จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย มีประชากรอาศัยอยู่เบาบางที่สุด มีความหลากหลายทางกลุ่มชาติติพันธ์วัฒนธรรมประเพณี แม้จะเป็นจังหวัดที่ได้รับการสถาปนามาเพียงร้อยกว่าปี แต่ก็มีประวัติศาสตร์ตำนานเมืองที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “ชื่อของจังหวัด”ชื่อของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นมีความหมายว่า “แม่น้ำที่ใช้ฝึกหรือสอน” โดยคำว่า แม่ ในภาษาท้องถิ่นล้านนา หมายถึงแม่น้ำ ฮ่อง หรือ ร่อง หมายถึงทางไหลของน้ำ ส่วนคำว่าสอนในบริบทนี้หมายถึงสถานที่ฝึกสอนช้าง ชื่อแห่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนนี้ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่สมัยครั้งเจ้าพุทธวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ มีพระประสงค์ที่จะนำช้างป่าเข้ามาฝึกเพื่อเป็นช้างศึกหรือช้างใช้งานในอาณาจักรของพระองค์ จึงรับสั่งให้เจ้าแก้วเมืองมา ออกเดินทางค้นหาช้างป่าที่มีคุณลักษณะพอกับการใช้งาน ซึ่งในอดีตบริเวณแม่ฮ่องสอนนี้ เป็นแหล่งอาศัยของช้างป่าจำนวนมาก ด้วยเป็นพื้นที่ราบลุ่มมีแหล่งน้ำและอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้สามารถคล้องจับช้างได้เป็นจำนวนมาก เมื่อจับช้างได้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว การจะนำช้างป่ากลับไปที่เมืองเชียงใหม่เป็นระยะทางที่ไกลมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกหัดช้างให้คุ้นชินกับการใช้งานก่อน เจ้าแก้วเมืองมาจึงมีดำริให้หาพื้นที่ที่เหมาะสมในการฝึกสอนช้าง ซึ่งพื้นที่ที่เหมาะสมนั้นจำเป็นจะต้องมีน้ำไหลผ่าน มีที่ราบลุ่มและต้นไม้ไม่ขึ้นหนาทึบมากนัก เมื่อได้พื้นที่แล้วก็ทำการลงหลักปักเสาเพื่อเป็นคอกฝึกช้าง ซึ่งการฝึกช้างนี้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 8 เดือน ผู้คนท้องถิ่นซึ่งเดิมเป็นชาวไทใหญ่และชาวกะเหรี่ยง ที่อยู่บริเวณนั้นจึงเรียกเอามงคลนามแห่งลำน้ำนี้ว่าน้ำแม่ฮ่องสอนสืบมาจนลุสมัยพระเจ้ามโหตรประเทศขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ บริเวณที่ราบลุ่มแม่ฮ่องสอนนี้ ได้มีกลุ่มชาวไทใหญ่อพยพเข้ามาจากรัฐฉาน มาลงหลักปักฐานอยู่บริเวณนี้ มีชายชาวไทใหญ่นามว่าชานกะเลซึ่งต่อมาชานทะเลผู้นี้กลายเป็นเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนามว่า “พญาสิงหนาท” ต่อมาเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้สถาปนาเมืองแม่ฮ่องสอนขึ้นเป็นจังหวัด ก็ถือเอามงคลนามของแม่น้ำแม่ฮ่องสอนนี้มาเป็นชื่อ ในสมัยที่มีการชักลากไม้สัก แม่น้ำแม่ร่องสอนก็เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ใช้ชักลากไม้ลงไปสู่แม่น้ำปาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แม่น้ำแม่ร่องสอนก็เป็นสถานที่ตั้งค่ายของทหารญี่ปุ่น ที่มาพำนักอยู่ ณ บริเวณนี้ ในปัจจุบันแม่น้ำสายนี้ก็เป็นสายน้ำที่สำคัญกับการเกษตรและระบบนิเวศเป็นอย่างมากแม่น้ำแม่ร่องสอนแม้จะเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ตะกอนแห่งกาลเวลาได้หลายฝังกลบเรื่องราวต่าง ๆ เอาไว้ จนทำให้ไม่สามารถมองเห็นร่องรอยในอดีตได้ แม่น้ำแม่ฮ่องสอนยังไหลไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับประวัติศาสตร์แห่งเมืองแม่ฮ่องสอนที่กำลังดำเนินไปอย่างเติบโตแตกต่าง และไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกันทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียนอ้างอิงตำนาน ประวัติความเป็นมาจากหนังสือวัดพระนอนและเมืองแม่ฮ่องสอน