สวัสดีครับท่านนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนจะพาท่านนักเที่ยวทั้งหลายไปเที่ยวชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูนที่ตั้งเด่นสง่าบนยอดเขาหลังวัดพระพุทธบาทตากผ้าโดยพระธาตุเจดีย์มีประวัติความเป็นมาถึงเรื่องราวของ 4 ครูบา …สงสัยกันใช่ไหมครับว่าทำไมต้อง 4 ครูบา คำตอบก็คือ การสร้างพระธาตุเจดีย์นี้เป็นดำริของพระเดชพระคุณพระสุพรหมยานเถระ (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก) ได้ปรารภให้ศิษย์ทั้งหลายฟังตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 เพื่อจะใช้บรรจุอัฐิของครูบาทั้ง 4 ซึ่งมีความเกี่ยวพันเป็นพ่อลูกกัน....มาดูกันครับว่าบริเวณพระธาตุเจดีย์แห่งนี้มีอะไรบ้าง จุดที่หนึ่ง เมื่อท่านเดินทางมายัง “พระธาตุเจดีย์สี่ครูบา” โดยสามารถขับรถขึ้นมาทางถนนสายหลักหรือหากจะทดสอบพลังบุญท่านสามารถเดินขึ้นทางบันไดได้โดยผู้เขียนเลือกที่จะเดินขึ้นทางบันได และเมื่อเข้ามายังจุดแรกก็จะพบกับกุมภัณฑ์สองตนนั่งถือกระบองเฝ้าอยู่ตรงบันไดก่อนเข้าสู่บริเวณพระธาตุเจดีย์ จุดที่สอง ท่านจะพบกับ "พระธาตุเจดีย์สี่ครูบา" ที่มีการสร้างเป็นอนุสรณ์ให้ 4 ครูบา คือ ครูบาพ่อเป็ง โพธิโก วัดป่าหนองเจดีย์, ครูบาอินทจักรรักษา วัดน้ำบ่อหลวง, ครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า และครูบาคัมภีระ (พระน้องชาย) วัดพระธาตุดอยน้อย โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมของพระธาตุ 4 ครูบา ได้นำแบบมาจาก 1. องค์พระเจดีย์ ได้นำรูปแบบมาจากพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน 2. ซุ้มใหญ่ภายในได้นำรูปแบบมาจากพระบรมธาตุศรีจอมทอง 3. ซุ้มประตูเข้าสู่ลานพระเจดีย์ ได้นำรูปแบบมาจากซุ้มประตูวัดพระธาตุลำปางหลวง ส่วนยอดของพระเจดีย์ ได้บรรจุของมีค่าไว้ ในส่วนทรงระฆังด้านบนได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ฐานของเจดีย์ เป็นทรงระฆังใหญ่ มีประตูเข้าทั้ง 4 ด้าน ข้างในเป็นโถงใหญ่ ตั้งมณฑปตรงกลางภายใน ได้ประดิษฐานรูปหล่อของ ๔ ครูบาไว้ ทิศละรูปพร้อมบรรจุอัฐิของแต่ละท่านครูบาไว้ในองค์รูปหล่อเหมือนของแต่ละรูปด้วย อันเป็นที่มาของชื่อ “พระธาตุเจดีย์ 4 ครูบา” จุดที่สาม พระวิหารลายทองด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สีทองเป็นประธาน (เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือปางสะดุ้งมาร เชื่อว่าหากใครได้กราบสักการะพระพุทธรูปปางนี้จะพบแต่ความสำเร็จ ชนะศัตรูภัยพาล ไม่มีวันแพ้...(เขาว่ากันมาอย่างนั้น) ด้านในพระวิหารสวยมากไม่ว่าจะเป็นฝาผนัง เสา มีการวาด และปั้นลวดลายทาด้วยสีทองดูแล้วสวยงาม และแปลกตาไปอีกแบบสำหรับพระวิหารนี้ทางวัดจะใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในวันสำคัญหรือเทศกาลต่าง ๆ หรือจะใช้สำหรับใช้สำหรับการประชุม รวมตัวเพื่อปรึกษาหารือกันระหว่างชาวบ้าน เมื่อท่านมาถึงแล้วอย่าลืมเข้าไปกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล จุดที่สี่ ระฆังหลวงมงคล เป็นระฆังขนาดใหญ่สีแดงลายทองมีความเชื่อกันว่าหากใครได้ตีระฆังนี้จะเป็นผู้มีชื่อเสียงก้องกังวานไปทั่วทุกทิศ (ในทางที่ดี) หากทำการงานใดมักจะสำเร็จสมปรารถนาประมาณนั้นลองดูนะครับถ้ามาลองมาทดสอบดูว่าเป็นตามนั้นหรือไม่.... จุดที่ห้า ศาลาพระเจ้ากาวิละผู้สร้างเวียงป่าซางเมืองเชียงใหม่ ลำพูน และรวมชาวยองมาอยู่ลำพูน พ.ศ.2348 เป็นศาลาที่มีพระรูปของพระเจ้ากาวิละพร้อมกับประวัติความเป็นมาในการรวมไพร่ฟ้าชาวยอง และการสร้างเมืองป่าซาง ตรงนี้ท่านสามารถเข้าไปอ่านประวัติ และเยี่ยมชมได้ครับ การเดินทางไปกราบนมัสการพระธาตุสี่ครูบา สามารถใช้เส้นทางเดียวกันกับทางไปวัดพระพุทธบาทตากผ้า อยู่ห่างจากอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ตามถนนป่าซาง-ลี้ ประมาณ 6 กิโลเมตรมีทางแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร โดยพระธาตุสี่ครูบาจะอยู่บนยอดเขาหลังวัดพระพุทธบาทตากผ้า อย่าลืมนะครับมาสร้างบุญ สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ตน และครอบครัว ต้องมาที่นี่เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งแห่งที่ต้องห้าม (พลาด) มามะ ช้าอยู่ใยไปกันเร็ว สำหรับวันนี้...ธรรมะสวัสดีครับ... เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน ดร.อาบแสงจันทร์ ต.