สวัสดีทุกคนที่ผ่านเข้ามานะ เราจะมาบันทึกการเดินทาง จากการไปเชียงใหม่คนเดียว 4 วัน 3 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว จากพิษณุโลก บางคนอาจจะเคยเห็นบทความนี้คุ้นๆใน Twitter ใช่ค่ะ เราเคยเขียนลง Twitter มาแล้ว ครั้งนึง นี่ถือว่าเป็นฉบับปรับปรุงละกัน มาเริ่มกันดีกว่า การเดินทางส่วนมากของเราจะเป็นการใช้บริการ GRAB BIKE และรถแดง #วันที่1 เราตรงไปซื้อตั๋วที่สถานีไม่ได้จองอะไรมาก่อนเลย เกือบไปไม่ทันด้วยเพราะเราตื่นสาย เป็นรถไฟท้องถิ่น 7.29 น. ราคา 65 บาท ถูกมากจ้าา แต่แน่นอนว่าเป็นเบาะแบบในรูป แต่เราไม่ซีเรียส มีเพื่อนร่วมทางเป็นคุณป้าเสื้อชมพูจนถึงเด่นชัย (ขอบคุณคุณป้าที่ชวนเราคุยนะคะ ไม่เหงาเลย ถ้าคุณป้ามาเจอรูปในนี้ก็ ขอบคุณอีกทีนะคะ) ***เกร็ดความรู้ : ขบวนรถท้องถิ่น (Rural Commuter) เป็นขบวนรถที่จัดเดินเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างจังหวัด หยุดทุกสถานีและป้ายหยุดรถ รถพ่วงจะเป็นรถโดยสารนั่งชั้น 3 ตลอดทั้งขบวน โชคดีที่วันนั้นรถไฟคนน้อย เลยนั่งไปแบบสบายๆ ไม่เบียดเสียด เราชอบดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆ สักพักป้าคนนั้นก็ย้ายไปนั่งเบาะว่างข้างๆ เพราะแดดเริ่มสาดส่องเข้ามา แล้วมีคุณป้าอีกคนเข้ามานั่งแทน แล้วให้ลางสาดเรามา1พวง จากที่ไม่เคยกิน ก็ได้กินแหละ เราชอบรถไฟที่มีคนนำของขึ้นมาขาย ทำให้เราไม่หิว และเราก็กินตลอดทางเลย 😁 เราชอบบรรยากาศข้างทางรถไฟนะ เป็นอารมณ์ที่แบบ รถทัวร์ไม่เห็นแน่ๆ รถส่วนตัวก็ไม่เจอแบบนี้ หุบเขา ไอเย็นจากป่า และอุโมงค์ ภาพตัด เพราะหลับ ขอลงภาพอีกทีช่วงตอนอุโมงขุนตานละกัน เราชอบมาก เพราะตอน ป.4 ครูเคยสอนเรื่องนี้ว่าเป็นอุโมงรถไฟที่ยาวสุดในไทย ตอนรถไฟเข้าไปอยู่ในนั้นเกือบ2นาทีครึ่ง กับความยาวประมาน 1.3 กม. เลยอยากไปเห็นกับตา นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกมารถไฟ วิวสวยมากจ้ะ รถไฟบนเขา ชอบๆ ฝนตกเล็กน้อย // 7 ชม. ผ่านไป ถึงเชียงใหม่ละเจ้าาาา หลังจากนั้นก็เรียก grab car มารับไปส่งที่ hostel เดี๋ยวรีวิว hostel ต่อจ้า hostel ที่เราไปพัก ชื่อ bakeroom hostel นิมมาน ซ.17 เจ้าของเป็นคนเกาหลี เราเลือกห้องแบบแยก ช/ญ ห้องเราเป็นห้อง ญ 4 เตียง ห้องน้ำในตัว จองผ่านอโกดา 2 คืน 493 