การปฏิบัติตัวให้สงบ ทำใจให้นิ่ง จะช่วยให้เราอยู่รอด แม้ในสถานการณ์อันเลวร้าย เราก็จะผ่านมาได้ ดังคำว่า ความสงบสยบความเคลื่อนไหว เป็นการทำใจเราให้รู้สึกสงบ นิ่ง แม้อยู่ในเหตุการณ์หรือสถานที่ที่มีเรื่องราววุ่นวาย การไม่ร้อนรุ่มไปกับสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเรา ผลของการสงบนิ่งจะทำให้เรามีสติ มีเวลาพิจารณาและตัดสินใจต่อเหตุการณ์และสิ่งวุ่นวายได้ดี คนที่นิ่งได้ สงบเป็น มักจะเป็นผู้ชนะเสมอ ในทางการแพทย์ก็เช่นกัน คนไข้ที่ใช้ความนิ่งสงบอย่างมีสติ จะเกิดอานุภาพในการบำบัดเยียวยารักษาโรค หรืออาการเจ็บป่วยได้มาก เพราะการนิ่งสงบนั้นมีผลต่อความดันโลหิต และการเต้นของหัวใจ ทำให้ร่างกายเกิดการฟื้นตัว ฟื้นฟูจากอุบัติของโรคที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างที่เราเห็นและสังเกตได้เลยว่าความนิ่งสงบนั้นทำให้เราจากโรคได้ไวกว่า คือ เมื่อเราเป็นไข้หวัด เมื่อเรากินยาไปแล้วก็ทำงานตามปกติ อาการไข้จะอยู่กับเรานานหลายวัน แต่เมื่อใดที่เรากินยาแล้วนอนพักเยอะ ๆ ไม่กี่วันเราก็หายเป็นปกติแล้ว เปรียบเทียบง่าย ๆ หากเราเกิดเหตุเท้าพลิกแพลง เรารั้นที่เดินต่อไป มีแต่อาการจะยิ่งทรุด แต่ถ้าเราใช้เวลาหยุดพักรักษาเราจะเดินได้ปกติหรือดีกว่าเดิมที่เป็นอยู่ ภาพจาก unsplash หลักการนี้ สามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้ในสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้ โดย พยายามอยู่ในบ้านหรือที่พักอาศัย ไม่ออกนอกสถานที่โดยไม่มีเหตุจำเป็น อันจะเป็นการช่วยลดการติดเชื้อ สกัดกั้นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไม่ให้ระบาดในวงกว้างได้ นิ่งเพื่อให้ไวรัสหยุดการระบาด สงบเพื่อมิให้เป็นภาระของหมอและพยาบาล อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่การดำเนินการของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปได้ความเรียบร้อยและราบรื่น ซึ่งในขณะนี้ก็ได้มีการรณรงค์ในสื่อโซเชียลบ้างแล้ว ภาพจาก pexels ในระหว่างที่เราสงบและนิ่งนั้น ให้เรามีสติ มีความตื่นรู้ในการป้องกัน ตื่นตัวในการรับมือ แต่ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวจนเกินไป ปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันอย่างเคร่งครัด เท่านี้เราก็ห่างไกลจากไวรัสโควิด-19 แล้ว อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้อีกด้วย ดังคำคมที่ว่า นิ่งสงบ...สยบความเคลื่อนไหว ภาพจาก unsplash ภาพปกจาก https://www.pexels.com/