ด้วยสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ ดูแล้วยิ่งแย่ลงทุกวัน ส่งผลกระทบมากมายต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของเรามากเลยทีเดียว พอความเป็นอยู่ไม่ดี ทำให้สุขภาพจิต สุขภาพกายไม่ดีตามไปด้วย แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก ก็ต้องดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมต่อไป แต่เราสามารถที่จะเลือกการดูแลสุภาพกายของเราให้ดีได้ ด้วยหลายๆวิธี วันนี้จะมาเขียนเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกายด้วยการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เพราะคิดว่าการวิ่ง เป็นกีฬาที่ดูแล้วง่าย ๆ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่มีรองเท่าคู่เดียวก็ออกมาวิ่งได้แล้ว ก่อนการวิ่งเราควรเตรียมตัวยังไงบ้าง จากประสบการณ์จริงของผมแล้ว การเตรียวตัวก่อนการวิ่งที่ปฏิบัติอยู่ทุกครั้ง ก็คือการที่เราพร้อมที่จะออกมาวิ่ง ดึงตัวเองออกมาจากกรอบ บางคนติดตัวเองอยู่ในกรอบ เหตุผลเยอะ มากมายที่ไม่ออกมาวิ่ง เวลาไม่มีบ้าง ไม่มีเพื่อนบ้าง อุปกรณ์ไม่มีบ้าง ส่วนของผมนั้น เริ่มวิ่งจากการที่เรา อยากสุขภาพดี ตอนแรกเลยก็คิดแบบนี้ ขี้เกียจ ไม่มีเวลาบ้าง แต่นั้นไม่ใช้เหตุผล พอดึงตัวเองออกมาจากกรอบได้แล้ว ก็มาเริ่มวิ่ง ตอนแรกๆก็มาวิ่งเลย ไม่มีการวอร์ม อบอุ่นร่างกายก่อน วิ่งเลย วิ่งเสร็จ ก้ไม่ได้ยึดเหยียดกล้ามเนื้อ กลับบ้านเลย พอทำแบบนี้ไปนานๆ เริ่มมีอาการเจ็บที่ขาด้านหลัง ตอนแรกๆก็คิดว่าเจ็บนิดเดียว วิ่งไปเรื่อยๆเดียวก็หาย สุดท้ายเจ็บหนักจนต้องไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ให้หยุดวิ่ง ครึ่งปี ตกใจมากเลย เพราะไม่เคยเป็น เลยต้องหยุดวิ่งไป ครึ่งปี ช่วงนั้นน้ำหนักขึ้นมา 5 กิโลเลยครับ 555 จากปกติ หนัก 63 ตอนนั้นขึ้นมาหนัก 68 ภาพจากผู้เขียน พอเริ่มหายเจ็บ ก็เริ่มศึกษาวิธีการวิ่ง จึงได้รู้วิธีการ วอร์ม อบอุ่นร่างกายก่อนวิ่ง วิธีการวิ่ง การยึดเหยียดกล้ามเนื้อหลังวิ่ง ก่อนวิ่งเราควรจะยึดเหยียดกล้ามเนื้อและอบอุ่นร่างกาย หรือเรียกว่าการวอร์มอัพ เพื่อให้กล้ามเนื้อและร่างกายพร้อมต่อการวิ่ง ควรใช้เวลาวอร์มประมาณ 10 - 15 นาที ก่อนที่จะวิ่ง หรือ ออกกำลังกาย และไม่ควรทานอาหารก่อนวิ่งนะครับ เพราะจะทำให้จุกได้ครับ พออบอุ่นร่างการเสร็จ ก็เริ่มวิ่ง ด้วยการวิ่งช้า ๆ ประมาณสัก 1-3 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็เริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นที่ละน้อย เอาเท่าที่เราไหวนะครับ ไม่ไหวก็อย่าฝืนครับ ผมจะวิ่งเรื่อย ๆ วันละประมาณ 10 กิโลเมตรครับ ตอนแรก ๆ ก็จะเหนื่อยหน่อยครับ พอทำบ่อยๆ เริ่มชินและดีขึ้น แนะนำใครที่เริ่มวิ่ง ให้วิ่งช้าๆก่อน ไม่ต้องเอาระยะทาง ให้จับเวลา ประมาณ 20 -30 นาที อย่างน้อย พอวิ่งบ่อยๆ ก็ค่อยๆ เพิ่ม ระยะเวลาเรื่อยๆ และเพิ่มระยะทางตามไปด้วยครับ ภาพจากผู้เขียน หลังจากการวิ่งเสร็จทุกครั้ง ผมก็จะทำการยึดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใช้งานหนัก ๆ นาน ๆ ลดการปวดเมื่อยและการบาดเจ็บครับ ทำแบบนี้ทุกครั้งหลังการวิ่ง หรือ ออกกำลังกาย ตอนนี้วิ่งหนักๆ ไม่เจ็บแล้วครับ ช่วยได้เยอะมากเลยครับ ภาพจากผู้เขียน นอกจากการวิ่ง จะได้สุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังได้สังคมเพิ่มขึ้นครับ ได้รู้จัก พี่ ๆ น้อง ๆ นักวิ่งหลาย ๆ คน เห็นไหมครับ ว่าการวิ่ง ออกกำลังกาย ดีมากขนาดไหน ผมอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ หันมาออกกำลังกายกันนะครับ เครียดจากการทำงาน เศรษฐกิจ สังคม ก็ออกมาวิ่งกันครับ ช่วยให้คลายเครียดได้เยอะเลยครับ แต่ช่วงนี้ที่เชียงใหม่ ฝุ่น PM2.5 เยอะมากๆ ยังไงก็พักวิ่งกันก่อนนะครับ พออากาศดีขึ้นค่อยกลับมาวิ่งกันใหม่ครับ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ ทุกคน