เด็กปัจจุบันเป็นเด็กที่อยู่ในยุคที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีไม่สิ้นสุด จึงมีความแตกต่างไปจากเด็กยุคเดิมที่เคยเป็น การว่านอนสอนง่ายมีน้อยลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการเลี้ยงดูที่แตกต่างไปจากเดิมประกอบกับเด็ก ๆ สามารถเข้าถึงเครื่องมือสื่อสารอย่างง่ายดาย บางคนสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งผลทำให้การทำงานของสมองและสายตาถูกรบกวนให้เกิดความเสียหายได้ การเลี้ยงดูของบางครอบครัวอาจมีความจำเป็นต้องปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่กับการเล่นเกมตามลำพังเป็นเวลานานมากน้อยแตกต่างกันไป เมื่อเด็ก ๆ เข้าสู่วัยเรียนหลายคนมีพฤติกรรมไม่พร้อมที่จะเรียนหนังสือเหมือนเพื่อน ๆ บางคนไม่สามารถเรียนรู้ได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น บางคนอาจมีพฤติกรรมไม่เชื่อฟังผู้ปกครองที่ส่วนหนึ่งเป็นปู่ ย่า ตา ยาย และบางคนมีพฤติกรรมดื้อซนร่วมด้วย เหล่านี้คือลักษณะของเด็กยุคดิจิทัลในปัจจุบัน การชอบอ่านหนังสือคงเกิดขึ้นได้ยากหากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ช่วยด้วยวิธีการที่เหมาะสม อาจทำให้เด็ก ๆ มีปัญหาการอ่านที่จะมีผลต่อการเรียนในอนาคตได้ วันนี้มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอกถึงวิธีทำให้เด็ก ๆ ยุคดิจิทัลหันมาสนใจการอ่าน ชอบอ่านหนังสือมากขึ้นซึ่งแน่นอนว่าหากทำได้จะเท่ากับว่ามีชัยในการสอนให้เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ได้ดีไปกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว วิธีการสอนเด็ก ๆ ให้สนใจอ่านหนังสือเข้าใจสิ่งที่อ่านรักการอ่าน พ่อแม่ ผู้ปกครองและครูสามารถช่วยได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ ลองติดตามแล้วนำไปใช้กับเด็ก ๆ ที่บ้านและที่ห้องเรียนกัน ตัวอย่างหนังสือสำหรับเด็ก ที่ใช้ในการอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ ฟัง ก่อนอื่นผู้ปกครองต้องสร้างบรรยากาศในการส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นภายในบ้าน หรือภายในห้องนอนของเจ้าตัวเล็กของเราก่อน อาจเป็นมุมหนังสือเล็ก ๆ น่ารักในห้องนั่งเล่นก็ได้ตามความเหมาะสม จัดหาหนังสือเล่มที่เด็ก ๆ ชอบหรือหนังสือที่น่าสนใจเหมาะกับเด็กวัยนี้ เช่นหนังสือนิทานที่ให้ความสนุกสนาน นิทานลึกลับ หนังสือให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่เหมาะกับเด็ก ๆ เป็นต้น อีกวิธีที่อยากแนะนำคือการหาเวลาพาเด็ก ๆ ไปเลือกซื้อหนังสือที่ชอบด้วยตนเองจากร้านหนังสือ แม้บางคนจะยังอ่านไม่ได้หรืออ่านยังไม่คล่อง ผู้ปกครองต้องให้ความสนใจแสดงให้เห็นว่าเราจะเป็นผู้อ่านให้เขาฟังเองในเบื้องต้น แล้วค่อยมาเริ่มขั้นตอนของการสอนให้ชอบอ่านหนังสือกัน วิธีการสอนให้เด็ก ๆ ชอบอ่านหนังสือเริ่มจากการที่พ่อแม่ ผู้ปกครองอ่านหนังสือให้ฟังก่อน เป็นการอ่านเรื่องราวจากหนังสือที่ชอบให้เด็ก ๆ ฟัง เนื่องจากการอ่านหนังสือให้ฟังจะช่วยกระตุ้นความสนใจของเด็ก ๆ ให้เกิดการอยากฟัง อยากเรียนรู้ และทำความเข้าใจ สอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับทำงานของสมอง Brain –Based Learning หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า BBL การอ่านต้องเริ่มจากการแนะนำหนังสือที่อ่านตั้งแต่ชื่อเรื่อง ชื่อผู้แต่ง ผู้วาดภาพ แล้วจึงเปิดหนังสือให้เห็นภาพ ชี้ตัวหนังสือขณะที่อ่านอย่างช้า ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถติดตามเรื่องราวได้เข้าใจ สายตาของเด็กจะมองภาพและตัวหนังสือขณะฟัง สมองจะทำความเข้าใจไปพร้อมกับเสียงอ่านที่ได้ฟัง เป็นการทำงานของสมองที่สัมพันธ์กันทั้งการรับภาพและเสียง ก่อให้เกิดเป็นความรู้ความเข้าใจที่จดจำได้อย่างถาวร เด็ก ๆ จะรู้สึกชอบและสนใจอยากอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น ผู้ปกครองต้องมีเวลาและรู้สึกสนุกไปกับการอ่านหนังสือให้ฟัง เท่าที่เด็ก ๆ สนใจและอยากฟัง ไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กยุคดิจิทัลแต่ละคนจะสนใจอ่านหนังสือมากกี่เล่ม จนนำไปสู่การอ่านเองและชอบการอ่านหนังสือได้ในที่สุด ผลพลอยได้ที่ตามมาจากการอ่านหนังสือให้เด็ก ๆ ยุคดิจิทัลฟัง คือช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิในการฟังมากขึ้น สนใจในการอ่าน และชอบอ่านหนังสือ นำไปสู่การมีสมาธิในการฟังเมื่ออยู่ในห้องเรียน และเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูผู้สอนปรารถนาให้เกิดขึ้นกับเด็กยุคดิจิทัลทุกคนที่มีเอกลักษณ์แตกต่างไปจากเด็กยุคเดิมที่เคยเป็นมา รู้อย่างนี้แล้วผู้เขียนหวังว่าเด็ก ๆ หลายครอบครัวคงจะมีโอกาสได้ไปเลือกซื้อหนังสือที่ชอบ ได้ฟังเรื่องราวจากการอ่านให้ฟังของพ่อแม่ผู้ปกครอง ร่วมกับการอ่านให้ฟังจากคุณครูที่ห้องเรียน พร้อมที่จะเติบโตเป็นเด็กยุคดิจิทัลที่ชอบอ่านหนังสือและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกันทุกคน เครดิตภาพ : ผู้เขียนและลูกศิษย์ จากห้องเรียนโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่