตย์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอค่ะ ทุกภาพถ่ายโดย ผู้เขียน