เมื่ออย่างเข้าช่วงปลายปี นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็คงอยากหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว เพราะชาวเมืองกรุงจะนอนรอให้ลมหนาวพัดมาปะทะที่กรุงเทพฯ ก็คงเป็นไปได้อยาก เพราะฉะนั้นภาคเหนือจึงเป็นเป้าหมายหลักของเราในทริปนี้ แต่ครั้นจะไปเชียงใหม่ก็เกรงว่าจะได้ปะทะผู้คนมหาศาลแทนลมหนาวเป็นแน่แท้ จึงลองเสริชหาแหล่งท่องเที่ยวที่คนน้อยๆ และก็ได้สะดุดตากับดอยแห่งหนึ่งที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวได้ไม่นาน นั่นคือ “ดอยพุยโค” นั่นเอง ดอยพุยโค ตั้งอยู่ในตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน การเดินทางครั้งนี้ของกลุ่มเราคือขับรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพตรงมายังอำเภอสบเมยจะค่อนข้างใช้เวลานาน แต่อีกวิธีที่สะดวกก็คือนั่งเครื่องบินมาลงที่เชียงใหม่แล้วเช่ารถขับต่อมายังอำเภอสบเมยจะประหยัดเวลาได้มากกว่า การเดินทางมาเที่ยวดอยพุยโคสามารถกางเต้นท์ค้างคืนบนดอยได้ ข้อดีคือเราสามารถเห็นดาวได้ชัดเจนเพราะด้านบนมืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน แต่ข้อเสียคือบนดอยยังไม่มีร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ห้องน้ำในช่วงหน้าแล้งก็อาจไม่มีน้ำให้ใช้ค่อนข้างลำบาก อีกวิธีคือเดินขึ้นดอยตอนเช้ามืดให้ทันแสงแรกของพระอาทิตย์ โดยทั้ง 2 วิธีนั้น เราต้องหาเรากระบะเหมาของชาวบ้าน หรือสอบถามกับทางรีสอร์ทในอำเภอสบเมย เขาจะมีบริการลูกหาบพร้อมรถกระบะสำหรับพาขึ้นดอย เพราะทางขึ้นดอยเป็นทางลูกรังสลับกับคอนกรีตและค่อนข้างคดเคี้ยวสูงชัน ต้องเป็นรถที่มีกำลังแรงสูงหน่อยถึงจะขึ้นไหว ไม่แนะนำให้ขับรถเล็กขึ้นและคนขับต้องมีความชำนาญทางพอสมควร ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร หลังจากนั้นเราต้องเดินเท้าไต่ระดับความชันไปอีกเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทางเดินจะเป็นขั้นบันไดดินที่กลุ่มชาวบ้านช่วยกันทำไว้ให้ ไม่อันตรายแต่เหนื่อยเอาการ เวลาที่ใช้เดินก็แล้วแต่กำลังของแต่ละคน แต่เดินไม่ถึง 1 ชั่วโมง กลุ่มเราเลือกนอนรีสอร์ทในอำเภอสบเมย ที่พักชื่อ “บ้านพักฮ่อมห้วยฮิมดอย” โดยพี่เจ้าของรีสอร์ทจะพาเราขึ้นดอยในช่วงเช้ามืด ซึ่งแกจะเตรียมเตาแก๊สพกพาไปต้มน้ำร้อนให้เราชงกาแฟหรือต้มบะหมี่บนดอยด้วย วิวด้านบนจะเป็นเนินหญ้าสีทองมีต้นไม้ไม่เยอะ แต่จะมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของดอยพุยโคเลยก็ว่าได้ และได้มีคนให้ชื่อต้นไม้นี้ว่า “ต้นเดียวดาย” วิวทะเลหมอกด้านบนถือว่าสวยงามมาก เพราะเกือบจะเป็นวิวหมอก 360 องศาเลยทีเดียว แถมยังอยู่ให้เราได้ถ่ายรูปจนถึงช่วงสาย 10 โมงหมอกยังไม่หายไปเลย การได้พาตัวเองออกมาเจอวิวแบบนี้ มันรู้สึกดีมากจริงๆ ค่ะ ได้ดื่มกาแฟและทานบะหมี่กับวิวทะเลหมอก ช่างน่าประทับใจคุ้มค่ากับการเดินทางมา...นี่แหละที่เขาเรียกว่าเสน่ห์ของการเดินทาง