ในปัจจุบันนี้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและเกิดปัญหาโลกร้อนซึ่งเกิดจากการกระทำของมนุษย์เองและตอนนี้ยังไม่สายที่จะร่วมด้วยช่วยกันรักษาโลกไว้ให้คงอยู่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือเริ่มต้นด้วยตัวเราหันมาใช้วัสดุธรรมชาติและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมชาวไทใหญ่เองก็เช่นกันได้ใช้วัสดุธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ชก็มักจะนำวัสดุที่หลงเหลือจากธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ซึ่งวัสดุที่ผู้เขียนจะนำเสนอในวันนี้คือ กาบไผ่ยักษ์กาบไผ่ยักษ์นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่ากาบไผ่ปกติและความมีขนาดกว้างนั้นสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ซึ่งเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมองข้ามแต่ก็สามารถนำมาแปรรูปขายเพื่อสร้างรายได้อีกเช่นกัน กุ๊บไตซึ่งนำเอากาบไผ่มาแปรรูปเป็นหมวกนำมาตัดเย็บอย่างประณีตใช้ด้านที่มันวาวอยู่ด้านในส่วนด้านนอกนั้นทำให้ขนาดเป็นวงกลมและดัดด้วยไม้ไผ่ให้มีความทนทานส่วนตรงกลางทำเป็นทรงกรวยปลายแหลมปิดด้วยจุกไม้ไผ่กลม ๆ เพื่อกันไม่ให้ลมเข้าน้ำหนักมีขนาดเบาไม่หนักหัวสวมใส่แล้วเย็นสบายอีกลวดลายที่นำมาเสนอซึ่งลวดลายสวยงามไม่แพ้กันด้วยด้านนอกตกแต่งด้วยก้านมะพร้าวเพิ่มความสวยงามและขนาดนั้นพอดีกับศีรษะไม่ทำให้หล่นง่ายมีน้ำหนักเบาและเย็นสบายเช่นกันและยังมีวิธีถนอมอาหารแบบโบราณฉบับไทยใหญ่ซึ่งใช้ด้านมันวาวประกบกับข้าวปุกงาสามารถช่วยถนอมข้าวปุ๊กไว้ได้ถึง 2 อาทิตย์ทั้งไม่แฉะและยังมีความหอมของกาบไผ่อีกด้วยหากท่านใดที่อยากชมการเอากับไผ่มาใช้ประโยชน์โหข้าวปุกงาสามารถมาชมได้ที่ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอนหรือในช่วงหน้าหนาวจะจัดขึ้นในปลายปีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ อีกทั้งยังสามารถห่อน้ำอ้อยและเนื้อสัตว์แทนถุงพลาสติกสิ่งต่างๆเหล่านี้หากเราเริ่มต้นด้วยตัวเรางดใช้ถุงพลาสติกแทนตะกร้าสานหรือใช้วัสดุธรรมชาติสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเรานำมาใช้ใช้ให้เกิดประโยชน์สิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดการมีวินัยในตนเองและยังช่วยลดโลกร้อนอีกด้วยอีกหากเรานำมาประกอบอาชีพเสริมทำให้มีรายได้ให้กับตนเองทั้งยังสามารถเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนโดยรวมแล้วประโยชน์ของกาบไผ่ทำให้คนต้องทึ่งเพราะสิ่งที่เราคิดว่าไม่มีประโยชน์แต่กลับนำมาใช้ได้ สิ่งเล็ก ๆ ที่เรามองข้ามสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายจนบางคนอาจคิดไม่ถึง และถ้าหากนำมาแปรรูปยังสร้างรายได้อีกด้วยทุกภาพโดยผู้เขียน