เสวัสดีครับทุกท่าน วันนี้หนูแดงมีเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังอีกแล้วครับ เรื่องราวในบทความนี้ มาพูดถึงเรื่องที่หนูแดงจะมาเล่าสู่ทุกท่านฟังกันเถอะครับ เมื่อช่วงต้นปี หนูแดงได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นช่วงสิ้นปีจะก้าวเข้าสู้ปีใหม่ครับ เลยถือโอกาสไปสัมผัสกลิ่นอายของเมืองลำปาง เริ่มต้นอันดับแรกเลย วางแผนที่จะเดินทางโดยรถโดยสารจากอำเภอชุมแพไปยังลำปาง เมื่อถึง บขส.ชุมแพก็ไปติดต่อรับตั๋วครับ พนักงานขายตั๋วใจดีมากบอกเราว่า รอบทุ่มสิบนาทีว่างอยู่สะดวกเดินทางก่อนไหม ก็เลยตกลงไปครับ โชคดีจริงๆไม่ได้นั่งคอยนาน และสักครู่รถก็มาถึง หนูแดงก็จัดการกับสัมภาระและขึ้นไปนั่งตามที่นั่งในตั๋วบนรถครับและรถก็ออกเดินทาง ใช้เวลาเกือบ 9 ชั่วโมงก็ถึงลำปางประมาณตี 4 ครับ และเพื่อนก็มารอรับเพื่อกลับไปที่บ้านของเพื่อน เมื่อถึงบ้านเพื่อนก็อาบน้ำและเข้านอนครับ เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวในเมืองตอนสายๆของพรุ่งนี้ครับ เมืองลำปางมีการจัดงาน Countdown ต้อนรับปีใหม่ที่แยกหอนาฬิกาตอนค่ำๆ ก็เลยวางแผนกันว่าจะไปในบ้างใน 1 วันนี้ แต่ท้องมันเริ่มหิวแล้วสิ 555 เพื่อนเลยพาขับมอเตอร์ไซค์ไปออกจากบ้านไปตะลุยทัวร์ในเมืองลำปางกัน เพื่อนเลยพามาทานข้าวซอยเจ้าที่เพื่อนแนะนำว่าเด็ดดวงที่สุดในลำปาง ชื่อร้านบะหมีเกี๊ยวหงวนชุนครับ ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณแยกเชิงสะพานรัษฎานุสรณ์ครับ มีเมนูมากมาย ทั้งข้าวซอยและบะหมี่ครับ คุณลุง คุณป้าเจ้าของร้านก็น่ารักครับ อู้กำเมืองกันทั้งร้านเลย นึกถึงสมัยตอนที่มาฝึกงานที่ลำปาง 20 กว่าปีให้หลังครับ กลิ่นอายของความเป็นเมืองเหนือเริ่มหวนกลับมาหาผมอีกครั้ง เพื่อนแนะนำเมนูขึ้นชื่อของร้านครับ คือ ข้าวซอยเนื้อ และ เกาเหลาผ้าขี้ริ้ว ส่วนเครื่องดื่มก็สั่งชามะนาวและโอเลี้ยงครับ รอไม่นานครับข้าวซอยเนื้อและรายการที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟ์ ว้าว มันสุดจัดปลัดบอกมากครับ แค่กลิ่นก็สัมผัสได้ว่าต้องรสชาติดีเป็นแน่แท้ ได้เวลาลงมือครับ เริ่มทาน อ้อ ร้านนี้มีพริกเผาที่ทำเองครับ ไม่เหมือนพริกเผาทั่วไป เพื่อนบอกว่าเขาเรียกว่าพริกเมือง เท่าที่จำได้นะครับ ถ้าผิดอย่างไรก็ขออภัยครับมีภาพมาฝากด้วยนะครับ มาต่อเลยครับ รสชาติคือดี อร่อยจนต้องสั่งอีกชามครับ อ้อเกือบลืมว่ามีเกาเหลาด้วย รสชาติของเกาเหลาก็คือดีมากครับ ซุปกลมกล่อม ผ้าขี้ริ้วกรึบๆ แทบไม่ต้องปรุงเลย เพื่อนเล่าว่าสมัยที่เขาเป็นวัยรุ่นนั้น ผ้าขี้ริ้วที่ร้านใช้ทำเกาเหลาจะเป็นแบบดังเดิมคือมาจากเขียงเนื้อเลยครับ แต่ปัจจุบันคงลดระยะเวลาในการล้างทำความสะอาดด้วยการซื้อสำเร็จตามซุปเปอร์มาเลย