ยามเมื่อดอกเสี่ยวบาน ฉันนั้นคิดถึงเธออยู่เสมอ เมื่อเธอจากไป เคยชี้ชวนชื่นชม พรรณไม้ออกกิ่งใบ จำได้ไหม กลิ่นหอมที่ห่วงหา ดอกท้อก่อเริ่มบาน ว่านสี่ทิศคอยอยู่ กลีบชมพูคู่พิงอิงแอบใจ ดอยช้างยังเฝ้ารอ แม่สรวยก็ถามไถ่ อีกนานไหม ที่เธอจะกลับมา หนทางคดเคี้ยวซับซ้อนเส้นทางวกไปวนมากว่าร้อยโค้งบนเชิงเขา ชวนให้เวียนหัวลึกลับเข้าไปไกลกว่า 4 ชั่วโมงจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ตลอดเส้นทางเห็นหมู่บ้านต่าง ๆ บนเขาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ ผู้เขียนสังเกตเห็นว่ามีโบสถ์เรียบ ๆ หลังเล็กและสุสานแบบคริสจักรตามหมู่บ้านหลายที่ มีคำสอนของพระเจ้าป้ายสีเหลืองเล็ก ๆ ติดตามเสาไฟ บางบ้านก็มีไม้กางเขน เวลาเริ่มมืดลงจากการเดินทางของผู้เขียนเริ่มต้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองสู่หมู่บ้านวาวี เมื่อมาถึงก็พบวาวีเป็นหมู่บ้านเล็กกลางหุบเขาล้อมรอบตลอดทุกทิศพร้อมพื้นที่ราบด้านล่างเป็นศูนย์รวมของบ้านเรือนของผู้คนในชุมชน มีตลาดสดดอยวาวีที่ขายผักผลไม้สดพื้นบ้านที่ชาวบ้านปลูกกันเองและเก็บมาจากป่า มีอาหารพื้นบ้านหน้าตาแปลกสำหรับผู้เขียน ร้านขายอาหารเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายข้าวซอย แม้กระทั่งร้านยาดองสมุนไพร ร้านขายชาแห้งดอยวาวีและเมล็ดกาแฟคั่วหลายร้าน ด้านเนื้อสัตว์ หมูที่นี่มีแต่หมูป่าเนื้อหมูดำที่ชาวบ้านมาชำแหระขาย หรือเนื้อไก่ก็ขายกันเป็นตัวสด ๆ แบบยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนที่นี่พูดภาษาจีนกันเป็นหลักซะส่วนใหญ่เพราะเป็นชุมชนจีนยูนหนานมีเพียงวัยรุ่นและเด็กเล็กรุ่นใหม่ที่พอพูดภาษาไทยแบบภาคกลางได้ นอกจากชุมชนคนจีนแล้วก็ยังมีชุมชนชาวอาข่าอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านใกล้ ๆ และอยู่ติดแนวเขตเทือกเขากับประเทศเมียนม่าร์ (พม่า) สถานที่ในชุมชนมี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านวาวี คริสจักรบ้านวาวี วัดวาวีหลวง (เป็นเรือนไม้ศักดิ์ล้านนาขนาดเล็กนิกายหินยาน) โรงเรียนวาวีวิทยาคม (โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นถึงปลาย) โรงเรียนกวงฟูวิทยาคม (โรงเรียนสอนภาษาจีนสนับสนุนโดยรัฐบาลไต้หวัน) วัดกวงยิงสือ (นิกายมหายาน) มัสยิดอัฏฏออะฮ์ดอยวาวี แสดงให้ห็นถึงการอยู่ร่วมกันหลากหลายชาติพันธ์ุและความเชื่ออย่างสงบสันติสุขในชุมชน ในปัจจุบันมีร้านสะดวกซื้อ 7 - 11 ที่ต้งอยู่ใจกลางชุมชนและรถสองแถวสีเหลืองรับส่งเข้าตัวเมืองแม่สรวยคอยอำนวยความสะดวก ทุกพื้นที่สามารถเดินเท้ามีทางเชื่อมต่อถึงกันได้นะคะ ผู้เขียนพักอยู่บนหอพักของโรงเรียนภาษาจีนประจำแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่สูงสุดของดอย มองออกไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นองค์เจดีย์พระธาตุวาวี ช่วงเช้าและช่วงเย็นจะเห็นทะเลหมอกร่องลอยคล้ายอยู่บนสวรรค์เป็นมุมวิวที่สวยงามที่มองลงมาจากหน้าที่พัก และเห็นวิวชุมชนที่ทั่วดอยจากด้านบ้านกลางดอยที่สวยงาม ดอยวาวีมีชื่อที่เป็นภาษาจีนเรียกว่า ฉาฝานชุน หรือแปลในภาษาไทยว่าชุมชนแห่งชาเพราะว่าที่นี่ เป็นปลูกไร่ชาอู่หลงแห่งแรกของประเทศไทย และต้นตระกูลบรรพบุรุษในชุมชนนี้อพยพมากจากยูนนานตอนใต้ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่มีการนำต้นชาอู่หลง ชาอัสสัม ชาอู่หลงชิงชิง มาปลูกในชุมชนนี้ด้วย ชาวบ้านในชุมชนยังคงปลูกต้นชาและเก็บใบชาขายกันจนถึงปัจจุบัน พร้อมมีโรงงานตากชาบรรจุชาที่ผู้อาวุโสในชุมชนก่อตั้งขึ้นมาสร้างรายได้อาชีพให้คนในชุมชนและมีการจัดจำหน่ายไปในตลาดจีนและไต้หวันอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีไร่กาแฟที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยก็คือ กาแฟวาวี ปลูกเป็นขั้นบันไดตามเชิงและเนินเขาหลายไร่สลับไปกับต้นชา บ้านของชาวบ้านแถวนี้ในชุมชนมีทั้งรูปแบบทันสมัยปกติและบ้านไม้ดั้งเดิมเก่าแก่สไตล์จีนยูนนานมี กำแพงหินก้อนใหญ่และบนป่าริมทางถนนที่เล็กเท่าขนาดซอยมีจุดกรอกน้ำชุมชนเป็นน้ำเย็นชื่นใจที่มีท่อชาวบ้านใช้ดื่มกินมานานและไหลมาจากป่าใสสะอาด ผู้สูงอายุที่นี่นิยมดื่มชาแดงกันมาก ๆ ผู้เขียนแวะนั่งคุยเล่นบ้านไหนก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยชาแดงร้อน ๆ จากกาต้มน้ำที่ตั้งบนเตาเจ้าของบ้านยกแยมลูกหม่อนมาให้ชิมแถมช่วยเก็บลูกหม่อนสด ๆ จากต้นจำนวนมากฝากให้ติดไม้ติดมือในตอนกลับอีกด้วย สื่อให้เห็นถึงน้ำใจที่งดงาม วิถีชีวิตที่ยังซุกซ้อนความเรียบง่ายไว้ให้ผู้เขียนสัมผัสอย่างอบอุ่นต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนมิตรภาพของผู้คนที่นั่นยังคงฝังและจารึกในใจของผู้เขียนเสมอ "กินอะไรมาหรือยัง" "ดื่มชาไหม" โบกรถใครก็ติดไปส่งขึ้นได้ปลอดภัยหมด ขอบคุณช่วงเวลาดี ๆ ที่ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าเป็น "โชคชะตาลิขิต" ถึงได้มีโอกาสนั่งพูดคุยและโอบกอดกันจนเป็นที่มาของบทความที่มีความสุขเรื่องนี้ค่ะ บรรยากาศโดยรอบดอยวาวี ยังคงสภาพป่าไม้ที่ค่อนข้างสมบูรณ์อากาศเย็นตลอดคืน ช่วงเช้าและเย็นจะมีลมพัดหนาวมีทะเลหมอกตลอดปีแต่ช่วงบ่ายมีแดดแรง บนหุบเขาเล็ก ๆ นี้ยังมีวิวไร่กาแฟวาวีและต้นชาชื่อดังแบบขั้นบันไดตลอดทางรอบดอยหลายแห่ง ร้านข้าวซอยอิสลาม หมูน้ำค้างเมนูขึ้นชื่อของหุบเขานี้และวิถีชีวิตชุมชนแบบดั้งเดิมของชาวบ้านท้องถิ่นรอคอยให้ทุกท่านไปสัมผัสอยู่นะคะ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญสามารถไปเยี่ยมชมได้ฟรี ไร่ชาอู่หลงแห่งแรกของประเทศไทย มีต้นชาอู่หลงที่อายุเยอะที่สุดในประเทศไทยพร้อมต้นชายอดเขียวตลอดทั้งปี พระธาตุดอยวาวี ที่สง่างามอยู่บนเขา ให้ขึ้นบันได 300 ขั้นแวะนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศิลปกรรมล้านนาที่เคารพศรัทธาของชุมชน ฟาร์มสตอเบอรี่ (Wawee Strawberry House) ชมฟาร์มลึกลับที่เล็กอบอุ่นเงียบสงบมีสตอเบอรี่ให้ชิมฟรี พร้อมจำหน่ายทั้งต้น ผลสตอเบอรี่สดและน้ำสตอเบอรี่ขวดแบบโฮมเมด เยี่ยมชมวิถีชีวิตของคนในชุมชน ที่ออกไปเก็บใบชาเป็นอาชีพตามปกติทุกวัน การตากใบชาของชาวบ้านและชิมชา ชาวอาข่าที่นี่ยังคงแต่งกายแบบดั้งเดิมใส่ชุดอาข่าเต็มยศที่สวยงามลงมาเก็บชาทุกวัน ชาวจีนยูนนานยังคงพูดภาษาจีนกันได้ทุกบ้านและใช้ภาษาของชาติพันธุ์ตัวเองในชีวิตประจำวัน ยังคงมีบ้านไม้โบราณสไตล์จีนหลงเหลืออยู่ พร้อมตลาดสดทุกเช้าขายผักผลไม้ป่าที่ชาวบ้านไปเก็บมาขายเช่น ลูกไหน มัน บ่าแฟน กระชาย ขิง หน่อไม้แบพื้นขายในราคาถูกมากค่ะ การเดินทาง 1. รถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนน รพช. ไปบ้านตีนดอย - บ้านใหม่หมอกจ๋าม 55 กม. เข้าบ้านโป่งกลางน้ำอีก 20 กม. ผ่านด่านตรวจ ตชด. 237 ถึงตำบลวาวี 2. รถประจำทาง รถสองแถวสีเหลืองสายแม่สรวย - วาวี ขึ้นได้ด้านหน้าของที่ว่าการอำเภอแม่สรวย เวลา 08.00 - 17.00 น. ขากลับขึ้นได้ที่หน้าร้านชาศิริภันณ์ บริเวณด้านข้าง 7 - 11 สาขาตำบลวาวี (06203) สอบถามเส้นทางได้ที่ สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย โทร 053-601299, 053-715690 สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี 053-605932, 053-605934 และองค์การบริหารส่วนตำบลวาวี 053-605950 วาวีถิ่นนี้ยังรอคอย อยู่บนดอยด้วยความห่วงใย รอวันเธอนั้นคืนมาใหม่ สู่อ้อมใจอุ่นไอในวาวี ขอพุทธอุทยานจงบันดาลคุ้มครอง ให้เธอผ่านพ้นเรื่องราว บนพื้นดินราบดอย ใครเล่าคอยบอกกล่าว เย็นลมหนาว ฉันเฝ้าคิดเธอ ที่ตั้งชุมชนดอยวาวี ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย สถานที่พักแนะนำ เลาลีฮิลล์รีสอร์ท ขอขอบคุณ เนื้อเพลง วาวีที่รอคอย โดย โกไข่ จุมพล ทองตัน ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2xTxCuj ภาพประกอบบทความ โดย ผู้เขียน (Moona K)