"เธอคือแสงของปลายอุโมงค์ที่ส่องเข้ามา เปลี่ยนฉันให้มีความหมายด้วยใจของเธอ " ท่อนฮุกของเพลง แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ของวงNo more tear ทำให้คิดถึง บรรยากาศการนั่งรถไฟสาย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ที่หากใครได้สัมผัสต้องหลงไหล ในความแลดูลึกลับของอุโมงค์ ๆ หนึ่งที่เป็นช่วงคาบต่อระหว่างจังหวัดลำพูนถึงจังหวัดลำปาง หรือที่เรียกกันว่า อุโมงค์ขุนตาน นั่นเอง เราได้มีเวลาในช่วงวันหยุดยาวช่วงหนึ่ง จึงเกิดความคิดพิลึกขึ้นว่าอยากขึ้นรถไฟไปแอ่วลำปางสักหน่อย อีกทั้งจะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมเยือนคนรู้จักทางโน้นด้วยซะเลย เมื่อความคิดเห็นของคณะตรงกัน พวกเราก็ทำการจองตั๋วรถไฟ โดยฝากเพื่อนที่อยู่ในเมืองเชียงใหม่จองให้ สรุปเราได้ตั๋วรถไปจากเชียงใหม่ ไปลำปาง เวลาออก 8.00 น. เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ประมาณเจ็ดโมงเช้ากว่าๆ เตรียมตัวรอขึ้นรถไฟ สักพักเจ้าหน้าที่เรียกให้ขึ้นรถไปตามโบกี้ที่เราได้จองไว้ในตั๋วรถ เราขึ้นไปนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย รถไฟขยับออกจากชานชลาอย่างช้าๆ พวกเราก็เม้าท์มอยกันตามประสาคนไปเที่ยว เรื่องโน้น นี่ นั่น เปลี่ยนไปเรื่อยๆผ่านอำเภอต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ จนสักพักหนึ่ง พวกเราก็เข้าเขตจังหวัดลำพูนถึงสถานีรถไฟลำพูน ช่วงนี้จะมีจำนวนผู้โดยสารขึ้นรถไฟเยอะขึ้น มีแม่ค้าแม่ขาย เร่ขายของบนรถไฟ มีข้าวเหนียวหมูปิ้ง มะม่วงน้ำพริกเกลือ ขนมไทย ฯลฯ ใครหิวก็โบกมือเรียก เลือกซื้อตามความต้องการ เมื่อรถไฟแล่นไปได้อีกสักพัก ความไฮเปอร์ของเราเริ่มออกละสิ เราสังเกตว่า รางรถไฟนอกจากจะเป็นรางบนถนนแล้ว ที่น่าสนใจคือรางรถไฟบนสะพานที่ทอดผ่านฝั่งแม่น้ำ หุบเหว ที่เราคิดว่า เวลาที่รถไฟแล่นบนรางเหล่านี้ มันช่างน่าตื่นเต้นที่สุด ความที่เราชอบที่จะเรียนรู้ สอดรู้สอดเห็น แอบเสี่ยงนิด ๆ เราจึงเดินจากที่นั่งในโบกี้ของเราไปยังหัวรถไฟ แล้วขออนุญาตเจ้าหน้าที่ว่า " พี่คะ ขอไปยืนตรงหน้าสุดของรถไฟได้มั้ยคะ คืออยากเห็นอะไรๆก่อนคนอื่นเขาค่ะ " พี่เจ้าหน้าที่เมื่อเห็นเราสนใจ เขาไม่รีรอ รีบเปิดประตูให้เราเข้าไปยืนตรงหน้าสุดของหัวเครื่องรถไฟเลย นอกจากนี้ คุณพี่ก็เริ่มแนะนำสถานที่ตลอดข้างทาง ตรงนี้ ตรงโน้น แบบว่าเราได้แต่ ฟังแล้วผงกหัว ทำความเข้าใจตามเป็นระยะๆ นี่ละนะ น้ำใจคนไทย มิตรภาพที่มีให้เสมอ เรามองพี่เจ้าหน้าที่ ดูมีความสุขมากที่ได้อธิบาย แนะนำสถานที่ต่างๆให้ เสมือนว่าไม่มีผู้โดยสารคนใดทำอะไรแปลกๆเหมือนเราละมั้ง เมื่อรถไฟแล่นมาถึงสถานีขุนตาน ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า "ลงไปเดินชมวิวก่อน สวยนะ จะจอดพักตรงนี้อีกนานอยู่ " เมื่อเราได้เดินลงไป โอ้โห! สวยจริง ๆ แฮะ สถานนีนี้เป็นลานกว้าง ๆ ตรงข้างหน้ามีอุโมงค์ใหญ่ เรียกว่า อุโมงค์ขุนตานที่เราว่าดูเหมือนถ้ำ หรืออะไรสักอย่างที่ดูลึกลับ น่าค้นหา เราเก็บภาพสวยๆตรงสถานีขุนตานกับคณะได้พอประมาณแล้วจึงขึ้นรถไฟต่อ รถไฟแล่นเข้าสู่อุโมงค์ขุนตานอย่างช้าๆ ความมืดมิดเริ่มเข้ามา เหมือนกลางคืนที่มืดมิด เรายังคงตำแหน่งหน้าสุดของรถไฟเหมือนเดิม พี่เจ้าหน้าที่ก็ยังอธิบยเรื่อยๆ พอสักพัก เรามองไปข้างหน้าเห็นแสงคล้ายไฟเล็กๆ แล้วก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ละที่เรียกว่าแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ดังเนื้อเพลงที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น มีความรู้สึกเหมือนดังคนตาบอดที่ชีวิตมืดมนมองไม่เห็นหนทางใด ๆ อยู่ดี ๆ มีแสงสว่างเกิดขึ้นให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง เหมือนพลังที่หดหายไปกลับฟื้นคืนมาใหม่ เหมือนแบตเตอรี่ที่ใกล้จะหมด แล้วถูกเติมขึ้นมาให้เต็มอีกครั้งหนึ่ง เหมือนราวกับเราได้เจอสัจธรรมของชีวิตที่ว่า เมื่อเราเผชิญและผ่านทุกข์ได้ ย่อมเจอหนทางแห่งความสุข ทางแห่งความสว่าง นับเป็นความประทับใจที่เกิดขึ้นกับเราเป็นอย่างมาก อุโมงค์ขุนตานตั้งอยู่ในเขต ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นจุดเด่นของจังหวัดลำพูน มีขึ้นระหว่างปลายรัชกาลที่ 5-รัชกาลที่ 7 คือเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2450 ไปเสร็จสิ้นในปี 2464 ถือเป็นทางรถไฟสามแผ่นดิน มีความยาวที่สุดในประเทศไทย หากท่านอยากสัมผัสบรรยากาศของแสงสว่างที่ปลายอุโมง และทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทาง อย่ารอช้านะคะ วันหยุดนี้ จองตั๋วเลยค่ะ รับรองจะประทับใจไม่มีลืมแน่นอน