ช่วงมิถุนายนปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เตรียมตัวเข้าไปเรียนสู่รั้วมหาวิทยาลัย จึงมีเวลาว่างในการไปท่องเที่ยวและออกทริป เรากับเพื่อนๆจึงตัดสินใจที่จะออกทริปไปลำปางใน 1 วัน เราจึงอยากแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดลำปางจากจังหวัดเชียงใหม่ภายใน 1 วันที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากๆบอกก่อนว่าการออกทริปของพวกเราในครั้งนี้ไม่ได้มีการศึกษาข้อมูลในการท่องเที่ยว เดินทาง หรือข้อมูลในการไปลำปางมาก่อน คุยกับเพื่อนๆว่าจะไปก็พากันออกเดินทางในวันถัดมาเลยทันทีจึงทำให้ไม่มีเวลาในการเตรียมการเที่ยวหรือสถานที่ในการเดินทางไปในครั้งนี้เลย และทริปนี้เป็นทริปแรกของพวกเราในการเดินทางออกจากจังหวัดเชียงใหม่ มันอาจจะไม่ได้ห่างออกไปจากจังหวัดเชียงใหม่มากนักแต่ก็ถือว่าเป็นทริปแรกที่สามารถออกไปเที่ยวได้โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลอะไรและยังเป็นการไปเที่ยวที่เหมือนกับว่าเป็านการเดินทางก้าวแรกของชีวิต ในช่วงเช้าของวันที่ 5 มิถุนายน 2562 เป็นวันที่เราตัดสินใจออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ด้วยการขึ้นรถไฟฟ้า ที่สถานีรถไฟของจังหวัดเชียงใหม่ รับรถสายที่เราออกเดินทางคือช่วง 08.00 น. รถไฟใช้เวลาเดินทางจากเชียงใหม่ถึงลำปาง 3 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางในการไปลำปางบนรถไฟจะมีคนมาเล่ขายพวกของกิน ยาดม และตลอดข้างทางในการไปลำปางก็จะมีแนวเขา แนวป่า หมู่บ้านและทุ่งนาที่สวยงามเรียงตลอดเส้นทาง เมื่อถึงจังหวัดลำปาง เราและเพื่อนๆ เริ่มออกเดินทางสำรวจจังหวัดลำปางด้วยกันไม่มีแผนที่ ไม่มีจุดหมาย เดินไปเรื่อยๆ ออกจากสถานีรถไฟลำปางพวกเราก็มุ่งหน้าเดินหาร้านอาหารเพราะตลอดการเดินทางบนรถไฟไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ห่างออกไปจากสถานีรถไฟไม่ถึง 500 เมตร พวกเราก็ไปสะดุดตากับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ”เมย์” สาขาลำปาง นอกจากที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือจะมีก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นชื่อแล้วยังมีขนมโบราณที่หากินได้ยากอย่างขนมถ้วยและน้ำดื่มสูตรสมุนไพรต่างๆที่ดีต่อสุขภาพ ระหว่างการนั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวพวกเราจึงหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางและได้ตัดสินใจที่จะไปสะพานรัษฎาภิเศก สะพานรัษฎาภิเศก เป็นสะพานเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อและโดดเด่นของจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ที่ ถนนรัษฎา ตำบล หัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง ลำปาง 52100 เป็นสะพานขึ้นชื่อของจังหวัดลำปาง ถือว่าเป็นสะพานที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนเมืองลำปางต้องเข้าไปชมและถ่ายรูปสะพานรัษฎาภิเศกกันถ้วนหน้า บริเวณแนวทางของสะพานยังมีจิตรกรรมวาดรูปฝาผนังตลอดเส้นทาง รูปภาพเหล่านั้นสื่อถึงการละเล่นของเด็กไทยในอดีตที่ผู้คนในสมัยนี้อาจหลงลืมกันไปบ้างแล้ว