วันนี้นะครับผมจะมาชวนทำเมนูของว่างคลายร้อน ที่เป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน ที่เข้ากับฤดูกาลนี้ ที่สุดแสนจะร้อนอบอ้าว และพอถึงฤดูนี้ทีไรก็ทำให้ชวนย้อนรำลึกถึงเรื่องดี ๆ ในอดีตที่ใช้เวลาว่างกับครอบครัวกันเลยทีเดียว นั่นก็คือการทานมะม่วงน้ำปลาหวาน เมนูอาหารว่างที่เมื่อมานั่งล้อมวงคุยกัน ก็ขาดมะม่วงน้ำปลาหวานไว้ทานเล่นไม่ได้ ซึ่งมะม่วงนั้นก็หาทานง่ายเช่นกันครับ ยิ่งบ้านใครมีสวน หรืออยู่ตามต่างจังหวัดนั้นเชื่อว่าแทบจะทุกบ้านก็จะมีต้นมะม่วงอยู่ เพราะถือว่าเป็นผลไม้ยอดฮิตติดบ้านของไทยเรานะครับ ส่วนใครจะสะดวกหาซื้อทาน ก็เป็นผลไม้ที่หาง่ายและราคาไม่แพงเลยครับ อย่ารอช้า เรามาดูส่วนผสมกันเลยครับ 1 มะม่วงเปรี้ยว มะม่วงมัน หรือมะม่วงชนิดใดก็ได้ 2 พริกป่น 20 กรัม หรือใส่ตามต้องการ 3 พริกแดงและพริกเขียวสดซอย 30กรัม 4 พริกขี้หนูสวน (ใส่ทั้งเม็ด ไม่ต้องซอย) 5 หอมแดงซอย ประมาณ 70 กรัม 6 กะปิ 10-20 กรัม 7 น้ำปลา 30 มิลลิลิตร 8 น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม 9 กุ้งแห้งอย่างดี และกุ้งแห้งบด 40 กรัม 10 น้ำสะอาด 60 มิลลิลิตร 11 เกลือ ขั้นตอนการทำ 1 นำน้ำสะอาดมาตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลปี๊บ กะปิ น้ำปลา และใส่เกลือเล็กน้อย นำมาตั้งไฟกลาง และคนเคี่ยวจนส่วนผสมเข้ากัน พอน้ำปลาหวานเดือดและฟูขึ้นมาให้เราผ่อนไฟอ่อน และตั้งไว้สักพักประมาณ 5-8 นาที เพื่อให้กลิ่นของกระปิ และน้ำปลาไม่ฉุนเกินไป 2 พอเคี่ยวน้ำปลาหวานที่ใส่ส่วนผสมแล้วจนสุก ชิมรสชาติเพื่อให้ได้รสชาติตามต้องการ และน้ำปลาหวานค้นเหนียวพอดีแล้วปิดไฟ และพักไว้ให้เย็น 3 พอน้ำปลาหวานเย็นตัวลงแล้ว ให้ใสพริกป่น พริกแดงซอย พริกขี้หนูสวน หอมแดงซอย กุ้งแห้งและกุ้งแห้งป่นลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ก็ตักเสริฟ์ได้เลย ขอแนะนำขั้นตอนการเตรียมมะม่วงให้เย็น กรอบอร่อย น่ารับประทานก็คือ ปอกเปลือกมะม่วงออกให้หมด แล้วน้ำไปแช่ในน้ำเย็นที่ใส่น้ำแข็งไว้ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วฝานมะม่วงเป็นแผ่น ๆ เพื่อนำมาทานกับน้ำปลาหวานที่เราทำไว้ จะทำให้ มะม่วงนั้นกรอบ เย็น อร่อยมากเลยครับ เมนูมะม่วงน้ำปลาหวาน ถือเป็นเมนูที่สร้างความทรงจำวัยเด็กให้ใครต่อใครมาแล้ว เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพ่อแม่ที่คอยทำให้ ส่วนตัวเราเองก็จะรอกินอย่างเดียว จนเกิดเป็นความรู้สึกที่มีความสุข และเชื่อว่าเมื่อใครหลายคนได้ทานแล้วเนี้ย จะให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เหมือนกับมีคนที่เรารักมาทานเป็นคู่ด้วย ส่วนตัวนั้นรู้สึกมีความสุขมากครับ ทั้งรสชาติและอารมณ์ จะเรียกว่าเป็นเสน่ห์ของเมนูนี้หรือเปล่านะ เครดิตภาพทั้งหมด : Blue Diamond