ประสบการณ์รับน้องคณะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด EP.3ภาพโดย นามปากกา A.P.Yสวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้วกับประสบการณ์รับน้องในมหาวิทยาลัย มันไม่ได้หมดแค่นั้นค่ะ รั้วมหาวิทยาลัยสอนเราหลาย ๆ อย่าง มันมีอะไรให้มานำเสนออีกมากมายเลยค่ะ ใน EP. นี้ผู้เขียนจะมาเล่าประสบการณ์ของการเป็นน้อง เฟรชชี่ ปี 1 ฮู้ว ๆ มันรู้สึกฮึกเหิมยังไงไม่รู้ ฮ่า ๆ เหมือนกับได้ย้อนเวลาไปสมัยปี 1 แน่ ๆ เลยรู้สึกฮึกเหิม แบบนี้ เอาหล่ะ เราไปอ่านประสบการณ์ของผู้เขียนในการรับน้องคณะกันเลยค่ะ ในช่วงปี 1 มีการรับน้องอยู่ 2 แบบ นั้นก็คือ รับน้องมหาวิทยาลัย และรับน้องของคณะ แต่ช่วงนั้นผู้เขียนรับน้องแบบคณะก่อนค่ะ โดยจะมีการรับน้องทั้งหมด 5 วัน วันแรกก็มาตามนัดเลยค่ะ ใส่เสื้อสีดำคอกลม กางเกงวอรม์ รองเท้าผ้าใบ มัดผมเรียบร้อย ๆ มาก่อน 7:30 น. มีรุ่นพี่มาคุมเชิง พี่เขาเป็นสโมสรของคณะ โดยจะมีประธานรุ่นปี 2 รับหน้าที่เป็นพี่ว๊าก มีพี่ระเบียบทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และพี่เดิน มาทำหน้าที่ละลายพฤติกรรมและสอนกฎระเบียบต่าง ๆ จากนั้นก็ฝากของมีค่าไว้ที่พี่เดิน พี่เขาจะไม่ให้เราพกอะไรติดตัวสักอย่างเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวมันจะมีปัญหาของหาย หลังจากนั้นก็จะพาไปตึกคณะ วันนั้นก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยการรับป้ายชื่อและรหัสประจำตัวนักศึกษา มีแก้วน้ำกับสมุดเชียร์ มัดติดกับป้ายชื่อ และจะมีโบว์สีชมพูประจำคณะ ไว้ให้ติดตัว ผู้หญิงจะมัดติดกับผม ส่วนผู้ชายจะมัดติดแขน ตอนแรกก็สนุก ๆ เพราะพี่เขาละลายพฤติกรรมเรา ได้รู้จักเพื่อน ๆ ต่างสถาบันที่ตอนนั้นได้มาอยู่ในคณะเดียวกันภาพโดย นามปากกา A.P.Yหลังจากนั้นพี่เขาก็พาไปที่สนามเลิฟ ( เป็นสนามของมหาวิทยาลัยที่ให้นักศึกษาทำกิจกรรมและเตะฟุตบอล ) โดยใช้โบว์ปิดตาและจะมีพี่เดิน นำทางไปเป็น หมู่ ๆ พอใกล้ถึง ก็จะมีเสียงรุ่นพี่ปี 2 ส่งเสียงต้อนรับ มีการแกล้งกันสนุก ๆ ตะโกนร้องว่าก้มนะ เงยนะ เอาไม้มาแหย่ ทาแป้งสารพัด เป็นอะไรที่สนุกมาก พอเปิดตาก็เห็นรุ่นพี่รายล้อมเราไว้แล้ว พี่เขาก็ถามว่าน้อง ๆ หิวน้ำกันไหม ถ้าหิวก็ให้กินน้ำสัก 3 นาที แล้วพี่เขาก็ถามอีกรอบว่า มีใครหิวน้ำอีกบ้าง ก็มีคนยกมือ พี่ ๆ ปี 2 ก็เอาป้ายเราที่มีแก้วไปกดน้ำมาให้ แต่รอบนี้มีอะไรพิเศษหน่อย ให้มาเต้นแล้วแลกกับน้ำ ฮ่า ๆ เต้นไม่แรงมากค่ะ พอสนุก ๆ ไม่เครียดดี หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมเล่นเกมกัน