สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกครั้งกับ “กับข้าวที่บ้าน@My Home Part2” หลังจากที่เราได้ทำการแนะนำเมนูกับข้าวที่บ้านไปแล้ว6เมนูในบทความแรก วันนี้เราก็เลยถือโอกาสมาแนะนำเมนูกับข้าวที่บ้านอีก5เมนูให้เพื่อน ๆ ได้อ่านหรือใครจะลองนำไปทำตามก็ไม่ว่ากัน ปล.เมนูที่แนะนำล้วนเป็นเมนูกับข้าวที่บ้าน ไม่มีสูตรที่ตายตัวถ้าชิมแล้วอร่อยถือว่าใช้ได้ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเมนูไหนตรงกับบ้านของเพื่อน ๆ มั้ย คำเตือน:โปรดระวังน้ำลายหกอีกตามเคย มาเรียกน้ำย่อยกับเมนูแอพพิไทเซอร์อย่างเมนูยำรวม ใส่เข้าไปเลยทุกอย่างที่อยากกิน เหมือนในภาพเราใส่หมูยอ หมูสับ บัวหิมะและก็ไข่ดาวเพราะอยากกินยำไข่ดาวด้วย เลือกไม่ถูกจึงใส่รวมกันหมด 5555 ยำจะแซ่บได้พริกต้องโขลกเท่านั้นจะใส่กี่เม็ดตามใจชอบ วิธีการทำน้ำยำ น้ำยำมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ดตามใจชอบ ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้ พริกขี้หนูสวนโขลกหยาบ พอประมาณ น้ำหอมดอง 2 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส (นัวน้อยใส่น้อยนัวมากใส่มากนะจ๊ะ) น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว (ไม่ควรใช้มะนาวขวดนะคะ จะทำให้เสียรสชาติ) 3 ช้อนโต๊ะ ชิมจนได้รสแซ่บถึงใจก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ เมนูต่อไปเพิ่มคาร์โบไฮเดรตกันสักหน่อย ด้วยผัดเผ็ดหมูราดข้าว มาเริ่มที่การหุ้งข้าวสีม่วงด้วยดอกอัญชัน วิธีการกันสุดแสนจะไม่อยาก ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำดอกอัญชัญที่เตรียมไว้มาแซ่ พักน้ำดอกอัญชันจนเย็นแล้วนำไปหุ้งข้าวแทนน้ำเปล่า สัดส่วนน้ำก็ตามจำนวนข้าวที่หุ้งนะคะ แค่นี้ก็จะได้ข้าวสวยสีสวยน่ารับประทาน มีข้าวแล้วจะขาดกับได้อย่างไร กับข้าวของเราวันนี้คือผักพริกแกง ส่วนประกอบก็จะมี พริกแกงซื้อสำเร็จมาจากตลาดเลยอย่าเสียเวลาตำให้เมื่อยมือ หมูหั่นชิ้นขนาดพอคำ ใบโหระพา เครื่องปรุงประกอบด้วย น้ำปลาครึ่งช้อนโต๊ะ , น้ำตาล 1 ช้อนชา ส่วนวิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก ผัดพริกแกงกับน้ำมันให้หอมใส่หมูผัดจนสุก ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ (ใครจะใส่ถั่วฝักยาวหรือมะเขือลงไปด้วยก็ได้) ส่วนคนไม่กินผักอย่างเราโรยแค่ใบโหระพาแค่นี้ก็อร่อยแล้ว เพิ่มคาร์โบไฮเดรตไปแล้วโปรตีนก็ต้องตามมา เมนูไข่ลูกเขย บางทีเราไปซื้อที่ตลาดอาจได้รสชาติไม่ถูกใจ หวานไป จืดไป ทำกินเองดีกว่า ส่วนประกอบของเมนูนี้ก็ไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าขาดไข่ไก่นั้นจะยุ่งขึ้นมาทันที 5555 ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง ไข่ไก่ที่ต้มแล้ว 5 ฟอง หอมแดงซอย (ชอบมากใส่มากชอบน้อยใส่น้อย) พริกแห้ง 4-5 เม็ด ต้นหอมผักชี มาเริ่มขั้นตอนแรกด้วยการทอดนำไข่ที่ต้มเสร็จพักจนเย็นแล้วไปทอดด้วยไฟอ่อน