ทุกคนคงเคยเจอปัญหาในการเรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องไหมคะ แบบว่าไม่รู้จะเริ่มเรียนอย่างไร เรียนตรงไหนก่อน เรียนในห้องเรียนแล้วยังไม่เข้าใจเอามาใช้ในชีวิตก็ไม่ค่อยได้ แถมยังชอบง่วงเวลาครูสอนตั้งแต่ต้นคาบด้วยซ้ำ เวลาอยากจะศึกษาเองก็ไม่รู้จะเข้าเว็บไซต์ไหน กะว่าจะฟังเพลงสากลเสริมทักษะก็ฟังจนเพลินลืมอ่านความหมายและศึกษาศัพท์ ดูหนังบางทีก็อ่านแค่ซับไทย อันไหนอ่านไม่ทัน ฟังไม่ทันก็ช่างมันดูเอามันส์ก่อน ศัพท์ที่ได้ก็ไม่จดเอาไว้ทบทวนในภายหลัง เวลาเจอประโยคยากๆยาวๆก็หูอื้อตาลายไปหมด อย่างเช่น reading พอเจอครูต่างชาติก็หลบหน้าหลบตา พอเห็นเพื่อนคุยกับฝรั่งได้ ไอ้เรามันก็อยากจะคุยบ้าง คิดประเด็นที่จะคุยน่ะคิดออกนะ แต่เวลาจะพูดออกมาเหมือนลิ้นไก่สั้นซะอย่างงั้น ต้องแปลภาษาไทยเป็นอังกฤษในหัวซะก่อน ถ้าคุณผู้อ่านเจอปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งในนี้ หรือเจอทั้งหมดเลย เราก็อยากจะแนะนำแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษดีๆที่เรียนสนุก ไม่น่าเบื่อ แถมได้ความรู้รอบตัวด้วย ก็ขอแนะนำแอพลิเคชั่น JADOH Learning เลยค่ะ ที่มา : https://1th.me/NIpCa ต้องขอเกริ่นสักนิดเกี่ยวกับความเป็นมาของแอพลิเคชั่นตัวนี้ก่อนเลยว่า แอพลิเคชั่น JADOH เริ่มต้นมาจากเด็กหนุ่มที่เคยติดเกมส์และเป็นโอตาคุการ์ตูนญี่ปุ่นคนหนึ่ง เขาเคยได้รับทุนมง(ทุนรัฐบาลญุี่ปุ่น) ให้ไปเรียนต่อที่ปริญญาโท และเคยทำงานอยู่ในองค์กรหัวกะทิระดับโลกอย่าง Boston Consulting Group เขาคนนั้นชื่อ "ศมณ สุวรรณรัตน์" ผู้ก่อตั้งแอพลิเคชั่น JADOH Learning นั่นเอง หลังจากรู้ความเป็นมาเป็นไปของแอพตัวนี้แล้ว ก็ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ซึ่งผู้เขียนก็ขอนำเสนอ 3 สิ่งหลักๆที่ทำให้ JADOH มีความโดดเด่นและแตกต่างจากแอพลิเคชั่นเรียนภาษาอังกฤษตัวอื่นๆอย่างไร ทำไมเราถึงเลือกใช้แอพลิเคชั่นนี้ อันนี้ขอบอกก่อนเลยว่าผู้เขียนไม่ได้อวยอะไรทั้งสิ้น พูดจากประสบการณ์ที่ได้ลองใช้จริงๆ จึงอยากจะมานำเสนอให้ผู้อ่านที่สนใจได้รับรู้กัน1. Content (เนื้อหา) JADOH เป็นแอพที่เต็มไปด้วยเนื้อหาภาษาอังกฤษน่าสนใจมากมายโดยหลักๆแล้วก็จะมี หมวดหมู่ต่างๆ อาทิ ภาพยนต์ ข่าวสาร เพลง สิ่งบันเทิง คลิปวิดิโอ บทสัมภาษณ์ต่างๆที่เจอในโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ แต่มาในรูปแบบของภาษาอังกฤษหรือภาษาที่เราต้องการเลือกเรียนโดยวิดิโอที่เราเลือกรับชมก็จะมีแต่ละช็อตแต่ละประเด็นที่ไม่ยาวมากเพื่อให้เรา Concentrated (มีสมาธิ) จดจ่อกับคำศัพท์และเนื้อหานั้นรวมไปถึงเรายังสามารถกดเล่นซ้ำได้เพื่อฝึกสำเนียงการพูดได้อีกด้วย มีหมวดหมู่ให้เราได้คลิกเข้าไปเพื่อหาคลิปที่เราสนใจเพื่อศึกษาภาษาอังกฤษคลิปนั้นๆได้ง่ายอีกด้วยค่ะ เราสามารถ search (ค้นหา) พวก content ที่เราต้องการได้ด้วย