ถนนเส้นนี้จะมีการจัดนิทรรศการรูปภาพเชิงอดีตและวัฒนธรรมแบบนี้อยู่เป็นช่วงๆ หลังจากถ่ายรูปเดินสำรวจกันเสร็จเรียบร้อย จึงตัดสินใจขึ้นรถโดยสารไปกาดกองต้าที่อยู่ห่างไม่ไกลจากสะพานมากนัก กาดกองต้าตั้งอยู่ที่ ถนน ตลาดเก่า ตำบล สวนดอก อำเภอเมืองลำปาง ลำปาง 52100 ตลอดเส้นทางของกาดกองต้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย จริงๆแล้วกาดกองต้าเป็นเหมือนถนนคนเดินที่จะมีของกิน ของเก่าแก่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินจับจ่ายซื้อของในช่วงคืนวันเสาร์ แต่วันที่เราและเพื่อนๆไปเป็นช่วงวันธรรมดาจึงทำได้แค่เดินถ่ายรูป ดูตึกเก่าๆ บ้านเดินเก่าๆ และร้านขายของที่ระลึกโบราณ ระหว่างการเดินอยู่ในกาดกองต้า พวกเราจึงแวะชมหอศิลป์ของจังหวัดลำปาง ภายในหอศิลป์มีรูปภาพที่ได้รับรางวัล หรือผลงานของศิลปินผู้ที่รักน่าสนใจในงานศิลปะทุกแขนง ทั้งวิจิตรศิลป์ ประยุกต์ศิลป์และงานมิติเชิงวัฒนธรรมต่างๆเพื่อมาแสดงออกและบอกเล่าให้แก่ชุมชนได้รับรู้แลกเปลี่ยนและชื่นชมงานศิลป์ที่มีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ หลังจากที่พวกเราออกมาจากหอศิลป์ของลำปางก็เราก็มุ่งหน้าไป Museum ลำปางหรือพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ลำปาง ใน Museum ลำปางจัดนิทรรศการที่รวบรวมความเป็นลำปางไว้ที่นี่ ค่าเข้าราคา 20 บาทสามารถเดินสำรวจได้ทั้งตึกทุกซอกทุกมุม ใน Museum ลำปางจัดนิทรรศการชุดคนเมืองลำปางโดยนำเสนอผ่านหัวข้อหลักหลักว่าด้วยเรื่องของคนในลำปางที่มีบทบาทสำคัญแตกต่างกันสะท้อนเรื่องราวของจังหวัดลำปางโดยเน้นไปที่ผู้มีส่วนสำคัญต่อประวัติศาสตร์ โบราณคดี เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ใน Museum ลำปางมีการรวบรวมการบอกเล่าความเป็นอดีตของลำปาง การเปลี่ยนผ่าน และเหตุการณ์สำคัญในอดีตที่ส่งผลมาถึงการเป็นลำปางในยุคปัจจุบัน หัวข้อหลักๆที่เห็นได้ใน Museum ลำปางคือการเปิดตำนาน การเล่าเรื่องราวตำนานของเมือง วัด วีรบุรุษของลำปาง ประตูสำคัญของเมืองลำปาง บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ เราถึงความเปลี่ยนของเมืองลำปาง จำลองการนั่งรถม้าลำปางเพื่อเรียนรู้สถานที่สำคัญของเมืองลำปาง และสิ่งที่พวกเราชอบมากที่สุดใน Museum ลำปางคือการได้ไปฟังเสียงสำเนียงลำปางในแต่ละพื้นที่ ชุมชน ตำบล และอำเภอต่างๆ แต่ละที่ผู้คนใช้ภาษาและสำเนียงแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นมาเราก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไปที่พิพิธภัณฑ์หอปูนละกอน พิพิธภัณฑ์หอปูนละกอน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเล่าเรื่องเมืองลำปางโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการบอกเล่าให้ผู้ที่สนใจได้เห็นตัวอย่างจากอดีตของลำปาง ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ราคา 20 บาทเหมือน Museum ลำปาง ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีห้องจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ในนั้นมีการตัวเองแนวคิดหลักของพิพิธภัณฑ์ คือการกำหนดบทบาทหน้าที่ทางของเมืองลำปางในแต่ละยุคสมัยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อธิบายอำนาจและและบทบาทของเจ้าเมืองทางเหนือในยุคโบราณ และยังมีการบอกเล่าเรื่องราวของรถไฟลำปางที่ผู้คนมักใช้เดินทางในการไปต่างจังหวัดอยู่เสมอ และแสดงเรื่องราวของนครลำปางยุคปัจจุบัน อันเป็นยุคที่คนลำปางรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาให้ความสนใจและมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของเมือง โดยร่วมแรงร่วมใจแสดงออก สร้างกิจกรรมสาธารณะที่หลากหลาย รวมทั้งนำเสนอความคิดเห็นต่างๆ อันเป็นหนทางไปสู่การพัฒนาเมืองด้วยความตระหนักที่ว่า "เมืองของเรา ก็คือ อนาคตของเรา" หลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์เราก็มุ่งหน้าไปซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเตรียมตัวกลับเชียงใหม่ก่อนที่จะไม่ได้กลับในวันนี้ เราได้ตั๋วรอบ 17.30 น. ซึ่งจะไปถึงเชียงใหม่ตอนมืดๆ ระหว่างรอรถไฟพวกเราได้เดินหาของกินแถวๆสถานีรถไฟ ในการเดินทางกลับเชียงใหม่โดยรถไฟนั้น ขากลับพวกเราเจอพานุฝนฟ้าคะนอง ทำให้เสียงล้อรถไฟนั้นน่ากลัวมาก ทำให้การไปถึงเชียงใหม่จึงใช้เวลาเพิ่มขึ้น เนื่องจากรถไฟขับช้าลงเพื่อป้องกันอันตราย สิ่งที่ได้จากการไปลำปางตลอด 1 วัน คือความประทับใจในเมืองเก่าแก่แห่งนี้ จริงๆแล้วเมืองลำปางไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเท่าที่พวกเราไปมาแต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและโบราณอยู่อีกหลายที่หากจะไปภายใน 1 วัน คงไม่มีวันทั่วลำปางแน่ๆ ยังมีอีกหลายที่ในจังหวัดลำปางที่พวกเราได้คุยกันไว้ว่าอยากไปเที่ยวแต่คงไม่ใช่ภายในวันนี้ เมืองลำปางเป็นเมืองที่น่าอนุรักษ์ไว้เพราะทุกอย่างในจังหวัดลำปางยังเป็นของเก่าแก่ที่หาชมได้ยาก อาหารที่ลำปางก็อร่อย และผู้คนที่ลำปางน่ารักและเป็นกันเองอย่างมาก ตลอดการเดินทางในจังหวัดลำปางของพวกเราพวกเราได้รับน้ำใจจากคุณน้า คุณอา คุณยายในจังหวัดลำปาง และในลำปางการใช้รถใช้ถนนไม่วุ่นวายเหมือนจังหวัดอื่นๆ ลำปางเป็นเมืองที่เงียบสงบ แน่นอนว่าเราจะกลับมาครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน และเราก็อยากจะบอกต่อให้ทุกคนท่องเที่ยวในประเทศไทยของเราให้คุ้มเสียก่อน ไม่ใช่แค่จังหวัดลำปางแต่งงานหลายจังหวัดก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีวัฒนธรรมโบราณที่น่าค้นหา ตัวเราเองก็ยังมีความคิดและการวางแผนที่อยากจะออกท่องเที่ยวและสำรวจภายในประเทศไทยในทุกที่ทุกจังหวัดเพื่อเป็นการอนุรักษ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยไว้ เนื่องจากคนในสมัยนี้ไม่นิยมท่องเที่ยวภายในประเทศไทยกันแล้ว ด้วยค่านิยมจากต่างประเทศที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยพากันไปเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้นจนลืมไปว่าจริงๆแล้วประเทศไทยของเรายังมีพื้นที่สวยๆงามๆ ให้เราได้ออกไปสำรวจ ไปท่องเที่ยว ไปชื่นชม และยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนไทยให้สืบไปถึงคนรุ่นต่อๆไปให้ในอนาคตได้อีกยังไงพวกเราก็ขอฝากติดตามการท่องเที่ยวของเราในครั้งต่อไปด้วยนะคะ