ทริปนี้เริ่มต้นจาก ทางโรงเรียนของลูกได้ส่งจดหมายแจ้งว่า จะมีการพานักเรียนไปทัศนศึกษาโดยการนั่งรถไฟจากสถานีรถเชียงใหม่ ไปยังสถานีรถไฟลำพูน เราก็แบบนะ เด็ก 4 ขวบ ขึ้นรถไฟ เราก็อดห่วงไม่ได้แต่ลูกสาวบอกว่าอยากไป เราก็เลยต้องตามใจให้ไป พอวันหยุดเราเลยพาลูกสาวไปขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟลำพูน ไปยัง สถานนีรถไฟลำปาง โดยอยากให้ลูกสาวได้เรียนรู้ถึงวิธีการดูแลตัวเองและวิธีการขึ้นรถไฟที่ถูกต้อง เราพาลูกสาวไปยังสถานีรถไฟลำพูน ประมาณ 9.00 โมง ไปซื้อตั๋วรถไฟ ราคาตั๋วผู้ใหญ่ 19 บาท โห ถูกมากๆ รถไฟออกประมาณ 9.40 น. ก่อนจะขึ้นรถไฟเราเตรียมน้ำดื่ม ขนม ใส่กระเป๋าขึ้นไปด้วย เผื่อลูกสาวหิว หน้าตาของคนจะได้ขึ้นรถไฟก็จะประมาณนี้ ตื่นเต้นมากๆๆถามตลอดว่า แม่เมื่อไหร่รถไฟจะมา เราบอกลูกสาวว่า หากว่าต้องรอรถไฟห้ามออกมานอกเส้นขาวนี้เด็ดขาด ให้นั่งรถที่เก้าอี้ถ้าไม่อย่างงั้นอาจจะถูกรถไฟชนได้ ลูกสาวบอกคะแม่ พอรถไฟมาถึงเราหาที่นั่ง แสดงตั๋วให้เจ้าหน้าที่ เริ่มเดินทางคะ รถไฟขับมาเรื่อยๆบรรยากาศรอบข้างสวยมากคะ เราได้เห็นชาวบ้านทำไร่ ทำนากัน คือแบบ วิวดีมาก จนมาถึงสะพานขาวทาชมภู แลนมาร์คแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน เป็นสะพานข้ามทางรถไฟที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งปกติทางข้ามรถไฟจะทำด้วยเหล็กเพื่อความยืดหยุ่น สร้างสมัยสงครามโลก ซึ่งไม่สามารถนำเข้าเหล็กได้ ตอนนี้เขาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของ อำเภอแม่ทา ซึ่งตอนเราไปเราเห็นคู่รักมาถ่ายพรีเวดดดิ้งด้วย บริเวณนั้นก็จะมีร้านอาหารตั้งอยู่ข้างลำน้ำ สวยมากคะคิดว่าเดี๋ยวต้องขับรถมาเที่ยวบ้างหละ สถานนีต่อไปคือ สถานนีขุนตานคะ นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟที่บรรยากาศดี เงียบสงบแล้ว ยังมีน้องหมาเยอะมาก และไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยรถไฟลอดอุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์ขุนตานคืออุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 1.3 กิโลเมตร ยาวเป็นอันดับที่ 1 จากจำนวน 7 อุโมงค์รถไฟในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วยนา อันนี้แอบค้นประวัติมา อิอิ พอรถไฟลอดอุโมงค์ขุนตาน ในนั้นมืดมากคะ แต่บนรถไฟเจ้าหน้าที่เขาเปิดไฟนา ลูกสาวเรากลัวมาก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงสถานนีนครลำปาง เรามาถึงประมาณ 12.00 น. ลงรถไฟปุ๊ปก็รีบไปซื้อตั๋วกลับเลย เพราะไม่งั้นกลับถึงลำพูนค่ำแน่นอน ได้ตั๋วกลับเวลา 12.40 น. ราคาตั๋วก็เหมือนเดิมคะ 19 บาท ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว เราก็ออกมาหาอะไรกิน บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟ เราเลือกไปกินที่ร้าน ป้อก๋วยจั๊บ ร้านอยู่หน้าสถานีรถไฟ สามารถเดินไปได้ เพราะอยู่ห่างจากสถานีประมาณ 200 เมตร รสชาติถือว่าอร่อยคะ ราคา ธรรมดา 40 บาท พิเศษ 50 บาท เราสั่งมา 2 ชาม ลูกสาว 1 ชาม เพราะลูกสาวกินเผ็ดไม่ได้ หลังจากกินข้าวเสร็จ เราไปนั่งเล่นชิวๆร้านกาแฟ ลองหาแถวนั้นดูก็มีหลายร้านอยู่นะคะ เราเลือกเข้าร้าน กาแฟรถไฟ เราสั่งชาเขียว 1 แก้ว นมชมพู 1 แก้ว รสชาติก็ถือว่าใช้ได้นะคะ ราคาแก้วละ 30 บาท มองดูเวลาอีก 10 นาทีก็จะถึงเวลารถไฟมา เราเลยออกจากร้านกาแฟ มานั่งรอรถไฟ ในบริเวณสถานีรถไฟ กว้างมากคะ มีนักท่องเที่ยวมากมายมาถ่ายรูปกัน แล้วลูกสาวเราก็วิ่งไปถ่ายรูปกับรถราง บอกว่าแม่ๆ โตมาหนูจะเป็นคนขับรถไฟ เราก็เอิ่มนะ คนขับรถไฟเขามีแต่ผู้ชาย หน้าตาคนได้ขึ้นรถรางก็จะประมาณนี้ ได้เวลากลับแล้วคะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทางกลับถึงลำพูน ตอนขากลับ ลูกสาวหมดฤทธิ์ หลับมาตลอดทางเลย เรานั่งดูบรรยากาศรอบๆข้าง คือแบบว่าสวยมาก ทริปนั่งรถไฟเที่ยวลำปาง สำหรับเราแล้วเราว่ามันสนุกนะคะ ได้ชมธรรมชาติ เราคิดมาตลอดว่านั่งรถไฟมันเสียงดัง ใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดหมาย แต่พอเอาเข้าจริงๆเรากลับหลงรักการนั่งรถไฟแล้วสิ เราได้เห็นธรรมชาติ ได้สัมผัสกับป่าไม้ ได้เห็นวิถีของชาวบ้านข้างๆรางรถไฟ ได้เห็นชาวบ้านเขาทำนา เราว่ามันดูดีกว่าการนั่งรถส่วนตัวแล้วขับไปตามท้องถนนอีกนะ อีกอย่างการนั่งรถไฟไม่เสี่ยงอันตรายเหมือนบนท้องถนน ไม่ต้องกลัวจะมีด่านไหม อิอิ ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ ไม่เกิน 300 บาท ประหยัดมากคะ - ซื้อตั๋วไปกลับ เที่ยวละ 19 บาท 2 เที่ยว 38 บาท เด็กนั่งฟรีไม่คิดตังนะคะ - ซื้อขนม น้ำเปล่า ประมาณ 50 บาท - กินข้าวที่สถานีนครลำปาง 80 บาท - ค่าแฟ 60 บาท รวมๆแล้ว 228 บาท เองคะ เป็นไงละคะ ได้เที่ยว ได้กิน ได้ถ่ายรูป ด้วยงบที่ไม่บานเลย วันหลังต้องมาอีกแน่นอนคะ