การเดินทางเป็นความทรงจำอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องนึกถึงก็สามารถทำให้คิดถึงบรรยากาศนั้นเองได้โดยธรรมชาติ จะมีสักกี่ที่เชียวล่ะ ที่เราเคยไปสถานที่นั้นแล้วจะจำบรรยากาศนั้แได้เหมือนเพิ่งไปมาไม่นาน เขาเรียกว่า " โมเมนต์ " ใช่ไหม ถ้าใช่ นี่ก็เป็นการเดินทางอีกที่หนึ่ง ที่ผู้เขียนรู้สึกว่า วัยเรานี้แหละควรเก็บเกี่ยวบางโมเมนต์นี้ไว้บ้างเพื่อให้จดจำ ความรู้สึกที่เรียบง่าย และสงบ ในที่นี้ " วัดป่าดาราภิรมณ์ " ถ้าเราไปในที่ไหนแล้วไม่รู้สตอรี่ในที่นั้น ๆ จะถือว่าไปไม่ถึง ผู้อ่านถือนิยามนี้ตลอดในการเดินทางที่ผ่านมา ไปถึงที่แล้วมันจะได้อิน จะได้บอกดีเทลเพื่อนร่วมทางเราได้ ว่าที่นี้มีความเป็นมายังไง อย่างที่นี้ก็เช่นกัน วัดป่าดาราภิรมณ์ เป็นวัดอารามหลวง ใน จ. เชียงใหม่ ที่มีประวัติมายาวนาน ในประวัติเดิม พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต หรือ หลวงปู่มั่น ที่ชาวไทยเราศรัทธา ท่านได้จาริกธุดงค์มาที่เชียงใหม่ และได้พำนักที่ป่าช้าร้างที่ติดกับสวนเจ้าสบาย ในพระตำหนักดาราภิรมย์ของเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งสถานที่นี้เป็นสถานที่สงบ และเงียบ เหมาะกับการบำเพ็ญกรรมฐาน จึงมีพระสงฆ์ได้เข้ามาบำเพ็ญกรรมฐานเรื่อยมา ทำให้ชาวบ้านในละแวกได้พบเห็นจึงเกิดความศรัทธา ได้นำกันมาสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายเพื่อให้คณะสงฆ์ได้ใช้ในกิจการสงฆ์ เจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ ทายาทของ เจ้าดารารัศมี พระราชชายา ได้ถวายที่ดินดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานพระตำหนักเจ้าดารารัศมีให้แก่วัด จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ นามว่า “วัดป่าดาราภิรมย์” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี จึงได้กำเนิดวัดนี้มาถึงปัจจุบัน จากการเดินทางที่ไม่ซับซ้อนเข้าซอยมาจากถนนมาไม่ไกล พอเข้ามาข้างในซอยไม่คิดเลยว่าอดีตนั้นที่เคยมีประวัติศาตร์และอารยธรรมล้านนาซ่อนอยู่ เทียบแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2481 จะร้อยปีแล้วหรือนี่ สถานที่นี่ยังดูคลาสิคและใหม่อยู่เลย บรรยากาศภายในวัด มีความเป็นล้านนาและศิลปะของสถาปัตยกรรมแบบภาคเหนือโบราณ ทั้งศาลา วิหาร โคมล้านนาหลากสีต่าง ๆ ดูสบายตา พอเข้ามาภายใน พระวิหารหอคำหลวง ภายในประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมมิกราชเจ้าพระเจ้าธรรมจักรพรรดิ์ วิหารหลวงแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ภายในวิหาร เต็มไปด้วยศิลปะการแกะสลัก แปลกตา มีพระนอนคล้ายไปทางพม่า เข้ามาในนี้สามารถมากราบไหว้พระประธานภายในได้ เดินออกมาด้านนอกก็จะเจอศาลาทรงล้านนาต่าง ๆ ที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็น หอพระกรรมฐาน ชาตกาล 100 ปี พระพุทธพจนวราภรณ์ เดินออกมารอบวัด ก็จะเห็นป้ายคติธรรมเตือนสติอยู่รอบ ๆ ภายในวัด วิหารภายในวัดดูงดงาม พาให้มองเพลินเหมือนได้เสพศิลป์ ทั้งประตู หน้าต่าง ซุ้มบันได หรือแม้แต่ทางเดินที่ดูเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน ชวนให้พาใจสงบ พูดได้เต็มปากว่า ถ้ามาเชียงใหม่แนะนำมาสักการะพระประธานและรอยพระพุทธบาทที่นี่กันได้ จะได้สัมผัสกลิ่นอายของอารยธรรมล้านนา ความเป็นประวัติศาสตร์ที่สามารถส่งต่อกันได้ด้วยสถาปัตยกรรมในวัด รวมไปถึงมาที่นี่ที่ได้กลับไปแน่ ๆ ก็คือใจที่เย็น และสงบขึ้นนั่นเอง เพราะอะไรไม่ทราบลองมาหาคำตอบกันได้ที่ " วัดป่าดาราภิรมณ์ " เปิดทุกวัน 8.00– 18.00 น. การเดินทาง รถยนต์ :จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนโชตนา (107) มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่ริม เมื่อถึงที่ว่าการอำเภอแม่ริม ให้ตรงไปประมาณ 120 เมตร เลี้ยวซ้ายที่สามแยกข้างหน้า (ไฟแดงแรก) แล้วขับตรงไปอีกประมาณ 220 เมตร ผ่านพระตำหนักดาราภิรมณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทางซ้ายมือ ให้ตรงไปข้ามสะพานคลองแม่สา และเลี้ยวซ้ายแรกทันทีที่ลงสะพาน ตรงไป 300 เมตรจะเจอวัด รถโดยสาร :ขึ้นสองแถวเหลือง เชียงใหม่ – แม่ริม ที่ขนส่งช้างเผือก ลงที่ที่ว่าการอำเภอแม่ริมแล้วเดินต่อไปยังวัดป่าดาราภิรมณ์อีกประมาณ 12-15 นาที ติดต่อ : https://www.facebook.com/watphadarabhirom/ PHOTO: Sunday morning