โลกสีเขียวแห่งธรรมชาติ ที่ ผาขุนแตะ ดอยผ้าขาวน้อย “ ผาขุนแตะ ดอยผ้าขาวน้อย ” ที่นี้ถือว่าเป็นดอยที่อยู่ในเทือกเขาดอยอินทนนท์และเป็นเขตพื้นที่ติดกับอุทยานแห่งชาติอวบหลวงด้วยครับดอยผ้าขาวน้อยแห่งนี้ เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยจะได้ยินหรืออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้สักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะผมคิดว่าจะมีสักกี่คนที่รู้จักครับ ขนาดผมก็พึ่งจะเคยได้ยินนี้แหละ และไม่ค่อยจะมีคนไปเที่ยวที่นี้กันเท่าไหร่ ซึ่งวันนี้พวกผมจะเดินทางขึ้นดอยผ้าขาวน้อยแถวบริเวณโรงเรียนบ้านขุนแตะ แห่งนี้ ซึ่งพวกผมจะต้องรอให้คนในพื้นที่ขับรถพาขึ้นไป ซึ้งท่านผู้นั้นก็ คือ ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งเท่าที่ผมได้ยินมาว่าการเดินทางที่นี้ค่อนข้างจะลำบากนิดหน่อยครับ และที่สำคัญสามารถขับรถกระบะสี่ล้อขึ้นไปได้ด้วยครับ แต่บางคนที่มาเที่ยวแบบคนเดียว หรือคนที่ชอบแบบ Adventure เขาก็จะขับมอเตอร์ไซร์ขี่ขึ้นไปได้เลย แต่ก็ต้องมีความ Safety ตัวเองด้วยน่ะ เพราะทางขึ้นเขานั้นค่อยข้างชันนิดหนึ่งและมีความโหดนิด ๆ แต่ผมไม่แน่ใจว่าที่หมู่บ้านนี้เขาจะมีมอเตอร์ไซร์ให้เช่าหรือเปล่าน่ะครับ และแล้วก็ถึงเวลาที่จะไปสนุกกันอีกแล้วครับท่าน ตาม Bamboo มาเลย Let go ในระหว่างสองข้างทางที่นั่งรถขึ้นไปบนดอยนั้นมีความเป็นธรรมชาติมาก ๆ ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวหลากหลาย นานาพรรณ ที่ถือว่าที่นี้เป็นพื้นที่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์เอามาก ๆ เลยทีเดียว น่าเสียดายทีผมไม่ได้ถ่ายรูปตอนนั่งรถขึ้นมาเพราะผมนั่งข้างใน Cap ครับ พอถึงจุดหมายปลายทางที่รถกระบะคันใหญ่ไม่สามารถขึ้นไปได้ ซึ่งพวกผมจะเตรียมตัวลงเดินทางขึ้นบนดอยด้วยสองเท้าของพวกเรานั้น ผู้ใหญ่บ้านเขาแนะนำให้พวกผมเดินขึ้นทางลัดเขาขึ้นไปเพราะมันจะใกล้กว่า น่าจะ ประมาณ 800 เมตร ถ้าผมฟังมาไม่ผิดน่ะครับ และยังมีอีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถขับขี่มอเตอร์ไซร์ขึ้นไปได้เส้นทางน่าจะประมาณ 2 กิโลเมตรน่ะครับ อ๋อผมลืมบอกไปว่าถ้าใครไม่อยากจะแบกกระเป๋า สัมภาระของตัวเองขึ้นไปนั้น ก็สามารถจ้างคนในพื้นที่เขาหาบขึ้นไปให้ได้ครับ ส่วนค่าใช้จ่ายเขาน่าจะคิดเป็นกิโล ล่ะ 30 บาท ถือว่าช่วยให้เขามีรายได้ครับ ถึงแม้หนทางเดินจะลาดชันนั้นเราก็สามารถเดินได้แบบเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน เดินไปถ่ายรูปไป ชมวิว แบบชิว ๆ ไปด้วยมันก็ทำให้เราหายเหนื่อยแล้วครับท่าน จุดบริเวณลานกางเต้นท์นอนที่นี้พื้นที่ไม่ค่อยจะใหญ่เท่าใหร่ครับ แต่ผมขอบอกเลยว่าพอได้ขึ้นไปแล้วโคตรสวยงาม ลมพัดเย็นดีมาก ๆ ครับนั่งเม้าท์มอยหอยสังข์กันไปเรื่อยเปื่อย....5555 พ่อครัว แม่ครัว กำลังเตรียมกับข้าวอาหารมื้อเย็น ร่วมด้วยช่วยกัน คนล่ะไม้คนล่ะมือ เดี๋ยวก็เสร็จครับ แต่งานนี้ผมบอกเลยว่า ผมรอกินอย่างเดียว ..