ประเทศไทยเรามีผักให้เลือกกินเยอะมาก คนในเมืองก็จะพึ่งพาผักในห้าง หรือหากใครสะดวกเดินตลาดสดก็จะไปจับจ่ายกันที่นั่น ส่วนบ้านเราอยู่ทางภาคเหนือ ห่างจากตัวเมือง 20 กิโลเมตร แม้จะมีแม่ค้านำผักจากในเมืองมาขายในหมู่บ้าน แต่หลาย ๆ บ้านก็จะปลูกกันเองเพื่อเอาไว้กิน เหลือก็ขาย ไม่ก็แบ่ง ๆ กันไป เพราะหากกินไม่ทัน พอใบแก่ก็เป็นอันอด เช่น ชะอม คะน้า ผักกาด เป็นต้น ส่วนผลไม้ก็เลือกช้อปเอาที่แม่ค้าอีกที เพราะในบ้านจะไม่เน้นปลูกต้นไม้ใหญ่ ช่วงลมแรง จะอันตรายมาก ในเมื่อเรามีทางเลือกเยอะแยะในการเลือกกิน ทั้งซื้อ ปลูกเอง และเป็นของฝาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกินโดยไม่เลือกที่ถูกที่ควรได้อยู่ดี ยังไงก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อร่างกายให้มากที่สุดด้วย เครดิตภาพ : skeeze 4 ข้อต่อไปนี้ เป็นวิธีการเลือกกินผักผลไม้แบบง่าย ๆ แต่ได้ประโยชน์เน้น ๆ 1.สียิ่งสดยิ่งดี : ถ้าเห็นพืชผักผลไม้สีสด อย่าแค่ชมว่าสีสวย แต่ให้ควักเงินซื้อด้วย เพราะสียิ่งสด ยิ่งมีคุณค่าทางอาหารมาก เช่น ผักโขมที่สีเขียวเข้ม จะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผักกาดแก้ว ที่สีซีดอย่างมาก และผักกาดแก้วจะเต็มไปด้วยน้ำซะมากกว่า ผักสีเขียวเข้มจะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง แถมยังช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา ส่วนสีแดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ ช่วยลดปริมาณไขมันไม่ดีได้ สีน้ำเงินหรือสีม่วง จะช่วยลดการอับเสบและต้านไวรัส สีเหลืองส้ม จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ประโยชน์ดังกล่าว เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ที่หยิบยกมาเท่านั้น จะให้ดี กินให้หลากสีเข้าไว้ละกันนะ เครดิตภาพ : PublicDomainPictures 2.เลี่ยงพืชผักที่มีแป้งสูง : พืชผักบางอย่างก็มีแป้งสูง ไม่ต่างอะไรกับข้าวขัดขาว ที่พอสะสมมากเข้า ก็จะกลายเป็นน้ำตาล และก่อโรคเบาหวานให้กับเราในที่สุด อย่างเช่นมันฝรั่งเป็นต้น ดังนั้นไม่ควรกินมาก หรือเลี่ยงได้ยิ่งดี ยิ่งเป็นของขบเคี้ยวจะบวกเพิ่มน้ำมันและชูรสเข้าไปอีก กลายเป็นโทษหลายเด้งกันเลยทีเดียว ในที่นี้ยกเว้นมันเทศแบบหวาน หรือมันเหลืองนะ คนละชนิดกัน เพราะเจ้ามันเทศ สามารถกินได้อย่างสบายใจ เพราะจะไปช่วยเพิ่มระดับเบต้าแคโรทีนให้กับร่างกายเรา สรรพคุณคือ บำรุงสุขภาพดวงตา ชะลอความแก่ และดูแลผิวพรรณของเราให้สดใสเป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของเราให้แข็งแรงด้วย เครดิตภาพ : Zotx 3.เน้นพืชผักออแกนิกส์ : เป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่หาซื้อได้ยาก เพราะนอกจากยาฆ่าแมลงแล้ว บางแหล่งผลิต ยังมียาฆ่าเชื้อรา ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และโลหะหนักปนเปื้อนเข้ามาอีก วิธีแก้พอมี ไม่ยาก ไม่ง่าย แต่เราต้องหา... นั่นคือ มองหาร้านประจำ ที่มั่นใจว่ามีวัตถุดิบจากแหล่งผลิตธรรมชาติ และเราควรกินพืชผักผลไม้ตามฤดูกาลเท่านั้น เพราะค่อนข้างมั่นใจได้ว่า จะเป็นผลผลิตที่ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเร่ง เมื่อถึงฤดูกาล เราก็จะได้กินไปตามช่วงเวลาของเค้า และหากเรามีร้านประจำแล้ว แน่นอนว่าแม่ค้าพ่อค้า ย่อมจะหาของดี ๆ เก็บไว้ให้เราอยู่เสมอ ที่สำคัญพืชผักที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ รสชาติจะอร่อยมากกว่าด้วย เครดิตภาพ : Shutterbug75 4.อย่าลืมเครื่องเทศ (สมุนไพร) : สำหรับครัวบ้านเรา เป็นหน้าที่ของแม่ ที่จะเตรียมเครื่องเทศเอาไว้ในครัวอยู่เสมอ ทั้งกระเทียม หอมแดง พริกสด พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ รวมถึงเครื่องเทศทางเหนือที่ต้องมีเอาไว้ สำหรับตำน้ำพริกลาบด้วย เพราะบ้านเรานิยมทำกับข้าวกินเอง บางทีทำแกงหม้อใหญ่ 1 หม้อ ถึงกับกินได้ 3 มื้อกันเลย เวลาตำน้ำพริกจะหนักเครื่องสมุนไพรข้างต้นเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้น้ำซุปเข้มข้น และรสชาติอร่อยมาก เท่ากับเราได้รับสารอาหารที่หลากหลายไปแบบเต็ม ๆ ที่สำคัญแม่เน้นย้ำว่า แกงทุกชนิด อย่าเพิ่งใส่น้ำเยอะในครั้งแรก เพราะน้ำจากผักจะออกมาเพิ่ม และจะทำให้น้ำซุปไม่เข้มข้น ...ว่าแล้วก็อยากกินแกงแคไก่ขึ้นมาทันทีเลย... เครดิตภาพ : PhotoMIX-Company 4 ข้อข้างต้น คงไม่ยากเกินไปที่จะสรรหามาไว้สำหรับครอบครัว ยิ่งจัดเป็นโปรแกรมการกินได้เลยยิ่งดีสำหรับพืชผักผลไม้ประจำบ้าน และไม่ต้องกังวลใจไป หากเราต้องไปงานเลี้ยงสังสรรค์ แล้วต้องไปกินอาหารที่ค่อนข้างส่งผลในด้านลบ เพราะต้นทุนเราดีอยู่แล้ว เพียง 1-2 มื้อ ในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่อาจสร้างความเสียหายกับร่างกายได้มากนักหรอก เพราะสิ่งที่ร่างกายสะสมเอาไว้ จะมีกระบวนการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระออกมาช่วยดูแลได้เอง แต่อย่าปาร์ตี้บ่อยนะ สุขภาพจะเสื่อมโทรมเอาง่าย ๆ เครดิตภาพปก : bogitw