ในช่วงเวลานี้เข้าฤดูฝนแล้ว มองไปทางไหนก็เขียวขจีไปหมด หลาย ๆ คนคงมองหาที่เที่ยวกันอยู่ใช่ไหมคะตอนนี้ เพราะหลายคนคงเครียดกับงาน เครียดกับหลาย ๆ เรื่องที่เกิดขึ้น อยากจะหลีกหนีความวุ่นวายไปพักกายพักใจและใช้ชีวิตแบบช้า ๆ เพื่อผ่อนคลายกันใช่ไหมค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบและเหมาะกับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ใกล้ธรรมชาติ ใช้ชีวิตแบบช้า ๆ เพื่อที่จะชาร์จพลังให้กับใจและกายเพื่อมาสู้กับอะไรอีกมากมายกันต่อไปค่ะ นั่นก็คือ “เชียงดาว” อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มองเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาว หลังจากดูรีวิวจากเพื่อน ๆ หลายคนแล้วก็อยากจะสัมผัสบรรยากาศแบบนั่นดูบ้าง การเดินทางครั้งนี้ผู้เขียนเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ และเช่ารถยนต์ขับไปเองค่ะ ไปกันทั้งหมด 3 คน เป็นการเที่ยวตามรีวิวโดยแท้เลยหละคะ😅 เมื่อได้รถเช่าเรียบร้อยแล้วเราก็ออกเดินทางกันเลย เส้นทางเราก็ใช้ Google Maps ในการนำทางเราค่ะ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางที่จะไปเชียงดาวค่ะใครมาถึงก็ต้องมีแวะถ่ายรูปกันค่ะ เป็นถนนที่ต้นไม้สวย ร่มรื่น บรรยากาศดีมาก ๆ ถึงแล้วค่ะ เราพักกันที่นี่ค่ะ บ้านสายหมอกโฮมสเตย์ เชียงดาว ซึ่งที่นี่ชาวบ้านเขาเป็นเจ้าของเองดูแลเองทำอาหารให้เราเองค่ะ เพื่อน ๆ ต้องจองก่อนล่วงหน้านะคะ ซึ่งกว่าเราจะจองได้ก็ต้องโทรกันหลายรอบเลยหละคะ เพราะที่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยจะมีสัญญาณโทรศัพท์ค่ะ บางครั้งก็โทรไม่ติดนะคะ ค่าที่พักเขาคิดเป็นรายหัว ๆ ละ 600 บาท มีอาหารให้ 2 มื้อ คือมื้อเย็นกับมื้อเช้าค่ะ อ้อ!ที่หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โซล่าเซลล์นะคะ ฉะนั้นประมาณ 2 ทุ่มก็จะไม่มีไฟฟ้าใช้แล้วค่ะ เพื่อน ๆ ควรพก power bang ไปด้วยนะคะ เมื่อเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาสำรวจหมู่บ้านแล้วหละคะ เชียงดาวเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ เงียบสงบ และยังคงความเรียบง่ายของวิถีชีวิตของคนที่นี่ไว้อย่างสมดุลกับการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักยังสัมผัสได้ถึงความสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไป เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริง ๆ เหมาะสำหรับใครที่อยากจะหลบความวุ่นวายมาเจอความสงบสุข และใช้ชีวิตแบบช้า ๆ อากาศดี ๆ มีความเป็นกันเองของชาวบ้านเหมือนเราได้อยู่บ้านตัวเองประมาณนั้นเลยค่ะ หรือใครที่กำลังอกหักก็มาพักใจที่นี่ได้นะคะ 😅โฮมสเตย์ของที่นี่เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปได้หมดเลยนะคะ เขาไม่หวงค่ะ วิวถ่ายรูปของบ้านดอยเคียงดาว สวยจังค่ะ😊 วิวถ่ายรูปของบ้านหมอกตะวันค่ะ สวยใช่ไหมหละค่ะ คือสวยทุกที่เลยค่ะ และที่พลาดไม่ได้เลยที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปกันคือมุมมหาชนค่ะถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลยหละคะ จากที่เดินสำรวจจนทั่วแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารเย็นของเราแล้วหละคะ ซึ่งทางที่พักก็จะทำจัดเตรียมเอาไว้ให้ เป็นอาหารง่าย ๆ เช่น ไข่เจียว ต้มจืด ผัดผัก น้ำพริก ประมาณนี้ค่ะ ซึ่งน้ำพริกของที่นี่อร่อยมาก ๆ เลยนะคะใครติดใจก็สามารถซื้อกลับไปทานได้หรือจะซื้อกลับไปฝากเพื่อน ๆ ก็ได้ค่ะ อร่อยจริง ๆ นะผู้เขียนชอบมากเลยค่ะ ซื้อกลับมาตั้งหลายกระปุกแหนะ 😊 หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้วก็นั่งคุยกันเพลิน ๆ ค่ะ ซึ่งที่นี่มืดเร็วมาก เราก็รีบอาบน้ำเพราะที่นี่น้ำเย็นมากกกกกกกกกก 😂 เพื่อที่จะมารอดูดาวกันค่ะ แต่ที่ไหนได้ เราก็มากับดวงอะนะ ฝนตกจ้า อดดูดาวเลย 😅 ทำไรหละทีนี้โทรศัพท์ก็เล่นไม่ได้สัญญาณไม่มี นอนคุยกันไปค่ะ คุยกันเป็นสิบ ๆ เรื่อง คุยกันจนหมดเรื่องคุย จนหลับกันไปเองนั่นแหละ เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาดูหมอกในตอนเช้า นอนค่ะนอน😅 ซึ่งเรามองว่าการที่เราไม่มีโทรศัพท์ก็ดีเหมือนกันแฮะ ทำให้เราสนใจกับคนรอบข้างมากขึ้น พูดคุยกันมากขึ้น เพราะถ้าเรามีโทรศัพท์เราก็จะสนใจหน้าจอโทรศัพท์มากกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา เช้าแล้ว ตื่นมาดูหมอกกัน เอิ่ม!อันนี้เราต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่าแล้วแต่ดวงค่ะว่าเราจะเจอหมอกไหม😂 ซึ่งก็อย่างที่เห็นค่ะ ผู้เขียนมีดวงทางเรื่องนี้สุด ๆ 😅เจอหมอกนิดหน่อย แต่ก็สวยนะคะ บรรยากาศก็ดี ยังไงผู้เขียนก็ชอบที่นี่อยู่ดีหละคะ วิวสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ยามเช้าค่ะ จากนั้นทางที่พักก็จะเอาอาหารเช้ามาส่งค่ะ เป็นข้าวต้ม โอวัลติน กาแฟ ให้เราค่ะ กินกาแฟแลภูเขากันไปจ้า โฮมสเตย์หลักร้อยวิวหลักล้านค่ะเพื่อน ๆ คือแบบคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เอาจริง ๆ เกินคุ้มเลยหละค่ะสำหรับ 600 บาทที่เราจ่ายไปได้ทั้งที่พักและอาหาร 2 มื้อ พร้อมกับวิวสวย ๆ บรรยากาศสุดจะบรรยาย ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมทุกคนที่มาเที่ยวถึงได้หลงรักที่นี่และมาซ้ำกัน วิวถ่ายรูปของบ้านสายหมอกค่ะ วิวดีสุด ๆ เลย ใช่ไหมหละคะ บรรยากาศสุดฟิน😊 ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่แล้ว สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เพื่อชาร์จพลังให้กับตัวเอง แล้วกลับไปสู้ต่อค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะเพื่อน ๆ ที่นี่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมหละคะ ใครที่อยากพักกายพักใจ ถ้ามีโอกาสผู้เขียนแนะนำที่นี่นะคะ ข้อมูลติดต่อบ้านสายหมอกนะคะ Facebook ; บ้านสายหมอก โฮมสเตย์ เชียงดาว โทร ☎️ ; 090-760-8819 ; 093-181-9507