บาทเอง ถูกมากแม่ เราได้เตียงบน มีเพื่อนร่วมห้องเป็นสาวเกาหลีอีกสองคน ทักทายกันบ้าง แต่ก็เข้าออกไม่ตรงกันเลยไม่ค่อยเจอ ต้องบอกก่อนว่า ไม่มีแพลนอะไรทั้งนั้น จะไปไหน กินอะไร คือหารีวิว ณ ตอนนั้นเลย #วันที่2 เรียกได้ว่าเป็นวันแห่งการกิน กินจริงๆ ตอนเช้าหาของกินก็ search ไปว่า อาหารเช้า นิมมาน ไปได้ที่ เข่งติ่มซำ อร่อยดีนะ เข่งละ25บาท กิน4เข่ง หมดไป 115 บาทรวมน้ำเปล่า ต่อด้วยร้านกาแฟกัมปอ ของพี่บี้ the star เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ในนิมมาน ซ.13 ราคาไม่แพง เราเป็นแฟนคลับอยู่แล้ว เลยตั้งใจไปแหละ สั่ง blue soda ไป 50 บาท แต่เราลืมถ่ายรูปไว้ มาถึงก็ดูดพรวดดด! ในนิมมาน มีร้านน่ารักที่ตกแต่งได้ชิคสุดๆหลายร้านเลย เราชอบเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ข้าวเช้ายังไม่ย่อย แต่ไปร้านกาแฟต่อ ทีนี้จะอ้วก เลยเดินย่อยไป one nimman ที่อยู่นิมมาน ซ.1 ใช่ เราเดินจาก ซ.13 ไป ซ.1 จริงๆคือ ที่พักอยู่ ซ.17 คือเดินเยอะมาก one nimman ก็คือ community นึงที่เป็น landmark หนึ่งในนิมมาน ขายของปกติ เดินเพลินๆ ถ่ายรูปสวย ไม่ทันไร เที่ยงละ ต้องกินข้าวเที่ยง เปิดรีวิว ได้จบที่ ข้าวซอยนิมมาน ไปรอ3คิว ก็ได้กิน สั่งข้าวซอยไก่+ลาบคั่ว หมดไป 197 บาท ตอนกินเสร็จ อิ่มมากกก อิ่มเกินไป เพราะมาคนเดียว ไปต่อกันเถอะ! เราเรียกgrab ไปบ้านข้างวัด ชอบมากก เข้าไปแล้วรู้สึกว่า เนี่ย นี่คือที่ของชั้น มันคือแหล่งรวมความพื้นเมือง ความอาร์ตต เดินวนไปวนมาถ่ายรูปสวยกับของแฮนด์เมด ผ้าพื้นเมือง มี workshop ให้ทำด้วยนะ แต่เราไม่ได้ทำ เพราะต้องเซฟเงินก่อน ยังไม่หมดวันที่ 2 เราก็เรียก grab ไปไหว้พระวัดพระสิงห์กับวัดปราสาท ในส่วนของวัดปราสาท เราชอบดีไซน์มาก เป็นวิหารไม้ทรงสมัยก่อน ไม่รู้ศิลปะล้านนาหรือพม่า แต่เราเห็นแล้วชอบเลยเดินเข้าไปถ่ายรูป ตกเย็นเริ่มเหนื่อยเหมือนกันนะ เลยไปหาอะไรกินใน food court MAYA เพราะมันมีแอร์ ขอหาที่หลบเย็นๆนิดนึง หลังจากตะลุยเดินมาทั้งวัน 😂😂 แล้วก็เดินกลับที่พัก จากเมญ่า มาซอย17 ชีพจรลงเท้า หมดวันที่ 2 ขอจบ EP.1 ไว้ด้วยเย็นวันที่ 2 น้า เดี๋ยวเราจะมาเล่าต่อว่า วันที่ 3-4 เราไปทำอะไร ที่ไหนบ้าง สรุปค่าใช้จ่าย ใน EP.2 ค่ะ ใช้วันเวลาว่างๆ ออกไปหาประสบการณ์กันนะคะ