ปอยส่างลอง..งานบุญพี่น้องไต ในภาคเหนือของประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์สูง มีชนเผ่าต่าง ๆ อาศัยอยู่รวมกันหลายชนเผ่า โดยเฉพาะ ชาวไต หรือไทใหญ่ ซึ่งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อยู่รวมกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่หลายแห่ง ทั้งในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ซึ่งจากการอยู่อาศัยรวมกันเป็นชุมชนนี้เอง ทำให้เกิดการจัดประเพณีต่าง ๆ ตามวัฒนธรรมความเชื่อของชาติพันธุ์นั้น ๆ และในหลายพื้นที่ ประเพณีที่จัดขึ้นนั้นแทบจะหล่อหลอมจนกลายเป็นประเพณีท้องถิ่นของคนในพื้นที่ไปด้วย ตัวอย่างเช่น ประเพณีหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นงานบุญสำคัญของพี่น้องไต ที่จะมีการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีคือ ประเพณี "ปอยส่างลอง" ภาพโดย : Kepler-22b ผู้เขียน ปอยส่างลอง เป็นประเพณีการบวชเณรของชาวไทใหญ่ ซึ่งคล้ายกับการบวชลูกแก้วของชาวล้านนา แต่จะมีรายละเอียดของพิธีกรรมที่ต่างกัน "ปอย" หมายถึง งานต่าง ๆ เช่น งานปอยหลวง "ส่าง" มาจากคำว่า "เจ้าส่าง" ที่แปลว่า สามเณร และคำว่า "ลอง" มาจากคำว่า "อลอง" ซึ่งหมายถึง ราชบุตร หรือ หน่อพุทธางกูร (หน่อเนื้อเชื้อไขของพระพุทธเจ้า) งานปอยส่างลองนี้ จัดขึ้นโดยจำลองมาจากพุทธประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในช่วงที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะสมัยก่อนออกผนวช ดังนั้น การแต่งกายของสามเณร จึงเป็นเครื่องแต่งกายที่คล้ายกับกษัตริย์ แต่จะเป็นขุดของกษัตริย์พม่าโบราณ เสื้อมีชายเชิงงอน ปักดิ้นประดับตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาแวววาว นุ่งโจงกระเบน สวมสร้อย แหวน กำไล และสวมชฎายอดแหลม แต่บางคนจะโพกผ้าแพร และตกแต่งด้วยดอกไม้ แต่ที่สำคัญคือ จะมี "จ้อง" หรือ มวยผม ซึ่งจะเป็นผมของญาติพี่น้องผู้หญิงที่จะไว้ผมยาวหลายปี และเมื่อถึงงานบุญปอยส่างลอง จะตัดผมออกมาทำมวยเพื่อไปไว้บนเครื่องโพกหัวของส่างลองเพื่อเป็นการขอร่วมรับบุญกุศลในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นบุญใหญ่ ภาพโดย : Kepler-22b ผู้เขียน การจัดงานปอยส่างลอง จะอยู่ที่ระยะเวลาประมาณ 3 วัน หรือมากกว่านั้น แล้วแต่เจ้าภาพกำหนด แต่หลัก ๆ จะมีพิธีการสำคัญในสามวันแรก วันแรก เรียกว่า "วันรับส่างลอง" หรือ "วันฮับส่างลอง" ซึ่งเป็นวันรับส่าง จะมีพิธีโกนผมในช่วงเย็น และรุ่งเช้า จะเป็นพิธีการอาบน้ำเงิน อาบน้ำทอง และแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด ส่างลองจะขี่คอ "ตะแป" หรือพี่เลี้ยงของส่างลอง เพื่อเข้าขบวนแห่ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลหลักเมือง พระผู้ใหญ่ในเมือง และไปขอขมาญาติพี่น้องตามบ้าน รวมทั้งมีการผูกข้อมือสู่ขวัญให้ส่างลอง โดยในขบวน จะมีวงดนตรีนำ และผู้คนมาร่วมฟ้อนกันอย่างสนุกสนาน ภาพโดย : Kepler-22b ผู้เขียน วันที่สอง เป็น "วันรับแขก" หรือ "วันข่ามแขก" เป็นขบวนแห่เครื่องไทยธรรมและอัฐบริขาร โดยญาติพี่น้องและผู้มีจิตศรัทธาจะเข้าร่วมขบวน ถือเครื่องไทยธรรมนำขบวนส่างลองไปรอบ ๆ วัด โดยส่างลองจะต้องอยู่บนคอของตะแปเท่านั้น ห้ามมิให้เท้าเหยียบดินเป็นอันขาด แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ และจะต้องมี "ทีคำ" หรือร่มทองคำกางกันแดดให้ตลอดเวลา ภาพโดย : Kepler-22b ผู้เขียน หลังจากเสร็จสิ้นขบวนแห่ จะมีพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญส่างลองในช่วงเย็น และมีการเลี้ยงอาหารส่างลอง 12 อย่าง เรียกว่า "กินผัก 12 หมี่" โดยพ่อแม่จะต้องเป็นคนป้อนให้ก่อน และในวันที่สาม จะเป็น "วันหลู่" หรือ "วันข่ามส่าง" คือ วันที่จะทำการบรรพชาสามเณรนั่นเอง ภาพโดย : Kepler-22b ผู้เขียน งานปอยส่างลองนี้ เป็นงานบุญที่ครอบครัวชาวไทใหญ่ให้ความสำคัญมาก พ่อแม่ที่มีบุตรชาย จะเตรียมตัวเก็บเงินไว้เพื่อเตรียมจัดงานบุญครั้งใหญ่นี้ โดยจะให้ลูกชายเข้าพิธีบรรพชาตั้งแต่อายุประมาณ 7 ปีขึ้นไป และมีการเตรียมงานกันอย่างใหญ่โต มีการจัดซุ้มส่างลองตกแต่งกันอย่างสวยงาม มีการทำอาหารแจกจ่ายให้ญาติพี่น้องและแขกผู้มาร่วมงานได้กินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีเงินพอ ก็จะมีการเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธามาร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ในการบวช เรียกว่า "พ่อข่าม" หรือ "แม่ข่าม" ซึ่งถือว่าจะได้บุญใหญ่ด้วยเช่นกัน ภาพโดย : Kepler-22b ผู้เขียน ท่านใดที่ต้องการร่วมพิธีบรรพชาสามเณร ที่นอกจากจะได้ร่วมทำบุญแล้ว ยังจะได้ชมทั้งประเพณีดั้งเดิมของชาวไทใหญ่ ชุดแต่งกายอันงดงามของพี่น้องไต และวัฒนธรรมอาหารการกินที่หลากหลาย รวมทั้งได้ถ่ายภาพขบวนแห่ที่สวยงาม มีสีสันสดใส สามารถเข้าร่วมงานได้ในช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน ณ วัดต่าง ๆ ในเมืองเชียงใหม่ เช่น วัดกู่เต้า วัดป่าเป้า หรือ วัดผาบ่อง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสามารถสอบถามกำหนดการจัดงานได้กับทางวัด หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในแต่ละจังหวัด เรื่องและภาพ โดย Kepler-22b ผู้เขียน