สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย ยังคงอยู่ในรอยความทรงจำของปวงชนชาวไทย ด้วยเพราะพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงงานหนักตลอดพระชนชีพเพื่อต่อสู้กับความทุกข์ยากของเหล่าอาณาราษฎรทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งถือเป็นจังหวัดชายแดน และเต็มไปด้วยการปลูกพืชผิดกฎหมาย พระองค์ทรงพระราชทานโครงการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ มากมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่ ดังเช่นโครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เปลี่ยนผืนดอยอันแห้งแล้งและถูกทำลายให้กลายเป็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่งอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุประการทั้งปวง ชาวไทยภูเขาจึงถวายพระสมัญญาเรียกขานพระองค์ให้ทรงเป็น “แม่ฟ้าหลวง” ของแผ่นดินหนึ่งในสถานที่ที่ผมอยากจะขอแนะนำเพื่อการศึกษา เรียนรู้ เกี่ยวกับแนวคิด การทรงงาน และพระปณิธาน ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตลอดจนการศึกษา เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของดินแดนล้านนา ซึ่งก็คือที่ อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนอุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง หรือที่หลายคนอาจรู้จักในชื่อ “ไร่แม่ฟ้าหลวง” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่ทำการของมูลนิธิส่งเสริมผลผลิตชาวเขาไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อขายสินค้าที่เป็นงานหัตถกรรมของชาวไทยภูเขา ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เรียนรู้และฝึกอาชีพให้แก่เยาวชนชาวเขาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยทรงพระราชทานทุนการศึกษา และฝึกงานตามแนวพระราชดำริ ก่อนออกไปประกอบอาชีพภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ไร่แม่ฟ้าหลวงแห่งนี้ จึงเปลี่ยนเป็น อุทยานศิลปวัฒนธรรมล้านนา เพื่อเก็บรักษางานพุทธศิลป์ รวมไปถึงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และสถาปัตยกรรมล้านนา เพื่อรักษาไว้ซึ่งองค์ภูมิและฐานความรู้เกี่ยวกับมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้แก่อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและสืบสานต่อยอดภาพถ่ายโดยผู้เขียนโดยภายในอุทยานศิลปวัฒนธรรมล้านนาแห่งนี้ มีส่วนจัดแสดงที่น่าสนใจ อาทิหอคำหอคำ ถือเป็นไฮไลท์ หรือสัญลักษณ์สำคัญของไร่แม่ฟ้าหลวงมาช้านาน โดยเป็นเรือนล้านนาโบราณ ได้รับแรงบันดาลใจจากงานสถาปัตยกรรมวัดปงสนุก จังหวัดลำปาง ซึ่งได้ถวายเป็นเครื่องไหว้สา หรือเครื่องสักการะแม่ฟ้าหลวง ในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ภายในตัวอาคารนั้นใหญ่โตและวิจิตรตระการตามาก (ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ) ซึ่งได้เก็บรวบรวมงานศิลปวัตถุและงานพุทธศิลป์อายุมากกว่า 200 ปี หลายชิ้น เช่น พระพร้าโต้องค์พระประธาน พระพุทธรูปโบราณทั้งศิลปะแบบพม่า ไทใหญ่ ลาว สิบสองปันนา เชียงตุง เมืองยอง และล้านนา รวมทั้งเครื่องไม้ที่ใช้ในทางพระศาสนา เช่น เชิงเทียนไม้แกะสลัก ตุงกระด้าง ขันดอก และหน้าบัน เป็นต้น ซึ่งงดงามเป็นอย่างยิ่งผมประทับใจหอคำหลังนี้เป็นพิเศษ นอกจากงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ดูมีมนต์ขลังแล้ว ภายในที่ใหญ่โตโอ่โถงแต่กลับเต็มไปด้วยความสงบ ผมสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนที่เข้ามานั่งสมาธิภายในหอคำนี้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนหอแก้วหอแก้ว เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการแบบถาวร ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับไม้สัก งานงานศิลปะที่ทำจากไม้ เช่น ศิลปะวัตถุไม้สัก อาทิ วงปีของไม้สักพระพุทธรูป นาคทัณฑ์ กาแล ช่อฟ้า หางหงส์-ป้านลม หัวเสา ดาวเพดาน แผงแล หำยนต์ขันดอก หีดธรรม หรือหีบพระธรรม ฯลฯ รวมไปถึงการจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตลอดจนการจัดนิทรรศการหมุนเวียน ระหว่างการดูชมในหอแก้วนี้ ผมรู้สึกว่ามีอะไรให้พิศชมมากมายพอสมควร ซึ่งบางชิ้นจะต้องใช้เวลาพินิจพิเคราะห์นานพอสมควรเนื่องจากเป็นของโบราณที่อายุหลายร้อยปี เช่นงานแกะสลักไม้ แทบไม่น่าเชื่อช่างฝีมือในยุคสมัยนั้นจะรังสรรค์ออกมาได้งดงามถึงเพียงนี้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพถ่ายโดยผู้เขียนนอกจากนั้นแล้วภายในอุทยานศิลปวัฒนธรรมล้านนายังมีอาคารที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมอันงดงามอื่น เช่น หอคำน้อย ศาลาคำ เรือนไม้หอม ศาลาสี่หน้า ฯลฯการเดินทางมาเยือนอุทยานศิลปวัฒนธรรมล้านนาของผมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการศึกษาหาความรู้ เพื่อเพิ่มพูนองค์ภูมิเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรม ล้านนาซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือการได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ที่ได้พระราชทานให้แก่ปวงชนชาวไทย ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ นั่นคือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฎรโดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสและการให้โดยไม่หวังสิ่งใดเป็นการตอบแทน เรื่องและภาพหน้าปกโดยผู้เขียน