เชื่อว่าหลายคนคงวางแผนการเดินทางหรือปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวไว้แล้ว โดยหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า- 19 คลี่คลาย ก็จะเริ่มภารกิจคลายเครียดตามกิจกรรมที่ได้วางไว้อย่างแน่นอน ผู้เขียนเองก็วางแผนที่จะเที่ยวป่า ขึ้นภูเขา ดูวิวมุมสูง ชมทะเลหมอกหนา ๆ ในช่วงฤดูหนาวไว้เช่นกัน หนึ่งในนั้น คือ ดอยพุ่ยโค อยู่ที่อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้เคยไปเยือนมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีความทับใจจนต้องหาเวลาไปอีกให้จงได้ ครั้งนั้นที่เรามาอยู่ในช่วงที่สภาพอากาศกำลังหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน เราวางแผนไว้ว่าจะค้างคืนที่อำเภอแม่สะเรียง และขึ้นดอยตอนเช้าเพื่อให้ทันชมทะเลหมอก โดยหาที่พักที่ใกล้ดอยพุ่ยโคที่สุด ซึ่งก็ตัดสินใจพักกันที่บ้านสวนสุขใจ เป็นรีสอร์ทเล็ก ๆ เงียบ สงบ และบรรยากาศน่าอยู่ทีเดียว และอยู่ห่างจากเข้าไปดอยพุ่ยโค 25 กิโลเมตร และคืนนั้นมีปรากฎการณ์ดาวตกที่มาพร้อมฝนเบา ๆ ให้เราตื่นเต้นและชื่นใจในคราวเดียวกัน แหงนหน้ามองฟ้า ฝนตกใส่ตา ท้าท้ายดีแฮะ รุ่งเช้า เวลา 05.30 น. เรารีบบึ่งรถมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปยังดอยพุ่ยโค จากที่พักไปถึงทางเข้า ใช้เวลาประมาณ 20 นาที และจากทางเข้าไปถึงลานจอดรถ เราใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงก็ว่าได้ เนื่องจากมีฝนตกในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้ถนนลื่น และมีหมอกหนา และเราไม่ค่อยคุ้นชินกับเส้นทางด้วย ระหว่างทางเราก็มัวแต่ตื่นเต้นร้องวู้ๆ ว้าว ๆ กับม่านหมอกที่เราขี่ผ่านมา เมื่อเราถึงที่จอดรถ มีรถนักท่องเที่ยวอยู่บ้างแล้ว น่าจะค้างคืนบนดอยกันล่ะ ก่อนขึ้นดอยเราก็ยืดเส้นยืดสายกันก่อน ดูเวลาก็ประมาณแปดโมงกว่า ๆ แล้วเราก็ลุยเลยค่ะ ทางขึ้นจะมีความชันนิดหน่อย ชาวบ้านเค้าได้ทำเป็นขั้นบันไดเล็ก ๆ ไว้แล้ว ช่วงแรกจะเป็นป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น ครึ้ม ๆ อากาศก็จะเย็น ๆ ขึ้นไปสักพัก ขาเราเริ่มสั่น ๆ หอบนิด ๆ เลยต้องได้พักเป็นช่วง ๆ แต่กว่าจะถึงครึ่งทาง เรี่ยวแรงหายเหมือนหมาหงอยเลยค่ะ ฮ่า ๆ แต่ก็ยังมีแรงแวะแชะภาพทะเลหมอกระหว่างทางได้นะคะ แต่พอหันไปเห็นจุดหมายที่อยู่บนดอย ต้นเดียวดายที่รอเราบนนั้นต้นเล็กเท่าหัวไม้ขีดเอง ครั้นจะถอยหลังกลับก็มาไกลแล้วล่ะ ฮึดสู้เดินขึ้นบันไดดินเล็ก ๆ อีกครึ่งดอยเอง เดี๋ยวก็ถึงเนาะ เมื่อถึงที่หมาย ก็ต้องตาโต โอ้โห ร้องว้าวไม่หยุด ทะเลหมอกหนานุ่มเหมือนปุยนุ่น เย้ายวนให้น่าโดดลงไปนอนเล่นจริง ๆ แบบนี้ล่ะคุ้มค่าเหนื่อยมาก พี่ที่เค้าขึ้นมานอนเมื่อคืนนี้เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนท้องฟ้าสวยมาก ดาวระยิบระยับเต็มไปหมดเลย และยังเห็นดาวตกเยอะมาก แต่อากาศนี้หนาวเข้ากระดูกเลยทีเดียวค่ะ บนดอยพุ่ยโค จะมีต้นเดียวดายอยู่ 1 ต้น เคยเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Letter มาแล้ว ใครได้ขึ้นมาบนดอยยนี้จะหลงเสน่ห์แบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะนะ ที่นี่ดูวิวได้ 360 องศา จะดูพระอาทิตย์ขึ้นก็งาม ชมพระอาทิตย์ตกก็สวย ส่องดาวก็โรแมนติกยิ่งนัก เรียกว่าได้ว่ามาที่นี่ได้วิวครบเลยค่ะ เราเดินเล่น ชม แชะ ชิล ๆ พอหอมปากหอมคอ รอเวลาหมอกไปพัก ประมาณเกือบเที่ยงก็ลงดอยกันมา ทิ้งรอยเท้าไว้ เก็บความทรงจำใส่กระเป๋า ทริปนี้มีความสุข สนุก และตื่นเต้น โอกาสหน้าต้องมาที่นี่อีกแน่นอนค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน blue candle