ๆ ต้องใจเย็น ๆ นะคะจะได้ผิวไข่ที่กรอบไม่เหนียว ตามด้วยการทอดหอมแดง ขั้นตอนนี้ก็ต้องใจเย็นเหมือนกันอย่าเผลอเชียว หอมจะไหม้แล้วอาจทำให้มีรสขมได้ สุดท้ายคือการทอดพริกแห้งก็เป็นอันจบงานทอด แล้วมาต่อด้วยการทำน้ำซอสจะต้องมีรสหวานนำเปรี้ยวและเค็มตาม ซึ่งน้ำซอสจะมีส่วนประกอบดังนี้ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาครึ่งช้อนโต๊ะ เคี้ยวน้ำกับน้ำตาลปี๊บปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำปลาเคี้ยวต่อสักพักจนเหนียวใส่หอมแดงทอด พริกทอดราดลงบนไข่ที่ผ่าครึ่งไว้โรยด้วยผักซีก็จะได้ไข่ลูกเขยไว้รับประทานด้วยรสชาติที่ถูกปาก มาที่เมนูเส้นกันบ้าง ขนมจีนน้ำเงี้ยว อาหารขึ้นชื่อทางภาคเหนือ เมนูนี้ก็ขอลักไก่ด้วยการซื้อน้ำพริกสำเร็จมาจากตลาดแต่จะน้ำมาเติมปลาร้าสับและกะปิเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้น (หรือใครจะใส่ถั่วเน่าแผ่นไปตำด้วยก็ได้) ส่วนประกอบของเมนูนี้ก็จะมี พริกแกงที่ลักไก่ซื้อมาจากตลาด 1 ขีด กระดูกหมู 1 กิโลกรัม หมูสับครึ่งกิโล เลือดไก่ 2 ก้อน มะเขือเทศลูกเล็กครึงกิโล ต้นหอมผักชี เครื่องปรุง น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ (ออกเค็มนิดนึงเผื่อกินกับเส้นขนมจีนรสชาติจะได้ไม่จืด) , น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ เริ่มจากการนำหม้อไปตั้งน้ำให้เดือดใส่กระดูกหมูรอไว้ ระหว่างนั้นก็ผัดน้ำพริกกับหมูให้หอมแล้วนำไปใส่ในหม้อที่ตั้งไฟไว้ใช้เตาถ่านจะดีที่สุดเพราะยิ่งเคี่ยวนานยิ่งอร่อย ปรุงรสด้วยน้ำปลาตัดน้ำตาลเล็กน้อยใส่เลือดหั่นลูกเต๋าแล้วมะเขือเทศ (อีกอย่างคือดอกงิ้วตากแห้งถ้ามีใส่ด้วยจะอร่อยมาก) เมนูสุดท้ายผัดหมี่ขนมจีน ก็คือนำเส้นขนมจีนที่เหลือจากการทำขนมจีนนำเงี้ยวมาต่อยอด เรียกได้ว่าไม่ให้เสียของกันเลยทีเดียว ส่วนประกอบนั้นก็ธรรมดามีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น เส้นขนมจีน ถั่วงอก ผักชี ไข่ไก่ 2 ฟอง เครื่องปรุง น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ , ซีอิ๊วขาวครึ่งช้อนโต๊ะ , น้ำตาล1 ช้อนโต๊ะ เมนูนี้ทำง่ายมากแค่ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำกระเทียมที่ทุบไว้ไปเจียวให้หอมตามด้วยเส้นขนมจีนผัดให้เข้ากันปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมัยหอย น้ำตาล เพิ่มเติมสีสันด้วยสีอิ้วดำใส่ถั่วงอกผัดพอสุกแค่นี้ก็เรียบร้อย เราไม่ใส่ไข่ตอนผัดเพราะจะทำเป็นไข่เจียวซอยโรยหน้าทำให้ดูน่าทานมากขึ้นแล้วอร่อยด้วย เป็นยังไงกันบ้างคะกับอีก5เมนูกับข้าวที่บ้าน@My Home มีเมนูไหนที่บ้านของเพื่อนเคยทำบ้ายเอ่ย เหมือนกันหรือเปล่า การทำกับข้าวกินเองที่บ้านนั้นไม่อยากจะอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราได้ทานอาหารที่เราเลือกสรรเองกับคนในครอบครัวซึ่งความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้แล้ว Cr.ภาพโดยผู้เขียน