จากความฝันวัยเด็ก สู่ความจริงในวันนี้ " ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ " เมื่อฤดูหนาวเข้ามาเยือน พวกเราก็วางแผนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว โดยใช้ช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ ( เสาร์-อาทิตย์ ) ในการวางแผนออกเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากพวกเราทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ จึงไม่สามารถลาหยุดพักผ่อนพร้อมกันได้ แม้ว่าพวกเราจะรักงานที่ทำ แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่รักไม่แพ้กัน นั่นก็คือ " การท่องเที่ยว " และถึงแม้ว่าสถานที่ทำงานของพวกเรา โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ แต่พวกเราก็ยังคงเลือกที่จะท่องเที่ยวสายธรรมชาติอยู่นะ มาดูกันว่าครั้งนี้พวกเราจะเลือกไปเที่ยวที่ไหนกันดีกว่า และในที่สุดพวกเราก็ได้เลือก " จังหวัดแม่ฮ่องสอน " นั่นเอง ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ พวกเราก็ไม่แน่ใจว่าพาร่างกายไปพักผ่อน หรือพาร่างกายไปทรมานกันแน่ เพราะแค่นึกถึงชื่อจังหวัด เพื่อนร่วมเดินทางก็เวียนหัวแล้วจ้า จึงเป็นที่มาของแฮชแท็กประจำทริปนี้ #แค่คิดก็เวียนหัวแล้ว #แค่คิดก็บ้าไปแล้ว #แค่คิดก็ไม่น่าไปรอดแล้ว #แค่คิดแต่ถ้าลองไม่คิดเราก็จะเป็นผู้พิชิต 4,000 กว่าโค้ง โดยเราวางแผนคร่าว ๆ ดังนี้ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 เริ่มออกเดินทางจาก อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เวลา 06.30 น. พวกเราเลือกเดินทางโดยใช้ถนนหมายเลข 107 และ 1095 ใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ระยะทาง 215 กิโลเมตร ( เดินทางโดยรถส่วนตัว ) อย่าถามว่าเวียนหัวไหม เพราะพวกเราเดินทางท่องเที่ยวบ่อย ประเด็นนี้จึงไม่ได้เป็นอุปสรรคแม้แต่น้อย แต่จะมีปัญหาตรงที่ว่าหิวบ่อยมาก ขอแนะนำทุกคนที่เดินทาง หากเจอห้องน้ำที่ไหนขอให้ใช้บริการทุกครั้ง เจอร้านขายอาหารและเครื่องดื่มก็แวะซื้อสักหน่อย จะได้ไม่มีปากเสียงกับเพื่อนร่วมเดินทาง ฮา ๆ เห็นภาพแผนที่นี้แล้ว ทุกคนอาจจะคิดว่าเดินทางชิล ๆ สบาย ๆ แต่หารู้ไม่ว่าโค้งเยอะมาก ( เคล็ดลับของพวกเราที่จะไม่ทำให้รู้สึกเวียนหัว คือ คุยกันตลอดทางไปเลยจ้า แถมเครื่องเสียงในรถของเพื่อนก็ดันมาเสียในเวลานี้ซะด้วยสิ ) ขับรถก็ระมัดระวังกันให้ดีนะจ๊ะ ทางลาดชันบ้าง โค้งหักศอกบ้าง รถวิ่งสวนกันบ้าง แต่ถ้าไม่รีบมากก็ขับรถกินลมชมวิวแบบพวกเราก็ได้นะ ถึงเหมือนกัน ซึ่งตลอดการเดินทางไปยังทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน พวกเราก็เก็บภาพของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางมาให้เพื่อน ๆ ได้รับชมกัน สะพานประวัติศาสตร์ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดเช็คอินยอดฮิตที่พลาดไม่ได้ โป่งน้ำร้อนไทรงาม อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานที่พักผ่อนของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไกลอย่างพวกเรา ที่นี่น้ำใสมาก ใสชนิดที่ว่าสามารถตักน้ำมาดื่มได้เลย ( อย่าดื่มเลยนะ ) เพราะสถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตของอำเภอปายไปซะแล้ว จุดชมวิวกิ่วลม อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นี่ลมพัดค่อนข้างแรงและอากาศก็เย็นสบาย บ้านจ่าโบ่ อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านยอดฮิตของอำเภอปางมะผ้า ช่วงฤดูหนาวที่นี่จะมีหมอกลงเยอะมาก ทำให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับกับทะเลหมอก พร้อมกับจิบชา กาแฟ หรือจะรับประทานก๋วยเตี๋ยว ( ก๋วยเตี่ยวห้อยขา ) ก็ย่อมได้ เมื่ออิ่มแล้วก็เดินทางต่อได้ ซึ่งครั้งนี้พวกเราจะเดินทางระยะไกล ( โดยไม่พัก ) ออกเดินทางจากอำเภอปางมะผ้ามุ่งหน้าไปยังอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง 70 กิโลเมตร โดยประมาณ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสือ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เรามาแวะปั๊มตราประทับของอุทยานแห่งชาติที่นี่ด้วย