มาเที่ยวสถานีรถไฟขุนตาลครั้งนี้ ไม่เชิงว่าจะเป็นทริปเที่ยวซะทีเดียว เพราะบังเอิญได้มาวิ่งฟรีที่ “สะพานขาว จ.ลำพูน” ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไปอุทยานขุนตาลได้ด้วย ดังนั้นหลังจากจบงานวิ่งแล้ว เราก็ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของงานวิ่งทันที เพราะเค้าส่งเสริมการท่องเที่ยว ไม่ช้าไม่นานปนความกลัวเล็ก ๆ เราก็ถึง “อุโมงค์ขุนตาล” ได้ไม่ยาก เสร็จสรรพจากงานวิ่งแล้ว เราก็ออกเดินทางลัดเลาะหมู่บ้าน โดยใช้ถนนหมายเลข 1039 ซึ่งใช้เป็นเส้นทางวิ่งส่วนหนึ่ง และเปิด GPS ไปด้วย เพราะกลัวหลงป่าอยู่เหมือนกัน และที่บอกว่าปนความกลัว เพราะแวะถามเจ้าหน้าที่ตรงหน้าประตู ว่าเส้นทางชันมากหรือไม่ เนื่องจากเราไม่เคยมา เจ้าหน้าที่บอกว่าจะชันตรงทางขึ้นนิดเดียว ถึงตรงนั้นแล้วใส่เกียร์หนึ่งเหยียบขึ้นไปเลย ทีแรกคิดว่าไม่ไปดีกว่ามั้ง แลดูน่ากลัว แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เป็นไร ทำตามที่บอก ไหน ๆ ก็มาแล้ว จะได้ไม่เสียเที่ยว ... ค่ะ!! ไปก็ไป... เอาจริง ๆ ที่น่ากลัวกว่าก็คือที่จอดรถนี่แหละ เพราะจอดได้ไม่เกิน 10 คัน โชคดีที่วันนี้รถไม่มากเท่าไร จุดสำคัญที่อยากมากดูเอาไว้ก็คือ เส้นทางวิ่งเทรลจากอุโมงค์ขุนตาลไปถึงอุทยานขุนตาล เพราะเห็นเค้าบอกกันว่า เป็นเส้นทางเดินป่าที่ทะลุหากัน โดยเราจะเริ่มต้นจากจุดไหนก็ได้ เอาที่สะดวกได้เลย หลังจากจอดรถแล้ว เราจะเห็นจุด start ดังในภาพนี้เลย เดินขึ้นไปเล็กน้อยเราจะเห็นทางแยกซ้าย-ขวา ทางด้านซ้ายคือบันไดนาค แน่นอนว่าด้านบนต้องเป็นศาสนสถาน แต่เราไม่ได้ขึ้นไป (ไว้โอกาสหน้าไม่พลาดแน่นอน) ส่วนทางขวามือ คือเส้นทางเดินป่าไปยังอุทยานแห่งชาติขุนตาล โดยมีระยะทาง 1,300 เมตร จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ บอกว่าเส้นทางไม่อันตราย เดินไปได้เลย เราจึงเดินไปสำรวจแค่นิดเดียว แล้วเป็นอันเดินกลับ เพราะอากาศค่อนข้างร้อน แต่อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่า จุด start อยู่ตรงนี้นี่เอง แล้วเสร็จจากข้อสงสัยเรียบร้อย เราก็ต้องไปเที่ยวต่อสิ!! ได้ยินเค้าตะโกนกันว่าอีก 15 นาที รถไฟจะเข้ามาที่สถานี ดังนั้นเราไม่รอช้า วิ่งไปหาจุดเหมาะ ๆ ถ่ายภาพดีกว่า ช่วงที่รถไฟกำลังจะแล่นออกจากสถานี มีพี่ผู้ชาย 3 คน น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เดินผ่านมา บอกว่ายืนตรงรางนี้ได้เลย จะได้ภาพใกล้ ๆ เพราะรถไฟวิ่งอีกราง จากนั้นพลขับก็กดแตรเสียงดังลั่น เพราะด้านบนคือรูปปั้น "พญาเบิก" หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "เจ้าพ่อขุนตาล" ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่แห่งนี้มาช้านาน หลังจากรถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์แล้ว เราก็ไปเดินเที่ยวต่อ บังเอิญว่าเจอคุณลุงกับคุณป้า ที่มาจากงานวิ่งเหมือนกัน เห็นท่านกำลังถ่ายภาพคู่ด้วยการเซลฟี่ เราจึงเดินเข้าไปถามจะถ่ายภาพให้ แต่ด้วยความที่เราถือกล้อง DSLR ท่านจึงเข้าใจผิด ว่าเราจะถ่ายด้วยกล้องเรา แล้วให้ท่านไปกดซื้อในเว็บขายภาพ... เราสตั๊นไปนิดหนึ่ง จึงรีบบอกไปว่า “หนูไม่ได้เอากล้องหนูถ่ายนะคะ หนูไม่ใช่ช่างภาพงานวิ่ง” ... ก็ขำกันไปด้วยมิตรภาพของนักวิ่งจากงานเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ภาคเหนือขึ้นชื่อเรื่องหมอกควัน แต่วันนี้โชคดีที่ท้องฟ้าสดใสอย่างมาก แถมตอนเช้าตรู่อากาศหนาว 14 องศา กันเลยทีเดียว เราจึงได้สภาพอากาศที่แปลกตา ก็คือภูเขาและต้นไม้ที่ค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ท้องฟ้ากลับสดใสอย่างสวยงาม ได้เวลาพอสมควรแล้วในช่วงเวลาอันน้อยนิด ได้รู้ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึงต้องวางแผนมาเที่ยวใหม่อีกรอบแล้วล่ะ เพราะบังเอิญไปเห็นเด็ก ๆ 4-5 คน ลงจากขบวนรถไฟมาเที่ยวที่นี่โดยเฉพาะ ได้ยินน้อง ๆ พูดกันว่า เดี๋ยวไปหากินก๋วยเตี๋ยวก่อน แล้วรอเที่ยวรถไฟช่วงบ่ายอีกที ระหว่างนี้ก็เห็นเด็ก ๆ วิ่งเล่นถ่ายภาพกันสนุกสนาน เป็นภาพที่ทำให้ยิ้มได้เหมือนกันนะ “อุโมงค์ขุนตาล” สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถไฟ และรถยนต์ส่วนตัว หากเป็นทางรถยนต์ ก็จะขับรถขึ้นไปเที่ยวที่อุทยานขุนตาลต่อได้ ที่แห่งนี้ มีความคลาสสิกและมีเสน่ห์ในรูปแบบของเค้า ช่วงเวลาที่รถไฟเคลื่อนลับสายตาไปในอุโมงค์ เป็นช่วงเวลาที่สายตาเกือบทุกคู่ มองไปในจุดเดียวกัน ราวกับว่าพวกเรากำลังมาส่งคนที่รักออกเดินทางยังไงยังงั้นเลย ไม่รู้ว่าใครจะรู้สึกเหมือนกับเราหรือไม่ แต่เราอยากชวนเพื่อน ๆ ให้มาเที่ยวกันนะ “อุโมงค์ขุนตาล ณ ลำพูน” รายละเอียดเพิ่มเติม : - อุโมงค์ขุนตาน (ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล) - ตั้งอยู่ที่ บ้านขุนตาล ต.ปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน - เปิดให้บริการทุกวัน (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) - สามารถเดินเท้าไปยังอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลได้ ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร - เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานีรถไฟในที่เดียวกัน