อิอิอิ.เพราะมัวแต่ไปเก็บภาพอันสวยงามคับ นี้ไงครับที่ผมบอกว่ามันเป็นโลกสีเขียวแห่งธรรมชาติจริง ๆ ที่ผมได้มาสัมผัสกับบรรยากาศที่นี้ แถมยังได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอดเลยทีเดียว เพราะมองไปทางใหนก็มองเห็นแต่ภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวที่ปกคลุมได้อย่างสวยงาม แถมยังสามารถมองดูวิวธรรมชาติในบริเวณรอบ ๆ ตัวเรา ได้แบบ 360 องศา ได้อย่างแบบชนิดที่เรียกกันว่า ไกลสุดลูกหูลูกตากันไปเลย....อิอิอิ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ดอกหญ้าที่มันแห้ง ๆ ที่ใคร ๆ คิดว่ามันไม่สวยงามไม่มีค่าแล้วไม่มีความหมาย แต่ถ้าได้ลองมองอีกมุมหนึ่ง แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปนั้นแหละ มันคือสิ่งที่ดีแล้วมีคุณค่าและสวยงามเสมอในแบบฉบับของตัวมันเอง ซึ่งผมชอบที่จะถ่ายรูปในแบบที่ผมชอบมากกว่าและไม่เหมือนคนอื่นสักเท่าไหร่…อิอิอิ.. นอนดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าและลับไปจากยอดหลังภูเขาและบนยอดของต้นไม้ไปแล้วสำหรับในวันนี้ ซึ่งทำให้มองเห็นท้องฟ้านั้นเปลี่ยนสีเป็นแสงสีทองที่สาดแสงมาจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินไปได้แบบสวยงามพร้อมกับมีเสียงลมคอยพัดแรง ๆท่ามกลางธรรมชาติแห่ง มันเป็นอารมณ์ที่โคตร ฟิน ฟุด ๆ ไปเลยครับ พอถึงเวลาตอนกลางคืนพวกผมก็พากันไปยืนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่เต็มไปด้วยความสวยงามพร้อมกับความเงียบสงบ ได้ยินแค่เพียงเสียงสายลมที่พัดมาจนทำให้อากาศที่นี้นั้นหนาว เอามาก ๆ เลยครับ แล้วยังสามารถทำให้พวกผมมองเห็นแสงไฟจากหลอดนีออนที่อยู่ไกล ๆ จากตัวเมืองเชียงใหม่อีกด้วย ซึ่งมันทำให้ผมและเพื่อน ๆ ที่ไปเที่ยวในทริปนี้ด้วยกันต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันได้เลยว่า โคตรสวยโคตรมีความสุข เอามาก ๆ เลย เปรียบเสมือนกับว่าเราได้กินอาหารจานโปรดที่มีรสแซ่บที่สุดใน สามโลก นี้ก็ว่าได้ พอเวลาประมาณตี 05.30 น. ผมและเพื่อน ๆ ต่างพากันรีบตื่นเพื่อที่จะเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่เป็นความโชคดีของพวกผมครับที่ได้ถ่ายรูปกับพระจันทร์อีกด้วยในขณะที่รอดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าของอีกวัน