ใช้งานง่ายจริงๆ ทุกครั้งหลังจากที่เราเรียนรู้คำศัพท์ก็จะมี quiz (บททดสอบเล็กๆ) ที่ทำให้เราทบทวนคำศัพท์และความเข้าใจในคลิปวิดิโอนั้นๆด้วย ก็จะมีการจับเวลาเอาไว้ ซึ่งเราไม่ต้องไป worry (กังวล) หรอกว่าจะทำไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจดูวิดิโอจริงๆก็ไม่ได้อยากเกินความสามารถเราไปได้หรอกค่ะ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นก็จะมีการเลือกคำศัพท์ให้ถูกต้องตรงกับความหมายและ การเรียงประโยคจากบางส่วนของคลิปวิดิโอค่ะ หลังจากที่เราเรียนก็จะโชว์ result (ผลการทดสอบ) ออกมา ไม่เพียงแค่นั้นแอพตัวนี้จะเก็บคลังคำศัพท์ไว้ให้ศึกษากันลืม และบางส่วนที่เราตอบผิดพลาดไป เขาก็จะมี quiz ในภายหลังให้ค่ะ2.English Level (ระดับภาษาอังกฤษ) ในครั้งแรกที่เราเริ่มใช้แอพลิเคชั่น JADOH ลงชื่อเข้าใช้งานและสอบถามถึงระดับภาษาอังกฤษของเราเพื่อเป็นข้อมูลให้กับแอพในการจัดสรรหาเนื้อหาให้ในหน้าแรก เราไม่ต้องไปกังวลว่าเราจะเลือกระดับภาษาผิดแล้วจะทำให้ได้เนื้อหาที่ยากเกินไป หรือง่ายเกินไป เพราะเราสามารถเปลี่ยนในภยหลังได้ในแอพลิชั่นที่การตั้งค่า3. Group Learning (เรียนเป็นกลุ่ม)สิ่งที่แตกต่างลำดับสุดท้ายคือ การเรียนเป็นกลุ่ม แต่จะพิเศษขึ้นมาหน่อยคือการที่สามารถเรียนเป็นกลุ่มสำหรับองค์กร หรือให้กับพนักงานเพื่อฝึกภาษาอังกฤษได้ มีการ invite (เชิญ) ให้เข้ากลุ่มโดยใช้ code (รหัส) อาจมีความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะเป็น community (ชุมชน) ให้คนที่มีความเก่งความสนใจในระดับเดียวกันมาอยู่ร่วมกัน และแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกัน เป็นอย่างไรบ้างกับการได้รู้ถึงประโยชน์ของแอพลิเคชั่นดีๆแบบนี้ หวังว่าจะมีผู้ที่สนใจและได้ลองทดลองใช้และเห็นด้วยกับการรีวิวแบบนี้ แต่บางครั้งการเรียนภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ในตอนแรกเราอาจจะรู้สึกว่ามันยากไม่ค่อยเข้าใจ ซึ่งไม่ว่าจะมีแอพลิเคชั่น เว็บไซต์ต่างๆที่ให้ความสะดวกสบายในการเรียนรู้มากมายแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่ชอบเข้าไปศึกษาไม่ไขว่คว้า หรือทบทวนทักษะของเราก็จะไม่พัฒนาหรือพัฒนาได้ช้านั่นเอง ทั้งนี้ผู้เขียนก็มีคำคมเล็กน้อยจากคนสตีฟจอบส์ ผู้พัฒนาและผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล ว่า"Stay Hungry, Stay Foolish" จงกระหายและทำตัวให้โง่ตลอดเวลาเพราะเมื่อเรารู้สึกว่าเราเก่ง เราฉลาดแล้ว เราก็จะเป็นเหมือนน้ำที่เต็มแก้ว แต่ถ้าเราสนใจศึกษาต่อไปเราก็จะได้ก้าวข้ามคำว่าขีดจำกัดของตนเองในทุกๆวันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเล็กที่ทำให้เรารู้สึกภูมิใจในตนเอง เมื่อเราหันหลังย้อนกับมาดูตัวเองในอดีตเราก็จะไม่เสียดายเลยเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่ควรทำและทำอย่างเต็มที่