หลังจากทานไปเราก็นั่งคุยกันเพื่อรอให้ข้าวซอยที่ทานไปย่อยครับ หลังจากที่อาหารเริ่มย่อยแล้วเราก็จ่ายค่าอาหารและวางแผนว่าจะไปไหนกันต่อครับ เพื่อนของผมแนะนำว่าบริเวณใต้สะพานรัษฎานุสรณ์ทั้งสองฝั่งมี่ Street Art เขียนภาพวาดรั้วบ้านแถวนั้นยาวมากก็เลยแวะไปเดินเล่นเก็บภาพมาเป็นที่ระลึกครับ หลังจากถ่ายภาพเดินชม Street Art แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เอทานของคาวแล้วก็ต้องมีของหวานตบท้ายสิครับ บริเวณนั้นเป็นบริเวณที่มีการจัดถนนคนเดินกาดกองต้าครับ แต่จัดทุกวันเสาร์ วันที่ไปนั้นไม่ใช่วันเสาร์สิครับเลยอดเดินกาดกองต้าเลย เพื่อนผมเลยแนะนำอีกที่ ๆ มาลำปางแล้วต้องแวะมาคือ ร้านกาแฟตึกโบราณที่คงโครงสร้างเดิมไว้ คือ ร้านกาแฟหม่องโง่ยซินครับ ผมก็ตกลงไปสิครับ เห็นว่ามาแล้วต้องไม่พลาด พอไปถึงโอ้มันสวยมากครับมนต์สเน่ห์แห่งสถาปัตกรรมดั้งเดิม ร้านนี้ตกแต่งเดิมๆครับคงความเป็นสถาปัตกรรมโบราณเอาไว้ สาวๆพนักงานบริการดีมากครับแนะนำดี มีเมนูให้เลือกเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย ผมเลยสั่งชานมพม่า และเพื่อนสั่งชาพีทเย็นมาทานครับ อ้อร้านนี้สั่งเมนูอะไรก็ตามจะมีข้าวแต๋นแผ่นเล็ก ๆ 2 ชิ้น ใส่ในกล่องสานจาดใบจากกล่องเล็ก ๆ มาให้เป็นเครื่องเคียงครับ และนอกจากเครื่องดื่มและของมานเล่นแล้ว หม่องโง่ยซินยังมีผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือและ เสื้อผ้าที่ตัดเย็บแบบล้านนาไว้ให้เลือกซื้อด้วยครับ ผมก็ไม่พลาดครับได้เสื้อผ้าฝ้ายหม่องโง่ยซินลายของร้านเองมาครอบครอง 1 ตัวครับ ราคาจับต้องได้ครับไม่แพง 300 บาทเท่านั้นเอง แหมธรรมดามาร้านกาแฟก็ต้องถ่ายรูปกันหน่อย ยิ่งร้านกาแฟที่เป็นตึกเก่าๆนี่ยิ่งไม่พลาดครับต้องมีการถ่ายรูปเก็บภาพกันหน่อย ภายในร้านมีที่นั่งเยอะครับ และมีมุมให้ถ่ายภาพเยอะเช่นเดียวกันครับ บรรยากาศดี เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนคุยกัน พบปะเพื่อนฝูง แต่อาจจะไม่เหมาะกับการมานั่งทำงานที่ต้องใช้โน๊ตบุ๊คในการทำงานเท่าไหร่ครับเพราะไม่ค่อยมีปลั๊กให้เสียบสายชาร์จ ห้องน้ำของร้านแหมไม่อยากจะบอกเลยกว้างมากแทบจะนอนได้เลย และตกแต่งแบบน่ารักน่านอนเอ๊ยน่าใช้ต่างหาก แหมเคลิ้มเลยก็บรรยากาศมันพาไปนี่ครับ 555 นอกจากหม่องโง่ยซินจะเป็นร้านกาแฟแล้ว ก็ยังเปิดให้เข้าเยี่ยมชมด้วยนะครับ สุดท้ายนี้หนูแดงขอทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านี้ก่อน แล้วจะมาเล่าต่อในตอนที่ 2 ครับ สวัสดีครับ ^^ เครดิตภาพ ภาพที่1 ข้าวซอยเนื้อร้านบะหมี่เกี๊ยวหงวนชุน สะพานรัษฎานุสรณ์ ภาพที่2 เกาเหลาผ้าขี้ริ้ว ซุปกลมกล่อม ไม่สั่งถือว่าพลาด ภาพที่3 พริกเผาทำเองสูตรเฉพาะของทางร้าน ต้องลอง พลาดไม่ได้ ภาพที่4 บรรยากาศภายใน หม่องโง่ยซิน ภาพที่5 ชาพีชเปรี้ยวจิ๊ดชื่นใจ