ยามเช้าที่มีแสงสีทองอ่อน ๆ ที่มันกำลังสะท้อนโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า หรือกำลังจะพ้นบนหลังภูเขานั้นคือ แสงแรกยามเช้าตรู่จากดวงพระอาทิตย์ที่มองดูแล้วมันโคตรสวยงามที่สุดจริง ๆ โคตรฟินเอามาก ๆไปเลยทีเดียวครับท่าน ทางขึ้น - ลงไปหน้าผาที่ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของงานอีกจุดหนึ่งเลยทีเดียวครับ แต่ตรงนี้ผมและเพื่อน ๆในแก๊งค์นั้นต่างพากันค่อย ๆ เดินไต่ลงไปอย่างระมัดระวัง เพราะไม่มีอะไรที่ขวางกั้นเอาไว้เลย มีเพียงแค่เชือกเส้นเดียวที่พวกผมจะต้องจับไต่ลงไปในหน้าผาแห่งนี้ และแล้วก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ทุกคนมาเที่ยวที่นี้ไม่ควรแก่การพลาดเอามาก ๆ เลยกับการถ่ายรูปสวย ๆ ตรงหน้าผาแห่งนี้ ที่มีเพียงแค่หินยื่นออกมาเป็นทางเล็กเพื่อให้เราเดินเลาะขอบหินไปนั่งถ่ายรูปตรงหน้าผาแห่งนี้ ผมเห็นแล้วมันโคตร Amazing Thailand เลยครับ จนทำให้ผมลืมความกลัวไปเลย …5555. . รู้น่ะครับว่ามันสูง ถ้าเดินพลาดตกลงไปด้านล่างน่ะครับ บอกได้คำเดียวเลยว่า ไม่เหลือจร้า….5555.. แต่เราก็ต้องเสี่ยงเดินไปอย่างมีสติสัมปชัญญะ ที่จะต้อง Safety ตัวเองเป็นดีที่สุดครับ เพราะตรงนี้สามารถเข้าไปได้ทีล่ะคนครับท่าน และตรงจุดนี้ผมคิดว่ามันเป็นจุดที่ พีคสุด ๆ จุดหนึ่งเลยแหละ ที่มีทั้งความสวยงาม ความเสียวความตื่นเต้นที่มันเกิดขึ้นในเวลาเดียวพร้อม ๆ กัน และมันคือความท้าทายสำหรับตัวของผมเองถือเป็นอีกทริปหนึ่งก็ว่าได้ เพื่อที่จะได้เก็บภาพสวย ๆ งาม ๆ มาฝากให้กับเพื่อน ๆ ได้ชมอีกทริปหนึ่งครับ ภาพถ่ายจากมุมสูงที่ผาขุนแตะ ดอยผ้าขาวน้อยมาฝากอีกด้วย บอกเลยว่าโคตรสวยงามตามท้องเรื่องเลยแหละที่นี้...อิอิอิอิ. นี้เป็นร้านกาแฟสดของหมู่บ้านที่นี้ครับ ในความคิดของผมน่ะครับผมคิดว่าเขาชงกาแฟที่ได้รสชาติที่ถือว่าอร่อยดีอีกที่น่ะครับ ซึ่งกาแฟที่นี้ชาวบ้านจะเป็นคนปลูกเองและทำทุก ๆ กระบวนการด้วยตัวของเขาเองครับ ผมยังได้แอบจับดูเมล็ดกาแฟที่เขาตากแดดอยู่เลยว่ามันเป็นยังไง... 😂😂 ปล.ถ้าเพื่อน ๆ คนใหนอยากไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ผมบอกเลยว่าที่นี้เป็นสถานที่ ที่ตอบโจทย์ ความต้องการสำหรับเพื่อนคนใหนที่ชอบสายเดินป่าเลยครับท่าน. " ผาขุนแตะ ดอยผ้าขาวน้อย " ที่ตั้ง : อยู่ในเขตบ้านขุนแตะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160 . อัตราค่าเข้าชม : ไม่มีค่าบริการ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน : "Bamboo98"