เพราะเป็นคนชอบเก็บตราประทับของอุทยานที่ได้ไปท่องเที่ยว มันรู้สึกมีคุณค่าทางจิตใจ วัดจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ( สถานที่สุดท้ายของวันนี้ ) แวะพักนอนที่นี่ 1 คืน พวกเรายังโชคดีที่ได้เดินทางมาวันนี้ เพราะทุกเย็นวันเสาร์ของที่นี่ ก็จะมีถนนคนเดินบริเวณหน้าวัดจองคำด้วย เช้าวันที่สอง วันอาทิตย์ ที่ 17 พฤศจิกายน 2562 พวกเราตื่นไปทำบุญตักบาตรที่ "สะพานไม้ซูตองเป้" ชื่อนี้อาจจะเป็นที่คุ้นหูของใครหลาย ๆ คน ซึ่งคำว่า "ซูตองเป้" เป็นภาษาไทยใหญ่แปลว่า "ความสำเร็จ" ทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อย เพราะจะได้เจอเรื่องดี ๆ ตลอดการเดินทาง หลังจากทำบุญตักบาตรเสร็จแล้ว พวกเราก็พากันหาข้าวเช้ารับประทาน หลังจากนั้นก็จะออกเดินทางต่อไปยังทุ่งดอกบัวตอง อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนกันต่อ โดยเราจะเดินทางโดยใช้ถนนหมายเลข 108 ตลอดเส้นทาง ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งDream Come True : ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ความฝันของฉันในวัยเด็ก นั่นก็คือ !! ( อยากวิ่งเล่นเก๋ ๆ ในทุ่งดอกบัวตองที่บานสะพรั่ง ) > เพราะคิดว่า มันคือ พุ่มดอกไม้เล็ก ๆ ที่มีดอกไม้สีเหลือง ๆ อยู่เต็มต้น และมีผีเสื้อหลากสีบินรอบ ๆ ดอกไม้ พร้อมกับมีลมพัดเบา ๆ > อยากยืนร้องเพลงดัง ๆ พร้อมกระโดดโลดเต้นไปมาแบบไม่ต้องอายใคร แต่ที่ไหนได้มีแต่นักท่องเที่ยวแย่งกันถ่ายรูป เพราะชื่นชมความงามของดอกบัวตองนั่นเอง แถมแดดที่นั่นก็โครตจะแรง แต่ยังต้องแพ้ความสว่างไสวของหน้าผากดิฉันจนได้ ( หน้าผากจะใสไปไหนนิ ) ใครที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยงทุ่งดอกบัวตอง แนะนำให้ไปช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปีนะคะ เพราะช่วงนี้ดอกบัวตองบานเต็มที่และบานเต็มม่อนดอย ปกคลุมไปด้วยสีหลืองทอง ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมเยือน นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองบานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีให้ชมเพียงปีละครั้งเท่านั้น ( กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม ของทุกปี ) เพราะถ้าคุณไปเร็วกว่านี้ คุณก็จะเห็นดอกบัวตองไม่มากเท่าไหร่ ( เห็นแต่ใบสีเขียว ) หรือหากเดินทางไปช้ากว่านี้ ก็อาจจะเห็นดอกบัวตองเหี่ยวแห้งได้ และหากใครที่กำลังชั่งใจว่าจะไปหรือไม่ไปดี ทางเราขอบอกว่า " ไปเถอะค่ะ " เพราะเมื่อคุณเดินทางไปถึง “ ดอยแม่อูคอ ” คุณก็จะหายเหนื่อยทันที เพราะมันสวยและคุ้มค่ามากแก่การเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเราก็แทบไม่อยากคิดที่จะเดินทางกลับบ้าน เพราะว่ายังเวียนหัวไม่หาย ของเก่ายังไม่ได้เอาออก หยอก ๆ นะ หากพวกเรามีโอกาส ก็จะเดินทางไปที่นี่อีกรอบแน่นอน เพราะคราวนี้จะต้องได้เดินในทุ่งดอกบัวตองสวย ๆ ให้ได้ และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 430 กิโลเมตร ถอนหายเบา ๆ เหนื่อยตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินทาง แต่ยังไงพวกเราก็ต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่เรารักนะคะ มาเที่ยวได้ก็ต้องกลับไปทำงานได้ ไปค่ะลุยกันเลย ( เดินทางยาวแบบไม่แวะเที่ยวที่ไหนอีกแล้ว ) ปล. หากทุกท่านพ้นหมู่บ้านแห่งนี้ไป ทุกท่านก็จะไม่เห็นหลังคาบ้านไหนอีกเลย ( เห็นแต่ไร่ข้าวโพดแห้ง ๆ กับป่าสนตลอดทาง ) ดังนั้นถ้าหากหิวก็แวะพักรับประทานอาหารสักหน่อยเถอะ หากไม่ค่อยหิวก็หาซื้ออะไรทานรองท้องก่อนก็ได้ เพราะคุณจะคาดไม่ถึงกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในทางข้างหน้าต่อจากนี้ หากน้ำมันรถไม่เต็มถังก็รีบเติมให้เต็มถังซะ ไม่งั้นก็จะได้ลุ้นเหมือนเราตลอดทางลงดอย ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางนะคะ และขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ เครดิตภาพทั้งหมดโดย : Kat Thanatchaporn (นักเขียน)