วันแรกไม่ค่อยโหดนะ ตอนเที่ยงพี่เขาก็ให้กินข้าว ในตลอดระยะ 5 วันเราต้องพกตังมา 40 บาท เป็นค่าข้าว เพราะพี่ ๆ เขาจะออกตังให้ก่อน แล้วมาเก็บเราทีหลังค่ะแต่วันสุดท้าย พี่เขาจะออกให้เราเอง ถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ มันไม่เหมือนในละครเลย พี่เขาสอนเราหลายอย่างมาก แถมยังได้มิตรภาพกับเพื่อน ๆ อีกด้วย วันที่ 2 นี้แหล่ะค่ะของจริง พี่เขาค่อนข้างพูดดุหน่อย แต่ไม่ถึงกับแรงมาก เฉพาะพี่ระเบียบเท่านั้นที่จะดุเราเล่นกัน ไม่ฟังที่พี่เขาพูด แต่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือกันดี มีเปื้อนแป้งทุกวันเลยค่ะ ฮ่า ๆภาพโดย นามปากกา A.P.Yตลอดการรับน้องพี่เขาก็จะสอนให้เราบูมเป็นสอนให้เราร้องเพลงของมหาวิทยาลัยและของคณะ แล้วก็มีการทดสอบไปเรื่อย ๆ รุ่นน้องทำผิด โดนทำโทษระบบหมู่ ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ไม่มีใครไม่โดน วันที่ 3 ก็จะมีรุ่นพี่ปี 3 เข้ามาคุมค่ะ โหดกว่าปี 2 นิดหนึ่ง แต่พี่เขาก็เฮฮากันดีน่า เอนเตอร์เทนได้เยี่ยมเลยค่ะ สนุกมากบอกเลย ใครว่ารับน้องน่ากลัว ต้องลองมาสมัครเป็นรุ่นน้องคณะบัญชีที่นี้ค่ะ ดุเป็นช่วง ๆ แต่ก็รักกันดี อบอุ่นมาก ๆ วันสุดท้ายก็จะมีการรับน้องรวมกับ พี่เทียบโอนปี 1 พี่ ๆ เขาดูโตกว่าเรามาก ดูเป็นผู้ใหญ่ บอกเลยว่าวันสุดท้ายนี้โคตรแหลกโคตรเปื้อน ฮ่า ๆ จะมีพี่เทียบโอนปี 2 มาร่วมด้วย สนุกกันใหญ่เลยทีนี้ กิจกรรมมี 4 ฐานก็สนุกทั้ง 4 ฐาน เหมือนกับว่าเราได้ไปปลดปล่อยที่มันอัดอั้น เพราะมันเป็นวันสุดท้ายแล้ว วันต่อไปก็ไม่มีอีกแล้ว ครั้งเดียวในชีวิตก็เอาให้สุดค่ะ พอจบกิจกรรมรับน้อง ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับหอ วันนั้นเป็นวันที่เรามีความสุขมากอ่ะ ได้เพื่อน ได้ความกล้าแสดงออก รุ่นพี่บอกให้เต้นก็คือเต้น วันแรก ๆ ก็เต้นไม่เป็น แต่วันสุดท้ายกลับเต้นซะสุดแรง ฮ่า ๆ เหนื่อยแต่สนุกนะคะภาพโดย นามปากกา A.P.Yสุดท้ายนี้ผู้เขียนอยากจะฝากถึงรุ่นน้องม.6 ที่กำลังจะเป็นเฟรชชี่ ปี 63 อย่าไปกลัวเลยค่ะ การรับน้อง ถ้าน้องไม่ได้ทำไรผิด พี่ ๆ เขาก็ไม่ดุหรอกน่า มันเป็นช่วงที่ละลายพฤติกรรมจากการเป็นเด็กให้ดูโตขึ้นเท่านั้นเอง แถมเรายังได้เพื่อน ยังได้มิตรภาพ อีกด้วย พี่เขาช่วยดึงเรามาเข้าสังคมและทำกิจกรรม ถึงจะมีดุกันบ้าง แต่ถ้าน้องได้มาอยู่ปี 2 น้องจะรู้เลยว่าการเตรียมรับน้องและวางแผนต่าง ๆ มันเหนื่อยมาก แทบไม่ได้พักเลยทีเดียว เอาหล่ะ จบบทความนี้ไป ก็หวังว่าทุกคนจะสนุกกับบทความนี้กันนะคะ