สวนผึ้งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ใครหลายคนนึกถึง เป็นจุดหมายปลายทางที่เดินทางง่าย ถนนหนทางสะดวกสบาย มีจุดให้แวะพักถ่ายรูปเช็คอินตลอดเส้นทาง สวนผึ้งสมัยนี้ต่างกับเมื่อหลายปีก่อนมาก ย้อนไปเมื่อครั้งเก่าก่อนที่กินที่เที่ยวไม่ได้มีเยอะแบบทุกวันนี้ เรียกว่าต้องเตรียมเสบียงไว้ในรถกันให้พร้อมถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องฝากท้องฝากความหวังไว้กับรีสอร์ทที่จะเข้าพักสถานเดียว การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเข้ามาเที่ยวป่าชมภูเขา ดูต้นไม้ใบหญ้ากันบ้าง ถ้าคำนวณเวลาจากครั้งสุดท้ายที่เคยมาก็ปาเข้าไปครึ่งทศวรรษ ไม่รู้ว่าอะไร ๆ จะเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว ป่าเขาจะยังสวยอยู่หรือเปล่าผู้คนจะยังใจดีอยู่หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วก็เดินทางลุยไปด้วยกันเลย ก่อนจะเข้ามาถึงที่พัก เราขับรถตระเวนเที่ยวกันมาตลอดทาง กะประมาณเวลาว่าให้ไปถึงบ่ายสองจะได้ไม่ต้องนั่งแกร่วรอห้องที่ล็อบบี้ ก็ปรากฏว่าไปถึงก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง โชคดีที่มีห้องว่างพอดีเข้าเช็คอินได้เลย แว่บแรกที่ได้เห็นบรรยากาศของรีสอร์ทชวนให้หวนนึกถึงบ้านในนิทานเด็กน้อยเรื่องหมูสามตัว แต่มีเฉพาะบ้านอิฐของหมูตัวที่สามนะ ถ้าสังเกตกันให้ดีรีสอร์ทที่นี่จะมีห้องพักไม่มากนัก จึงมองเห็นสนามหญ้าเขียวชอุ่มมีฉากหลังเป็นภูเขาทอดแนวยาวโดยรอบและที่น่ารักไปกว่านั้นก็คือบ่อน้ำตรงกลางที่ดูแล้วเหมือนฟาร์มในหนังฝรั่งไม่มีผิด ห้องพักที่นี่จะเป็นบ้านชั้นเดียวหลังคาสูงโปร่งมีแอร์ให้ทุกห้องไม่ต้องกลัวร้อน ช่วงเวลาแดดร่มลมตกเปิดหน้าต่างรับลมได้สบาย ๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องยุงและแมลงเพราะมีมุ้งลวดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย บรรยากาศภายในห้องตกแต่งไว้อย่างเรียบง่ายสบาย ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน วันที่ไปได้พบกับเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มใหญ่ใจดี ช่วยยกกระเป่าเข้ามาให้ด้วยตัวเองพร้อมทั้งแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณข้างเคียง อย่างนี้ต้องเรียกว่าบริการทุกระดับประทับใจจริง ๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะได้พบกับเตียงไม้ขนาดใหญ่นอนได้ 2 คน ถ้ามีลูกเด็กเล็กแดงตามมาด้วยสามารถขอที่นอนเสริมได้เลย ห้องพักที่นี่กว้างขวางวางที่นอนเสริมได้สบาย ด้านข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้ดูเป็นธรรมชาติดี ภายในตู้มีไม้แขวนผ้าเตรียมไว้ให้หลายอันเพียงพอสำหรับใช้งาน บริเวณปลายเตียงจะมีโต๊ะยาวสำหรับวางข้าวของได้พอประมาณ มีตู้เย็นเล็กจิ๋วแช่น้ำดื่มเย็น ๆ เตรียมไว้ให้ช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี ห้องพักที่นี่จะตกแต่งสไตล์ลอฟท์ เป็นผนังปูนเปลือย เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ดูแล้วคลาสสิกดี แสงไฟสีส้มดูนวลตาช่วยเพิ่มให้บรรยากาศดูอบอุ่นมากขึ้น ห้องน้ำดูกว้างขวางมาก แยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน มีช่องระบายอากาศหลายด้าน ไม่อับชื้น แต่พอตกกลางคืนก็จะมีแมลงเข้ามาเยี่ยมเยียนพอสมควร สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้เที่ยวตามป่าเขาบ่อยนักอาจจะไม่คุ้นเคยกับเสียงหริ่งเรไรยามค่ำคืน ต้องทำใจนอนฟังเสียงกันสักหน่อย พอได้ฟังไปสักพักก็จะชินและฟินไปเอง อรุณสวัสดิ์ยามเช้า เสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวตามป่าเขาคือบรรยากาศยามเช้าที่แสนสดชื่น พระอาทิตย์เผยโฉมขึ้นบนยอดเขา ต้นไม้ใบหญ้าที่เปียกชื้นน้ำค้างมาตลอดทั้งคืน เมื่อสัมผัสแสงแดดจะให้กลิ่นจากธรรมชาติที่หาไม่ได้ในเมืองหลวง ว่าแล้วไม่รอช้า สูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่ พอออกกำลังกายรับแสงแรกได้สักพัก ก็ชักชวนกันไปหาอาหารเช้ากินกัน ที่นี่ไม่มีบุฟเฟ่แต่จะจัดอาหารชุดไว้ให้ วันนี้มีซุปฟักทองปั่นเองปรุงเองเป็นสูตรของภรรยาเจ้าของรีสอร์ท รสชาติเข้มข้นหอมมัน เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามิน ตามมาด้วยขนมปังเนยแยม พร้อมทั้งโกโก้และกาแฟ ชุดนี้จัดการปิ้งเองชงเองได้เลย มีสเตชั่นขนมปังเตรียมไว้ให้บริการตัวเองอย่างเต็มที่ แต่วันนี้แขกเยอะสักหน่อยเลยต้องต่อแถวรอคิวปิ้งขนมปัง ไฮไลท์ของมือนี้ไข่ดาวแฝด ไส้กรอก แฮมและสลัดผักออแกนิก ถูกใจคนรักสุขภาพ จานนี้หนูน้อยกินเรียบ ทิ้งไว้แต่ผักให้ดูต่างหน้า ถึงแม้ว่าอาหารจะจัดเป็นชุดแต่ก็ขอเพิ่มได้ถ้ายังไม่อิ่ม เห็นมีคนขอซุปเพิ่มหลายโต๊ะ น่าจะเป็นเพราะชื่นชอบฝีมือของแม่ครัว อิ่มจากอาหารเช้าก็มาเดินชมสวนชมต้นไม้กันบ้าง ส้มโอต้นไม่ใหญ่แต่ออกลูกดกมากมาย ผลใหญ่แบบนี้ตัดกินได้กำลังดี เดินเลยไปสักหน่อยก็มีมะขามพวงงามห้อยระย้าอยู่เต็มต้น ไม่ได้ลองชิมว่าเปรี้ยวหรือหวาน แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้ว สำหรับใครที่ชื่นชอบบรรยากาศป่าเขาได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด รีสอร์ทแห่งนี้ตอบโจทย์ได้ดี ด้วยการให้บริการที่เป็นกันเองคอยดูและเอาใจใส่ให้คำแนะนำแจกที่มาพักอย่างใกล้ชิด ถือว่าเป็นความประทับใจที่หาไม่ได้จากโรงแรมขนาดใหญ่แน่นอน ความประทับใจเล็ก ๆ ก่อนกลับ มีของฝากเป็นหมี่กรอบแสนอร่อยใส่ในถุงผ้ารักษ์โลกให้ได้กินรองท้องระหว่างทางอีกด้วย แหมบริการดีแบบนี้ถ้าไม่รักก็แปลกแล้ว การเดินทาง: ตั้ง GPS ไปที่ โคลลีน่า รีสอร์ท สวนผึ้งได้เลย ขับรถไปทางสวนผึ้งใช้ถนน 4020 ถ้ามาจากราชบุรีจะผ่านวัดแม่พระฟาติมาและต้นผึ้งฟาร์ม ตัวรีสอร์ทจะอยู่ริมถนนทางด้านซ้ายมือ เห็นป้ายแล้วเลี้ยวรถเข้าไปได้เลย รีสอร์ทเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่อสอบถามได้ทางเฟสบุ๊ก Collina Resort Suanphung ภาพทั้งหมด จากนักเขียน