เชียงใหม่มั้ย? คำถามง่าย ๆ ที่อยากชวนเพื่อนไปเที่ยวด้วย และเมื่ออยากไปขึ้นดอยมันก็ต้องชวนเพื่อนไปหลาย ๆ คนสิ มันถึงจะสนุก จริงมั้ย? ย้อนกลับไปเริ่มต้นทริปในเช้าวันอังคาร ที่เรายังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ออกเดินทาง เรามาถึงเชียงใหม่ในเวลาสาย ๆ ไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าสู่ดอยอินทนนท์จุดหมายของวันนี้กันเลย ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ภาคเหนือของประเทศไทยอากาศเริ่มอุ่นขึ้น แต่มันยังคงหนาวจัดสำหรับชาวเมืองอย่างเรา ๆ เริ่มหมดฤดูกาลการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวเริ่มเบาบางลง ดอกพญาเสือโคร่งที่เบ่งบานให้ชมในหน้าหนาวก็ไม่มีแล้ว แต่ทำไมเราถึงเลือกที่จะไปเที่ยวช่วงนี้ เมื่อเราได้มาสัมผัสบรรยากาศสงบ ๆ อากาศหนาว ๆ เหมาทุกดอย นี่แหละน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ของการออกเดินทางของเรา ขนส่งช้างเผือก - จอมทอง - อินทนนท์ จากจอมทองไปสู่อินทนนท์ คุณลุงคนขับจะจอดให้เราลงตรง 3 แยก แล้วบอกให้เราเดินเขาไปอีกเล็กน้อยเพื่อไปยังที่พัก 👉 Camp Inthanon เราจองแบบ Tent Super VIP ที่พักบรรยากาศดี และสะดวกสบายมาก ซึ่งในคืนนี้ทั้งแคมป์มีเพียงเรากลุ่มเดียวเท่านั้นที่เข้ามาพัก เรามาถึงในช่วงบ่ายแก่ ๆ เก็บข้าวของเสร็จก็ออกไปหาของกินกันบริเวณใกล้เคียง เราขอ Recommend สตอเบอรี่ที่อินทนนท์ อร่อยมากกกก และถูกมากเก็บมาสด ๆ จากไร่เลย มื้อเย็นวันนี้คือเมนู Signature บนดอย หมูกระทะที่เราสามารถสั่งจากที่พักได้เลย ชุดละ 500 บาท เที่ยวนอกเทศกาล แต่อากาศยังหนาว แก๊งเดียวทั้งแคมป์ มันโครตดีเลยแกรรร~ ต้องลองมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ ส่วนใครที่จะไปเที่ยวกิ่วแม่ปาน หรือสถานที่เที่ยวต่าง ๆ บนดอยอินทนนท์ ก็สามารถติดต่อรถเหมาขึ้นไปจากที่พักได้เลย เตรียมตัวไปเที่ยวกิ่วแม่ปานกัน~ 05.30 น. คุณลุงคนขับรถนัดมารับเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ความหนาวที่ระดับ 10 องศา ตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบริเวณนี้จะมีร้านขายของต่าง ๆ ทานข้าวให้อิ่มก่อนไปลุยกันต่อนะคะ 07.00 น. ได้เวลาไปเดินกิ่วแม่ปานกันแล้ว ลุยยยยย! เลือกไปแต่เช้าเลยนะยังไม่มีคน โคตรดียยยย์ Note: เราติดต่อเหมารถจากที่พัก และคุณลุงอาสามาเป็นไกด์นำทางและพาเที่ยว ส่วนใครนำรถไปเองแล้วจะไปเดินกิ่วแม่ปานสามารถติดต่อไกด์ชาวบ้านได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยนะคะ กรุ๊ปละ 200 (ไม่เกิน 10 คน สามารถจอยกรุ๊ปกับคนอื่นได้ค่ะ) เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เตรียมร่างกายและเสื้อหนาวมาให้พร้อม เพราะบอกเลยมามาตอนเช้าแบบนี้ มันหนาวมากกกกก~ ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง แล้วแต่ระยะเวลาหยุดพัก ทางเดินเป็นทางบันได สลับพื้นดินบ้าง ค่อนข้างเดินง่ายแต่เหนื่อยใช่เล่น เรานี่หอบตั้งแต่ยังไม่ถึงจุดพักจุดแรกเลยค่ะ อย่าลืมพกน้ำดื่มขวดเล็กและลูกอมติดตัวมาด้วยนะคะ เส้นทางเดินจะเป็นวงกลมผ่านธรรมชาติให้เราได้ศึกษามากมาย การเดินในช่วงแรกจะเป็นป่าดิบชื้น ทางลาดชันบ้าง อากาศเย็นสบายตลอดทาง เราพบสิ่งต่าง ๆที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้มากมาย สิ่งที่เราชอบมากตรงนี้น่าจะเป็นวิถีของป่าซ่อมป่า ป่าเมฆที่มีลมพัดรุนแรงต้นไม้จะหักโค่น เปิดให้แสงแดดส่องลงพื้นเพิ่มความร้อนในดิน ต้นไม้ที่ทนร้อนไม่ได้ก็ตายลง พืชพันธ์ุที่ชอบแดดก็จะเติบโตขึ้นมาแทน และเมื่อดินมีความชื้นมากขึ้นไม้ยืนต้นก็จะโตเร็ว จึงเข้ามาซ่อมแซมเติบโตยึดพื้นที่กลับคืนเป็นวงจรฟื้นฟูและซ่อมแซมตนเองของป่าโดยแค่ว่าทุกอย่างมันต้องอาศัยเวลา เมื่อเราเดินทะลุป่าทึบจะเจอกับทุ่มหญ้าสีทองอร่าม บริเวณนี้จะเป็นทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ ทุ่งหญ้าโล่งกว้างสัมผัสลมประทะหน้าเข้าอย่างจัง ๆ ลักษณะของพื้นที่เป็นที่โล่ง ดินค่อนข้างตื้น และมีหินโผล่ มีหญ้าปกคลุมสลับกับไม้พุ่มและพืชล้มลุกที่พบในเขตอบอุ่น เป็นจุดที่สวยมากเลยค่ะ เดินกันต่ออีกนิดก็มาถึงจุดชมวิว จะมีระเบียงไม้ยืนออกไปให้เราไปยืนรับลมกันเลย ขอบอกว่าตรงนี้ลมแรงมากกกกก เราจะเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบ ซึ่งสามารถมองเห็น อำเภอแม่แจ่มที่ตั้งของนาขั้นบันไดอีกด้วย รับลมสูดอากาศกันให้พอใจไปเลย ฮีลปอดกันให้เต็มที่ แต่ไม่สามารถโต้ลมได้นานเพราะมันหนาวมากไม่ไหว ฮ่า ๆ เดินทางต่อไปยังจุดต่อไป เราจะพบความสวยงามของธรรมชาติที่หลากหลายอย่าง ผาแง่มน้อย และพืชพันธ์ุหายากอย่างต้นกุหลาบพันปี ดอกสีแดงสดที่จะออกดอกปีละ 1 ครั้ง ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ จุดที่เรียกว่า "กิ่วแม่ปาน" ทัศนียภาพแนวสันเขาที่มีความแตกต่างกันมาก ด้านในชุ่มชื้น ด้านนอกแดดร้อน เพราะมีเฉพาะไม้บุกเบิกขนาดเล็ก สาเหตุความเสียหายจากไฟป่าในอดีต หน้าดินถูกทำลายสภาพพื้นที่เป็นแนวหินผา ประกอบกับมีลมแรงจึงทำให้ไม้ใหญ่ไม่สามารถเติบโตอยู่ได้ ป่าสองมุมจึงเป็นภาพสะท้อนเรื่องราวในอดีต ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และช่วยกันปกป้องรักษาให้ธรรมชาติที่เป็นแหล่งพึ่งพิงของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดยังคงอยู่ต่อไป กิ่ว หมายถึง ส่วนที่แคบที่สุดบนสันเขา แม่ปาน หมายถึง ลำห้วยแม่ปาน ที่มีจุดกำเนิดของน้ำจากขุนแม่ปานค่อย ๆ ไหลรินรวมกันเป็นร่องน้ำ สู่น้ำตกแม่ปาน กิ่วแม่ปาน จึงหมายถึง พื้นที่ส่วนที่แคบที่สุดบนสันเขาแม่ปาน เดินต่อสักพักจะมีทางแยกให้เดินเข้าไปชมวิวมุมสูงของพระธาตุนภเมทนีดล และ พระธาตุนภพลภูมิสิริ ที่อีกฟากเป็นวิวภูเขาที่มีความสวยงาม แสงแดดที่เริ่มสาดส่องในยามสายของวัน ทำให้อุณหภูมิอุ่นขึ้นเล็กน้อย ช่วยคลายความหนาวของสายลมที่พัดผ่านไปได้บ้าง เกือบ 10 โมงเช้า เราเดินกลับมาถึงจุด Start ทั้งเหนื่อย ทั้งหนาว แต่คุ้มค่ากับการมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต สิ่งที่ได้จากกิ่วแม่ปาน นอกจากความสวยงามของธรรมชาติที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ให้เราได้ศึกษาแล้ว มันคือการเรียนรู้การใช้ชีวิต การอยู่ร่วมกัน การอิงอาศัย การฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิม เพื่อการมีชีวิตรอด ซึ่งที่นี่นับเป็นธรรมชาติที่หลากหลาย ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่า ตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ เพื่อให้แหล่งต้นน้ำได้ยังคงอยู่เพื่อหล่อเลี้ยงทุก ๆ ชีวิตต่อไปอย่างยั่งยืน หลังจากออกจากกิ่วแม่ปาน คุณลุงพาไปแวะเที่ยวที่ต่าง ๆ บนดอยอินทนนท์ Landmark ที่ต้องห้ามพลาด - จุดสูงสุดแดนสยาม - พระธาตุนภเมทนีดล และ พระธาตุนภพลภูมิสิริ - น้ำตกวชิรธาร จบแล้วสำหรับทริปนี้เราพาไปเที่ยวดอยอินทนนท์ - กิ่วแม่ปาน ฝากติดตาม ep. หน้าด้วยนะคะว่าเชียงใหม่ปลายหน้าหนาวนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันอีก ฝากติดตาม Facebook ด้วยน้าาา 👉🏻 https://www.facebook.com/wanglaewpainai/