ยุคโควิด อะไรๆ ก็คาดไม่ถึง “การ์ดอย่าตกนะครับ แต่คุณตกเสียเอง” วลีฮอตฮิตช่วงนี้เลย ยุคโควิดเป็นยุคที่อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ผู้อ่านเคยบ้างไหมที่คิดว่า หากให้ความร่วมมือกันมันจะดี แต่สุดท้ายก็ยังมีช่องโหว่ให้พลาดจนได้ แล้วเราจะทำไงดีกันล่ะ ขนาดเราพยายามป้องกันให้ดีที่สุดแล้วนะ อย่าเพิ่งเครียดไปนะคะท่านผู้อ่าน ลองมาฟังวิธีการประหยัดน้ำในหน้าฝนตกชุ่มๆ ฉ่ำๆ กันก่อน รับรองว่าเกี่ยวกับการรับมือโควิดแน่นอนที่ท่านอาจคาดไม่ถึง หน้าฝนแบบนี้ ฝนก็ตกมาให้เย็นฉ่ำชื่นใจ พอได้เหยียบน้ำแฉะๆ ข้างถนนกันบ้าง แต่กับคนบนดอยอย่างผู้เขียนนั้นบอกเลยว่า รอคอยเวลานี้มาอย่างยาวนาน ประปาภูเขา ท่านผู้อ่านคงเคยชินกับการเปิดก๊อกน้ำไหลออกมาตลอดเวลา ยกเว้นกรณีมีบางวันปิดซ่อมก็หยุดไหล หน้าแล้งบางวันก็เปิดปิดน้ำเป็นเวลา ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง คือระบบน้ำประปาในเมือง แต่บนดอยที่ต้องพึ่งระบบประปาภูเขา คือ ระบบที่ต่อท่อจากต้นน้ำบนภูเขา หรือต่อจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ก๊อกมันจะเปิดและไหลตลอดเวลาได้นั้นขึ้นกับปริมาณน้ำที่มีในธรรมชาติจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำใต้ดิน บนดิน หรือแม้กระทั่งน้ำจากฟ้าหรือฝน พอน้ำมาถึงได้ดีใจกันแบบสุดๆ รีบเอาภาชนะมารองกันใหญ่ เพราะฝนนั้นทิ้งช่วงมา 6-7 เดือนแล้ว นอกจากดีใจเรื่องฝนตกนั้น ก่อนหน้านี้กว่าเราจะผ่านหน้าแล้งอันโหดร้าย เราได้ทำการปรับตัวไว้ล่วงหน้า ก่อนโควิดจะเข้ามาเยือนประเทศไทย ด้วยสารพัดวิธีประหยัดน้ำ วิธีประหยัดน้ำฉบับคนบ้านดอย 1.ปิดก๊อกทั้งบ้าน ปิดคือปิดจริงๆ นะคะ แบบใช้กุญแจล็อคเลย เปิด-ปิดใช้เป็นเวลา แล้วแต่กำหนดเลย ผู้เขียนเลือกที่จะเปิดน้ำใช้ช่วงเดียวคือ ตีห้าถึงหกโมงเช้าของทุกวัน เปิดแล้วรีบกรอกใส่ภาชนะไว้ 2. จำกัดการใช้น้ำต่อคน ส่วนมากเราจะใช้น้ำเยอะๆ ในห้องน้ำและห้องครัว ในห้องน้ำมีการรองน้ำสำหรับอาบอย่างเดียวใช้ได้คนละ 25 ลิตร น้ำในห้องน้ำสำหรับขับถ่าย อีกคนละ 20 ลิตรต่อวัน แต่น้ำดื่มกินใช้ปรุงอาหารใช้ได้ไม่จำกัด แต่ห้ามนำน้ำดื่มที่ผ่านการกรองไว้บริโภคไปใช้อาบ ไปซักผ้า ไปล้างจานเด็ดขาด สำหรับน้ำเพื่อการล้างภาชนะเหล่านั้นให้รองไว้ต่างหากแยกจากน้ำในห้องน้ำ อาจจะคนละไม่เกิน 10 -15 ลิตรต่อวัน สรุปทั้งน้ำกินน้ำใช้เราใช้กันจริงๆ ไม่เกิน คนละไม่เกิน 100 ลิตรต่อวัน ยังไม่ถึงค่าเฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่คนละ 200 ลิตร / คน/ วัน 3. ใช้ภาชนะรองน้ำที่ไม่สะดวกต่อการตักหรือเท จะได้ใช้น้ำได้น้อยๆ 4. นำน้ำเก่ามาใช้ใหม่ เช่น นำน้ำที่อาบแล้ว กลับมารดน้ำต้นไม้ กลับมาซักผ้า กลับราดชักโครกแทนใช้น้ำสะอาดๆ ราดเสียไปเปล่าๆ 5. สำรองน้ำไว้ในแท้งค์ กะละมัง ถ้วย ถัง ชาม ไห ภาชนะอะไรก็ได้ที่รองน้ำฝนไว้ได้ ปิดฝากันยุงด้วย การ์ดไม่ตก = ปรับตัวให้ไว พออ่านมาถึงตรงนี้ ประหนึ่งชีวิตลำบากมากๆ เลยใช่มั้ยคะ ที่ต้องใช้ชีวิตรัดเข็มขัดประหยัดน้ำกัน 6 - 7 เดือนมานี่ ใช่ค่ะ! ลำบากมากๆ หน้าแล้งบนดอยไม่มีน้ำจริงๆ แต่พอหน้าฝนเราก็ใช้ชีวิตได้ผ่อนคลายขึ้น เพราะมีน้ำฝนมาให้ได้ใช้ ได้กิน ได้พอเก็บ ซึ่งเรายังใช้กฎการประหยัดน้ำเช่นเดิม แต่เรากลับไม่รู้สึกลำบากเหมือนช่วงแรกๆ มนุษย์เราสุดยอดแห่งการปรับตัว หากคิดจะปรับ หากคิดจะเปลี่ยน เราไม่ได้ว่าใครการ์ดตก แต่เราต้องมีสติตั้งรับอยู่เสมอ เตรียมปรับก่อนเกิดภัย ทุกคนมีหน้าที่ เราก็มีหน้าที่ แต่เราต้องทำงานร่วมกัน หากจุดรั่วคนอื่นมี จุดรั่วเรามี พวกเราพากันจบ หากจุดรั่วคนอื่นมี จุดรั่วเราอุดทัน บางคนจะรอด หากจุดรั่วคนอื่นไม่มี จุดรั่วเราไม่มี ช่วยกันอุดทัน ทุกคนรอด แบบไหนดี...ท่านผู้อ่านคงมีคำตอบในใจแล้ว ภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน